"บิ๊กฉัตร" สั่งเช็กสต๊อกยางทั่วปท. หวั่นเวียนเทียน-สวมสิทธิ ซ้ำรอยจำนำข้าว

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th

 

"บิ๊กฉัตร" สั่งเช็กสต๊อกยางทั่วปท. หวั่นมีการเวียนเทียน-สวมสิทธิ พร้อมร่อนหนังสือเชิญองค์กรตรวจสอบ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านร่วมเป็นสักขีพยานการรับซื้อ กันข้อครหาทุจริตเหมือนโครงการรับจำนำข้าว


วันนี้ (20 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กระทรวงเกษตรฯ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯ  แถลงหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงเกษตรฯ ว่า มาตรการการแทรกแซงราคายางพาราจะใช้งบประมาณของการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ตาม พ.ร.บ.การยางฯ ปี 58 วงเงิน 4,500 ล้านบาท ในการรับซื้อจากเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้ และยังมีงบค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ ค่าแปรรูป  ค่าขนส่ง และค่าการเก็บระยะสั้น ๆ ก่อนนำไปแปรรูป รวมทั้งค่าเบี้ยเลี้ยงเจ้าหน้าที่ประจำจุดรับซื้อ 1,500 จุดทั่วประเทศ รวมวงเงิน 5,479 ล้านบาท  โดยหลังจากตรวจสอบคุณสมบัติของเกษตรกร และส่งจำนวนรับซื้อยางแต่ละวันเข้าระบบบัญชีอิเลกทรอนิกส์ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)แล้ว จะสามารถจ่ายเงินให้เกษตรกรได้ภายใน 2 วัน โดยทุกจุดรับซื้อจะมีเจ้าหน้าที่จาก กยท. องค์การคลังสินค้า (อคส.) คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ซึ่งตนจะทำหนังสือเชิญมาร่วมเป็นกรรมการประจำทุกหน่วย และยังมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ในพื้นที่ ร่วมสังเกตการณ์ทุกจุดด้วย เพื่อให้การจัดซื้อโปร่งใสมากที่สุด การรับซื้อยางจากเกษตรกรทุกขั้นตอน จะมีการจัดทำเป็นแอพพลิเคชั่น ให้ทุกคนได้ดาวน์โหลดได้ตลอดเวลาเพื่อร่วมกันติดตาม

 


พล.อ. ฉัตรชัย กล่าวด้วยว่า ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีขบวนการนำยางในโครงการมูลภัณฑ์กันชน และยางในโครงการรัฐบาลเดิม เข้ามาเวียนเทียนขายในโครงการนี้นั้น ตนได้สั่งการให้ กยท.เร่งรัดตรวจสอบสต๊อกในโกดังของ กยท.ทั้งหมดทั่วประเทศ รวมทั้งสต๊อกยางของเอกชน และให้รายงานให้ตนทราบโดยเร็วที่สุด ก่อนที่จะเปิดรับซื้อยางในวันที่ 25 ม.ค.นี้ เพื่อป้องกันการลักลอบนำยางมาขายโดยสวมสิทธิเกษตรกรชาวสวนยาง

 

"กยท.ต้องเร่งรัดดำเนินการตรวจปริมาณสต๊อกยางทั้งหมดโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น รวมทั้งป้องกันไม่ให้มีการนำยางของประเทศเพื่อนบ้านมาสวมสิทธิด้วย เพราะไม่ต้องการให้เกิดปัญหาเหมือนโครงการรับจำนำข้าว ผมยืนยันว่าโครงการแทรกแซงราคายาง แม้ว่าจะซื้อราคาสูงกว่าตลาด แต่ไม่เหมือนโครงการของรัฐบาลที่ผ่านมา เพราะโครงการนี้มีการกำหนดกรอบที่ชัดเจน รัดกุม สร้างเสถียรภาพราคายาง และช่วยเกษตรกรได้มากที่สุด และยังนำยางมาใช้ประโยชน์ในประเทศ ขณะที่โครงการรับจำนำข้าว มีการอ้างจีทูจี แต่จากการตรวจสอบพบว่ามีปัญหาจึงมีการเตือน แต่ยังเดินหน้าต่อ ทำให้เกิดปัญหามากมาย " รมว.เกษตร กล่าวทิ้งท้าย