"สนธิญาณ" ชี้! คำพูด "ปู" จะกลับมาอีกครั้งเท่ากับ "ระบอบแม้ว" เปิดหน้าสู้เต็มตัว ห่วงใย "คสช."ผลักมิตรเป็นศัตรู โดยเฉพาะปมปลดบอร์ด สสส.ควรเร่งตรวจสอบ-คืนความชอบธรรม

ติดตามข่าวสารได้ที่ http://www.tnews.co.th

 

 

รายการ "สถาพรถามตรง สนธิญาณฟันธงตอบ" ประจำวันที่ 14 มกราคม 2559  ออกอากาศทางช่องทีนิวส์  ดำเนินรายการโดย คุณสถาพร เกื้อสกุล (ถา) ได้สัมภาษณ์คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) กรรมการผู้อำนวยการ บริษัททีนิวส์ทีวี โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้


สนธิญาณ : เมื่อวานมีงานปีใหม่ของทีนิวส์อีกที่หนึ่งก็มีการจัดเลี้ยงปีใหม่เช่นกันคือที่พรรคเพื่อไทย ก็สังสรรค์กันไปมีคนเข้าร่วมงานประมาณ 100 กว่าคน อดีต ส.ส. อดีตรัฐมนตรีเขาก็เชิญหัวหน้าพรรคและคุณยิ่งลักษณ์ขึ้นไปพูด ประเด็นอยู่ตรงที่คุณยิ่งลักษณ์บอกว่ารอวันจะกลับมา ความน่าสนใจก็คือว่าวันนี้สู้แน่ทางการเมือง อาจจะรู้สึกเอาได้ว่าโดนกลั่นแกล้งแต่ว่าข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรก็ว่ากันไป เมื่อประกาศว่าสู้แน่ผมคิดว่าการเมืองที่ผมได้แจกแจงมาให้เห็นโดยตลอดว่าคุณยิ่งลักษณ์จะเป็นสัญลักษณ์ในการต่อสู้ จะเป็นคนที่ระบอบทักษิณใช้เป็นตัวรุก รุกเข้าสู่ คสช. รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ วันนี้ระบอบทักษิณ พรรคเพื่อไทยไม่ได้เห็นพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในสายตา เพราะฉะนั้นคู่ต่อสู้ซึ่งถือว่าได้กระทำให้พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลก็คือกองทัพและ คสช.ทีนี้ คสช.เป็นอย่างไรผมเรียนย้ำมาโดยตลอดว่าอยู่ได้ทุกวันไม่ใช่เพราะอำนาจปืน แต่เพราะประชาชนให้การสนับสนุน ที่ไหนในโลกกองทัพก็ต้านทานประชาชนไม่ได้ วันนี้มีประชาชนจำนวนหนึ่งไม่เอา มีการต่อต้านทหาร แต่มีประชาชนจำนวนหนึ่งให้การสนับสนุน และจำนวนนั้นเป็นจำนวนที่มาก ผมถึงได้เรียนว่าสิ่งที่ต้องระวังคือการผลักให้มิตรเป็นศัตรูเช่นเรื่องชาวสวนยาง กระทรวงเกษตรเหลวไหลแล้วท่านนายกรัฐมนตรีต้องออกมาเองวันเดียวจบ อีกเรื่องหนึ่งซึ่งรุนแรงไปเรื่อย ๆ มาตรา44 ปลด สสส. ในจำนวนที่ปลดผมก็ไม่ได้รู้จักใครมากมายอาจจะมีชื่อด้วยซ้ำว่าผมเคยรับโครงการจาก สสส. ซึ่งความจริงเป็นเรื่องของการส่งเสริมกลุ่มวิทยุชุมชุมส่วนท้องถิ่นอื่น ๆ ที่ไปเชื่อมโยง 2 ท่านที่ผมรู้จักคือ คุณ สมพร ใช้บางยาง รู้จักกับท่านมาตั้งแต่เป็นนักข่าวภาคสนาม ท่านเป็นผู้อำนวยการกองสารนิเทศ ของกระทรวงมหาดไทยตั้งแต่สมัยรัฐบาล พล.อ.เปรม คุณสมพรเป็นนักปกครองที่ได้รับการยอมรับว่ามือสะอาดและถึงประชาชนเป็นผู้ที่มีความสามารถวันหนึ่งเกษียณราชการก็ออกมาทำงานทางด้านเครือข่ายชุมชนชาวบ้านมาโดยตลอด และยังทำงานทางด้านสังคมเป็นนายกสมาคมวอลเล่ย์บอลซึ่งเป็นสมาคมที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่งผู้คนที่เข้ามาเกี่ยวข้องให้ความเชื่อถือและยอมรับในการทำงานสัตย์ซื่อมือสะอาด อีกคนหนึ่งคือ นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ อดีตรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธกส. ความจริงท่านจะได้เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ของ ธ.ก.ส.มาโดยตลอด แต่ไม่ได้เป็นเพราะนักการเมืองเอาคนของตัวเองหมด ท่านก็เป็นมืออาชีพและก้มหน้าก้มตาทำงานไม่เคยโวยวาย ออกไปทำงานรับใช้ประชาชนรับใช้เกษตรกรในชนบทและเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป วันนี้ก็มาทำงานรับใช้ สสส. คือถ้าอาจจะผิดระเบียบการที่จะดูในแง่ของการทับซ้อนผมว่าก็สอบให้เสร็จไม่ใช่ออกคำสั่งด้วยมาตรา 44 การออกคำสั่งด้วยมาตรา44 คือออกเป็นกฎหมาย

