- 05 ก.พ. 2559
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
"มีชัย ฤชุพันธุ์" เผยร่างรัฐธรรมนูญมีความมุ่งหวัง 3 ประการ แนะประชาชนอย่าฟังพวกที่บิดเบือน ให้อ่านของจริง พร้อมรับฟังทุกความเห็น ซึ่งรายละเอียดยิบย่อยนั้นอยู่ในกฎหมายลูก ...
วันนี้ (5 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวเปิดงานสัมมนาเพื่อสร้างความเข้าใจร่างรัฐธรรมนูญ และการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ร่างรัฐธรรมนูญก่อนการลงประชามติ ให้แก่สภาองค์กรชุมชน ว่า วันนี้ตนมาพูดคุยด้วยความหวังว่าต้องการให้ประชาชนช่วยประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจร่างรัฐธรรมนูญให้ถูกต้อง ไม่ให้คนที่ไม่ชอบเอาไปบิดเบือน องค์กรชุมชนเป็นการจัดตั้งจากคนในพื้นที่อย่างแท้จริง รู้ปัญหารากหญ้ามากกว่าองค์กรอื่นๆ องค์กรนี้ถ้าทำให้ดีอย่าให้การเมืองแทรกได้ ก็จะเป็นปากเสียงประชาชน ถ้าการเมืองเข้ามาแทรกแซง วิธีคิดจะเปลี่ยนไปเป็นเรื่องของพรรคพวกมากกว่าคนในหมู่บ้าน
นายมีชัย กล่าวว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีความมุ่งหวัง 3 ประการ คือ 1.สิทธิของประชาชนเกิดดอกออกผลต่อประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ต้องตะเกียกตะกายต่อสู้ดิ้นรนอย่างที่เป็นอยู่ 2.ทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างจริงจัง และ 3.ทำให้การเมืองสุจริต ขจัดการทุจริตประพฤติมิชอบให้หมดไป ต้องทำให้เหลือน้อยที่สุด ขจัดคนไหนได้เอาออกไป เราจะมีเงินเหลือมหาศาล ปัจจุบันการทุจริตในท้องถิ่นไม่ใช่แค่ 20% แล้ว กว่าจะถึงประชาชน 100% ก็มี อันตรายของการทุจริตรุนแรงมาก กว่าเราจะรู้ตัวเมื่อไหร่ก็หมดเมื่อนั้น ถ้าเป็นอย่างนี้อีกไม่เกิน 20 ปี ประเทศเราล้ม รัฐธรรมนูญนี้จึงเข้มงวดกับการทุจริตประพฤติมิชอบ
ส่วนกลไกในการเลือกตั้ง ส.ว.คือสร้างการมีส่วนร่วมมากขึ้น การเลือกตั้ง ส.ส.บัตรใบเดียว จะทำให้พออยู่กันได้ ถ้าคนดีอยู่พรรคไม่ดีก็ทำงานไม่ได้ ถ้าคนไม่ดีไปอยู่พรรคดีก็ทำให้พรรคเดือดร้อน พรรคกับคนแยกไม่ได้ เราต้องดูไปพร้อมๆ กัน ทั้งนี้ การเลือกตั้งตามระบบเดิม จะทำให้คะแนนเกินครึ่งที่ไม่ได้รับเลือกถูกทิ้งน้ำ เราทำให้คนที่ไปเลือกตั้งทุกคนมีส่วนได้ด้วย ไม่ใช่คนชนะมีความสุข ขณะที่คนอื่นทุกข์
สำหรับประเด็นนายกรัฐมนตรีไม่ต้องเป็น ส.ส.นั้น นายมีชัย กล่าวว่า ที่ไปบอกกันว่าเราไปเอานายกฯ คนนอกนั้น เขาหลอก ถ้าท่านไม่เลือกไม่ชอบจะไปเอาคนนอกมาได้อย่างไร เราไปทำโพลมาแล้วประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าคนนอกในไม่สำคัญ ขอให้เป็นคนดี อย่าโกง ในวันที่ประกาศชื่อนายกฯ ยังไม่มีการเลือกตั้ง วันนั้นยังไม่รู้ว่าใครจะได้เป็น ส.ส.คนที่ไปสมัคร ส.ส.แล้วคิดว่าจะได้เป็นแน่ใจหรือ ถ้าเอาตามระบบเดิม คือ บัญชีรายชื่ออันดับ 1 แต่ไม่แน่นอนตามระบบใหม่ เพราะเราจะคำนวณคะแนนเสียงทั้งประเทศจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต ถ้าเขตได้ไม่ถึงก็เอาบัญชีรายชื่อเติม สมมติว่าคำนวณแล้วได้ ส.ส.เขตครบ ก็จะไม่ได้บัญชีรายชื่อเลย จึงต้องเสนอชื่อนายกฯ ก่อน
