รวบแท็กซี่โจร ล่าเหยื่อขี้เมาสถานบริการย่านสุขุมวิท สารภาพก่อเหตุมาแล้ว 9 ครั้ง

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th

บชน.แถลงจับคนขับแท็กซี่ ตระเวณก่อเหตุชิงทรัพย์ ถูกรวบหลังจากนำบัตรเครดิตเหยื่อไปรูดเติมน้ำมัน-ซื้อน้ำมันเครื่อง สารภาพก่อนเหตุมาแล้ว 9 ครั้ง เน้นเหยื่อขี้เมาตามสถานบริการย่านสุขุมวิท ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ 
         

วันนี้ (17ม.ค.)  ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) เมื่อเวลา11.00น. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย ผบก.น.6 พ.ต.อ.เอนก ไพรศรี ผกก.สน.ดินแดง พ.ต.ต.ทองเปลว หาญไพบูลย์ สว.สส.สน.ดินแดง และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ดินแดง ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายจีระวัฒน์ สิงโสดา อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 หมู่ 6 ต.คำผง อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ พร้อมของกลาง สร้อยเงิน จำนวน 1 เส้น กระเป๋าหนังแบบผู้หญิงสีดำ จำนวน 1 ใบ แหวนเงิน จำนวน 1 วง เสื้อยืดคอปกสีเขียวลายขวาง จำนวน 1 ตัว บัตรประชาชน บัตรโรงพยาบาลตำรวจ บัตรโรงพยาบาลยันฮี บัตรประกันสุขภาพ บัตรเอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ และเอกสารสำคัญของผู้เสียหาย โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่อพาร์ทเม้นต์ เอสพี วิลล่า อาคารดี ซอยอุดมสุข22 แขวง/เขตบางนา กทม. เมื่อวันที่15ม.ค. เวลาประมาณ 19.10น. ในข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร
         

พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากวันที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์กับทางตำรวจ สน.ดินแดงว่าถูกคนร้ายเป็นโชวเฟอร์แท็กซี่ก่อเหตุชิงทรัพย์ด้วยการข่มขู่ ขณะกำลังโดยสารมาที่บริเวณซอยบุญชูศรี แขวง/เขตดินแดง กทม. ซึ่งคนร้ายได้ทรัพย์สินกระเป๋าผู้หญิงแบบหนัง สีดำ ภายในมี เงินสด จำนวน 5,000 บาท สร้อยเงิน แหวนเงิน บัตรเครดิตร บัตรเอทีเอ็ม และเอกสารสำคัญหลายรายการ โดยผู้เสียหายสามารถจดจำรูปพรรณคนร้ายได้เป็นชายสวมเสื้อยืดคอปกลายขวางสีเขียวคาดขาว จากนั้นตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ดินแดง เร่งติดตามหาเบาะแสคนร้าย กระทั่งเวลาผ่านไป 1 ชม. พบว่าคนร้ายได้นำบัตรเครดิตไปรูดจ่ายค่าน้ำมันและน้ำมันเครื่อง ที่ปั๊มน้ำมัน ย่านถนนราชพฤกษ์ และถนนกัลปพฤกษ์ รวม 5 ครั้ง จึงนำกำลังไปตรวจสอบปั๊มน้ำมันย่านดังกล่าว พบภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้ ขณะนำบัตรเครดิตรของผู้เสียหายไปรูดจ่ายค่าน้ำมัน พร้อมทั้งพบว่าคนร้ายขับรถแท็กซี่สีชมพูคาดน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ทศ-8664 กทม.
         

หลังจากตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบชายต้องสงสัยอีกรายขับรถแท็กซี่สีส้ม หมายเลขทะเบียน ทย-6249 กทม. ขับเข้ามาหาคนร้ายภายในปั๊ม ทราบชื่อภายหลังคือ นายสุภชัย แสนมา ทางตำรวจได้ติดตามตัวมาให้ข้อมูล จนทราบว่าคนร้ายคือ นายจีระวัฒน์ได้หลบหนีไปกบดานที่อพาร์ทเม้นต์ เอสพี วิลล่า อาคารดี ซอยอุดมสุข 22 แขวง/เขตบางนา กทม.   ทาง พ.ต.ต.ทองเปลว นำกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ดินแดงไปตรวจสอบที่อพาร์ทเม้นต์ดังกล่าวพบผู้ต้องหากำลังยืนอยู่บริเวณด้านหน้าอาคาร  จึงแสดงตัวขอตรวจค้นพบของของกลางจำนวนหนึ่ง เจ้าตัวจึงจำนนต่อหลักฐาน  ก่อนพาขึ้นไปตรวจยึดของกลางทั้งหมดบนห้องพัก       

 

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ออกตระเวนรับเหยื่อตามสถานบริการ ยามค่ำคืน ตามย่านสุขุมวิท เนื่องจากเหยื่อแต่ละรายจะอยู่ในอาการมึนเมา ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้  โดยทุกครั้งจะพาขับออกนนอกเส้นทางไปตามเส้นทางเปลี่ยวลับตาผู้คน ก่อนจะจอดรถมาเปิดประตูกระชากผู้โดยสารออกจจากรถแล้วทำการข่มขู่บังคับให้มอบทรัพย์สินของมีค่าให้แล้วขับหลบหนีไป  กระทั่งครั้งล่าสุดได้ก่อเหตุชิงทรัพย์ผู้เสียหายที่เป็นหญิงสาว  ซึ่งหลังจากก่อเหตุได้นำบัตรเครดิตรของผู้เสียหาย ไปรูดซื้อน้ำมันและน้ำมันเครื่อง แบ่งกับนายสุภชัย บางส่วนได้นำไปฝากนายนรินทร์ ราชภักดี เจ้าของอู่รถแท็กซี่ที่ตนเช่าอยู่  ต่อมานายนรินทร์ได้โทรศัพท์มาบอกให้ตนหลบหนีเนื่องจากมีตำรวจมาขอข้อมูล ตนกลัวว่าจะถูกจึงนำทรัพย์สินบางส่วนไปทิ้ง  แต่ยังมีบางส่วนเก็บไว้ในห้องพัก ส่วนโทรศัพท์มือถือนั้นนำไปขายให้ร้านรับซื้อในตลาดห้วยขวาง ก่อนนำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน กระทั่งมาถูกจับกุม
         

นอกจากนี้ผู้ต้องหา ยังสารภาพอีกว่าเคยก่อเหตุมาแล้ว 9 ครั้ง ครั้งแรก เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.58 ผู้เสียหายเป็นชายชาวญี่ปุ่น รับจากแยกอโศกมนตรีไปส่งที่สุขุมวิท39 ทรัพย์สินที่ได้โทรศัพท์มือถือไอโฟน 1 เครื่อง นำไปขายในราคา 3,000 บาท และแว่นตายี่ห้อSeiko สีน้ำตาล พร้อมกล่อง แต่ยังไม่ได้นำไปขาย  ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 22 ต.ค.58  ผู้เสียหายเป็นชายไทย รับจากบริเวณเยื้องกับสถถานทูตอเมริกา มาส่งบริเวณอาคารวานิช ทรัพย์สินที่ได้โทรศัพท์มือถือซัมซุง แกรนด์ ไพรท์สีเทา เพาเวอร์แบงค์ และสายชาร์จ ยังไม่นำไปขาย มีเพียงโทรศัพท์ไอโฟน 6 ขายไปในราคา 3,500 บาท อีก 7 ครั้งที่เหลือส่วนใหญ่เป็นโทรศัพท์ไอโฟน โดยจะนำไปขายในราคาประมาณ 1,000 - 2,000 บาท ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน ทั้งนี้เมื่อทำการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมพบว่าคนร้ายเคยก่อเหตุยักยอกทรัพย์ ในพื้นที่ สภ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาอีกด้วย