 

สถาพร : เหมือนเป็นยาแรง

 

สนธิญาณ : เป็นถูกชะงักที่เจ็บปวดรวดร้าวผมต้องเรียนแบบนี้ เพราะฉะนั้น 2 คนนี้มีมวลชนที่สนับสนุน ผมไม่ใช่เอามวลชนมาขู่ คสช. หรือ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ผมอยากจะบอกว่าประชาชน 2 คนนี้มากและวันนี้ท่านก็ทำให้เห็นรู้สึกว่า 2 คนนี้ใช้ไม่ได้ ประชาชนก็ไปดูสิว่าเขาจะคิดอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์คนก็นับถือเยอะ แต่ว่าคนที่รู้จัก 2 คนนี้ดีซึ่งเป็นมวลชนที่เคยสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ก็อาจจะเปลี่ยนได้ ได้ไม่ได้ต้องไปดูของหมอมงคล ณ สงขลา เป็นอดีตรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข สมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ แต่เป็นที่รู้จักของประชาชนเพราะเป็นหมอน้ำดีที่ทำงานให้กับสังคมไทยมาอย่างยาวนานวันนี้มาบอกว่าออกมาปรารภว่า รู้สึกผิดมากที่ออกมาชุมนุม กปปส. ไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ไปเพราะหลังจากที่ไล่ไปแล้ว คสช. เข้ามาเลวร้ายกว่า ท่านใช้คำแบบนี้นะครับ เสร็จเลยสิครับแบบนี้ก็ต้องถือว่ากล่าวหาโดยตรงต่อหัวหน้า คสช. พล.อ.ประยุทธ์แล้ว ก็ทิ้งปมไว้เป็นแบบนี้ว่า พิจารณาทบทวนเถอะครับว่าท่านเป็นคนตัดสินใจเร็ว ลูกน้องคนใกล้ชิดให้ข้อมูลดำเนินการว่าหลักการพอไปได้ แต่ผมก็อยากให้ท่านได้ใช้ความกล้าหาญเหมือนตอนที่ใช้มาตรา44 ตอนที่ตั้งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและผิด

 

สถาพร : พอวันรุ่งขึ้นก็จัดการใหม่เลย

 

สนธิญาณ : ผมขอให้ท่านใช้ความกล้าหาญในเรื่องนี้สักนิดเถอะครับ ไม่ใช่เอาใจพรรคพวกตรวจสอบให้ชัดเจนแล้วใช้ความกล้าหาญคืนความเป็นธรรม ความเป็นธรรมนี้ไม่ใช่เรื่องตำแหน่ง แต่เป็นเรื่องเกียรติยศเพื่อคนที่ทำงานส่วนรวมมา