"บุญเลิศ" เชียร์ "ส.ส.ร." กลับมาร่างรธน.ใหม่ - เหน็บ "มีชัย" เขียนเหมือนห่วงโซ่ แก้ไม่ได้ !!

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

"บุญเลิศ คชายุทธเดช" จวกร่างรธน.ไม่เป็นสถาบันอำนาจอธิปไตย ตั้งชื่อว่าฉบับ "ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระเป็นใหญ่ในแผ่นดิน" - หนุน "ส.ส.ร." มาร่างรธน.ใหม่ เพื่อแก้วิกฤตความขัดแย้งประเทศ !!

 

วันนี้ (31 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบุญเลิศ คชายุทธเดช อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึงร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า ร่างแรกของรัฐธรรมนูญ ได้ลดบทบาทรัฐสภา และ ครม.ลงเหลือแค่ตัวประกอบของระบอบประชาธิปไตย ไม่ได้เป็นสถาบันหลักแห่งอำนาจอธิปไตยที่เป็นของปวงชนชาวไทย พรรคการเมืองและนักการเมือง หรือ ส.ส. แม้ประชาชนเลือกให้มาทำหน้าที่ทางนิติบัญญัติ และตั้งรัฐบาลก็ถูกควบคุม บ่อนเซาะตั้งแต่ลงสมัครรับเลือกตั้งแบบให้กาบัตรใบเดียว เมื่อเป็นรัฐบาลก็บริหารประเทศไม่ได้ เพราะเจอกับดักเต็มไปหมด นโยบายพรรคนำมาปฎิบัติไม่ได้ถ้าไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญหรือตามกฏหมายยุทธศาสตร์ชาติ จะแก้รัฐธรรมนูญก็ทำไม่ได้ องค์กรที่เป็นใหญ่กลับกลายเป็นองค์กรอิสระทั้งหลาย จึงขอตั้งฉายาร่างรัฐธรรมนูญฉบับ ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
 
        


นายบุญเลิศ กล่าวอีกว่า นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.บอกว่าให้เสนอแนะมาว่าจะให้แก้เรื่องอะไร ประเด็นไหน ตนเห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญที่ออกมานี้ไม่สามารถเสนอแก้ไขเป็นรายมาตรา หรือรายประเด็นได้ เนื่องจากเขียนร้อยเรียงผูกมัดเชื่อมโยงเหมือนห่วงโซ่หรือตาข่าย กระจายไปอยู่ทุกหมวด นอกจากจะต้องเขียนใหม่โดยยืนบนพื้นฐานของหลักการประชาธิปไตย ฟังเสียงประชาชน ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการร่างอย่างแท้จริง อาจต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ตั้งแต่การให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาร่าง ผ่านการคัดสรร ส.ส.ร.ที่ทุกฝ่ายยอมรับ เสร็จแล้วจึงค่อยนำไปลงประชามติ ถ้าไม่ทำเช่นนี้ ปัญหาความขัดแย้งไม่จบ ไม่มีวันจะได้รัฐธรรมนูญที่สร้างความปรองดอง และการปฎิรูปประเทศได้สำเร็จ
         

 

"รัฐธรรมนูญปี 40 บัญญัติให้แก้ไขได้ง่ายโดยเขียนว่า เมื่อครบ 5 ปี ให้ กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ หรือป.ป.ช.ทำรายงานเสนอความเห็นต่อรัฐสภา และ ครม.เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือกฏหมายอื่นได้ แต่ในร่างฯ นี้เขียนไว้ให้ยากหรือแก้ไม่ได้ บทเรียนมีมาแล้วคือรัฐธรรมนูญปี 50 แก้ไม่ได้ กระทั่งเกิดวิกฤติอยู่หลายปี สุดท้ายก็ฉีกรัฐธรรมนูญอีก" นายบุญเลิศ