"คนพยายามที่จะบิดเบือนโกหกก็มี เวลาที่ไปเห็นข้อมูลบางพรรคบางพวก กรุณาย้อนกลับมาดูในรัฐธรรมนูญจริงว่าเขียนว่าอย่างไร เราจะได้ช่วยทำกุศลทำความจริงให้ปรากฏ เรารู้ว่าคนเพียง 21 คน ร่างไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ เราต้องรับฟังจากคนที่สนใจให้ช่วยบอกด้วย ถ้าเป็นความเข้าใจผิดก็ชี้แจง ถ้าขาดตกบกพร่องก็จะไปเติม เพื่อให้สมบูรณ์ที่สุดใช้ได้กับทุกคน" นายมีชัย กล่าว
นายมีชัย กล่าวถึงประเด็นสิทธิเสรีภาพในร่างรัฐธรรมนูญ ว่า จะทำให้เกิดผลจริงจังและได้รับทุกคน ไม่ใช่ได้เฉพาะคนที่ต่อสู้เรียกร้อง เนื่องจากที่ผ่านมาเวลามีคำพิพากษาจะใช้ได้เฉพาะคนที่เรียกร้องสิทธิ สิทธิของบุคคลเราเขียนไว้ในหมวดสิทธิเสรีภาพ ส่วนสิทธิที่เป็นของจำเป็นที่ประชาชนต้องมีเราเขียนในหมวดหน้าที่ของรัฐ ที่รัฐต้องจัดให้ครบถ้วน ไม่ต้องตะเกียกตะกายเรียกร้อง ถ้ารัฐบาลไม่ทำก็ถือว่าจงใจไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มีโทษพ้นจากตำแหน่ง ที่เห็นว่าสิทธิเสรีภาพหายไปกว่าครึ่งนั้น ไม่ได้อ่านเลยว่าอยู่ในหมวดหน้าที่ของรัฐ สมมติบอกว่าเรามีสิทธิกินน้ำต้องไปหาน้ำกินเอง แต่ถ้าเราบัญญัติให้แจกน้ำทุกคนก็ได้น้ำกินทุกคน ในกฎหมายแพ่งไม่พูดถึงสิทธิเลย มีแต่หน้าที่ เช่น พ่อแม่ต้องเลี้ยงดูลูก ไม่ใช่ลูกมีสิทธิได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่ ถ้าพ่อแม่ไม่ทำก็มีสิทธิฟ้องได้ เมื่อคนหนึ่งมีหน้าที่ อีกคนก็มีสิทธิ มันมาควบคู่กัน ถ้าเข้าใจตรงนี้ก็จะอุ่นใจขึ้นเยอะ
ส่วนเรื่องสิทธิชุมชน นายมีชัย กล่าวว่า เราเขียนไว้ถึง 6 มาตราที่เกี่ยวข้อง ที่บอกว่าหายไปไม่จริงมันอยู่ครบ เขียนไว้ละเอียด เราไม่ได้ลอกรัฐธรรมนูญปี 2540 แต่คุ้มครองได้กว้างกว่า หากยึดติดแต่คำก็บอกว่าเราละทิ้ง ส่วนสิทธิการศึกษาภาคบังคับ เราเขียนค่าใช้จ่ายในการศึกษาคือรวมทั้งหมดทุกอย่างไม่ใช่แค่ค่าเทอม ดังนั้น จึงมีสิทธิมากกว่าที่เคยมี เพียงแต่เราไม่ได้ให้เศรษฐี เราสร้างความเป็นธรรมให้คนจนไม่มีเงินไปเรียนได้ ส่วนประเด็นสาธารณสุขเขียนไว้ในหมวดหน้าที่ของรัฐ รัฐต้องจัดหาทั้งหมดไว้ให้พร้อมและมีคุณภาพ แต่เมื่อมีเสียงเรียกร้องให้ช่วยย้ายไปอยู่ในหมวดแนวนโยบายแห่งรัฐ เพราะอาจทำให้เกิดข้อกังวลเรื่องการฟ้องร้องมากขึ้น เราก็จะดูให้
นายมีชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า กรธ.ร่างรัฐธรรมนูญไม่เหมือนปี 2540 , 2550 เพราะปัญหาของประเทศตอนนั้นไม่รุนแรงเหมือนที่เราเผชิญอยู่ สิทธิเสรีภาพไม่ใช่ไม่พูดถึงแต่เปลี่ยนหมวด สิทธิทั้งปวงไม่น้อยลง อะไรที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายไม่ห้าม ทุกคนมีสิทธิทุกประการรองรับตั้งแต่เกิดจนตาย เมื่อก่อนเขียนต่อท้ายตามมาตรากันว่า ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ นั้นไม่ได้รับรองสิทธิ เขียนเพื่อจะให้อำนาจรัฐเข้าไปจำกัดสิทธิ แต่พอเป็นหน้าที่ของรัฐแล้ว การถูกจำกัดสิทธิก็น้อยลง และบัญญัติว่ากฎหมายที่จะตราขึ้นต้องคำนึงถึงหลักนิติธรรมและจะกระทบศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ไม่ได้ ที่บอกกันว่าร่างรัฐธรรมนูญไม่มีคำว่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ก็ไม่จริง รัฐธรรมนูญเป็นของที่ใช้ทั้งประเทศ ใช้กับคนทุกสถานะ ต้องเขียนกว้างๆ ไม่ให้ไปจำกัดอะไรใคร รายละเอียดปลีกย่อยไปอยู่ในกฎหมายลูก ยืนยันว่า มีการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพพื้นฐานไว้ครบถ้วน แต่วิธีการเขียนแตกต่างกัน
