- 04 ก.พ. 2559
ติดตามข่าวสารข้อมูล www.tnews.co.th
"มีชัย" เผยกรธ.ต้องปรับเนื้อหาบทเฉพาะกาลในร่างรธน. เพื่อเร่งเลือกตั้งปี 60 สนองความต้องการของนายก ส่งผลให้มีการเร่งพ.รบ.ประกอบรัฐธรรมนูญการเลือกตั้ง 5-6 ฉบับ ให้เสร็จ คาดประมาณก.ค. หรือ ส.ค. น่าจะมีการเลือกตั้ง
วันนี้ ( 4 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่รัฐสภา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า กรธ.มีแนวความคิดปรับปรุงเนื้อหาของบทเฉพาะกาลในร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีการเลือกตั้งเร็วขึ้นในปี 2560 ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งอาจจะกำหนดให้มีการเร่งพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้งประมาณ 5- 6 ฉบับให้เสร็จ และมีผลบังคับใช้ก่อนเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง โดยไม่จำเป็นต้องให้กฎหมายลูกต้องมีผลบังคับใช้ทั้ง 10 ฉบับ ตามที่บัญญัติไว้ในบทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญ
“กำลังคิดกันอยู่ เพราะเมื่อท่านนายกรัฐมนตรีออกมาพูดในเรื่องของการเริ่มกระบวนการเลือกตั้ง ท่านไม่ได้บอกว่าต้องให้มีการเลือกตั้งในวันไหนของเดือนก.ค. แต่บอกว่าให้เข้าสู่โหมดของการเลือกตั้ง ดังนั้นเดือนก.ค.หรือ ส.ค.ก็น่าจะไปได้ เราก็จะมาดูว่าที่เรากำหนดทำกฎหมายลูกเวลา 8 เดือนมันก็หืดขึ้นคอ แต่ว่าเราจะบริหารจัดการอย่างไรที่จะทำให้กฎหมายที่จำเป็นในการเลือกตั้งสามารถออกมาให้ได้ภายในระยะเวลาตามโรดแม็พของนายกรัฐมนตรี หรือจะล่าช้าไป 10-20 วันก็ค่อยมาว่ากันอีกที ก็กำลังไปดูอยู่ นายมีชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเข้าสู่โหมดของการเลือกตั้งหมายความว่าเดือน ก.ค.หรือ ส.ค. 60 จะมีการเลือกตั้งใช่หรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า คงจะอยู่ราวๆนั้น หากพล.อ.ประยุทธ์ยืนยันอย่างนั้น แต่ว่ากรธ.ต้องมาปรับดูว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความเป็นไปได้ตามนั้น อย่างน้อยต้องให้กฎหมายลูกเสร็จ 5-6 ฉบับ ถ้าทำฉบับละเดือนก็น่าจะเสร็จ และก็น่าอยู่ในวิสัยที่จะจัดการเลือกตั้งช่วงนั้นได้ เมื่อถามว่า แล้วกฎหมายลูกฉบับที่เหลือที่ไม่ได้เกี่ยวกับการเลือกตั้งจะดำเนินการอย่างไร นายมีชัย กล่าวว่า ในระหว่างการดำเนินการเลือกตั้งอาจต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งก็น่าจะใช้ช่วงเวลานั้นดำเนินการให้เสร็จ เพราะถ้าไม่ทำเอาไว้จะส่งผลให้เกิดปัญหาเหมือนในอดีตอีก จนกลไกต่างๆ ที่วางเอาไว้ไม่สมบูรณ์ “กรธ.รับรู้ถึงความกังวลของท่านนายกรัฐมนตรีแล้วและก็กำลังพยายามมาดูว่าจะปรับและเขียนให้เกิดความมั่นใจได้อย่างไร” ประธาน กรธ.กล่าว
เมื่อถามถึงข้อท้วงติงของนายเทียนฉาย กีระนันทน์ อดีตประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่แสดงความคิดเห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้อำนาจองค์กรอิสระมากเกินไป นายมีชัย กล่าวยืนยันว่า ไม่ได้มีการให้อำนาจเพิ่มเติม อย่างกรณีของศาลรัฐธรรมนูญก็มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญพ.ศ.2540 และ 2550 เพียงแต่ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจเพิ่มตรงที่การทำหน้าที่วินิจฉัยกรณีที่องค์กรอิสระกระทำการที่เป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ ซึ่งเป็นหลักการที่ต้องการให้องค์กรอิสระถูกตรวจสอบถ่วงดุล
“มันก็น่ากังวล เพราะว่าระดับท่านฟังจากคนวิพากษ์วิจารณ์ และก็ไปวิจารณ์ต่อ ถ้าท่านจะกรุณาอ่านสักนิดก็จะพบว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้มีอำนาจมากขึ้นไปจากที่เคยมีอยู่ เวลานี้มีความน่ากังวล คือการฟังมา และกระโดดจับ และนำไปวิจารณ์ต่อ ถ้าสิ่งที่ฟังมาผิด ข้อวิจารณ์จะผิดไปเรื่อย ๆ ดังนั้น กรธ.กำลังหาหนทางว่าจะทำอย่างไรเอาข้อมูลที่แท้จริงออกไปให้ประชาชนได้รับรู้อย่างทั่วถึง เพื่อให้ประชาชนได้รู้ของจริงนายมีชัย กล่าว.
