ช็อก!!! "ด.ต." เมืองปทุมฯ ดับกะทันหันคารถเก๋ง ลูก-เมียร่ำไห้แทบขาดใจ

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th

 

 

"ด.ต." เมืองปทุมฯ ช็อกกะทันหัน ดับในรถเก๋งคาเครื่องแบบ เมีย-ลูกร่ำไห้แทบขาดใจ เผยไม่มีโรคประจำตัว ผู้บังคับบัญชาระบุทำงานหนักพักผ่อนน้อย

 

 

วันนี้ (19 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. ร.ต.ท.อดิศักดิ์ คชศักดิ์ ร้อยเวร สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี รับแจ้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตภายในรถยนต์ บริเวณลานจอดรถหน้าที่ว่าการอำเภอคลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.ถาวร ขาวสอาด ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.เขมพัทธ์โพธิพิทักษ์ ผกก.สภ.คลองหลวง พฐ. แพทย์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พบรถเก๋งโตโยต้า โคโรล่า สีขาว ทะเบียน 1 กธ-1802 กทม. อยู่ในสภาพจอดดับเครื่อง และเปิดประตูข้างคนขับทิ้งไว้ ภายในที่นั่งคนขับพบศพ ด.ต.ฐากิจจ์ สินพูนเพิ่มดี อายุ 45 ปี ผบ.หมู่ (ป.) สภ.คลองหลวง ลักษณะแต่งเครื่องแบบ เสียชีวิตแน่นิ่งในลักษณะอยู่ในท่านั่ง เบื้องต้นไม่พบบาดแผล อาวุธและทรัพย์สินยังอยู่ครบ

 

สอบสวน ส.ต.ต.ธีรศักดิ์ โอดพิมพ์ ผบ.หมู่ (ป.) สภ.คลองหลวง เพื่อผู้ตายที่พบศพเป็นคนแรกให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้เดินไปซื้อของมา กระทั่งเห็นรถของผู้ตายจอดดับเครื่องอยู่ โดยประตูและกระจกทุกบานปิดสนิททั้งหมด พอมองเข้าไปด้านในก็เห็นผู้ตายศีรษะเอียนไปทางด้านซ้าย ด้วยความไม่แน่ใจว่าหมดสติหรือนั่งหลับ จึงรีบเปิดประตูดู สุดท้ายกลับพบว่าเพื่อนหมดลมหายใจไปแล้ว เช่นเดียวกับ ส.ต.ต.วัชรศร ธรรมวิเศษ ผบ.หมู่ (ป.) สภ.คลองหลวง ซึ่งเป็นคู่ตรวจกับผู้ตาย เปิดเผยว่า ตอนเช้าหลังปล่อยแถวเสร็จ ผู้ตายให้ตนออกมาปฏิบัติหน้าที่ก่อน ส่วนผุ้ตายจะขอไปติดต่อเรื่องเบิกค่าเรียนลูกที่ห้องธุรการ รู้อีกทีเพื่อนก็เสียชีวิตแล้ว ต่อมาภรรยาได้เดินทางมาพร้อมกับบุตรสาวอีก 2 คน เมื่อเห็นสภาพสามีก็ถึงกับร่ำไห้แทบขาดใจ พร้อมเปิดเผยทั้งน้ำตานองหน้าว่า สามีไม่มีโรคประจำตัว แต่เป็นคนเหนื่อยง่าย รวมทั้งมีความรับผิดชอบกับงานสูง เมื่อ 3 ปีก่อนได้แยกกันอยู่ และสามีไปมีครอบครัวใหม่ แต่ก็ยังไป ๆมา ๆ แวะมาเยี่ยมตลอด ไม่คิดว่าจะมาเกิดเรื่องขึ้น

 


ด้าน พล.ต.ต.ถาวร เปิดเผยว่า ทราบว่า ด.ต.ฐากิจจ์ เป็นคนขยัน รับผิดชอบงานดี ปฏิบัติหน้าที่เข้มแข็งคาดว่าเกิดจากทำงานหนักและพักผ่อนน้อย ทำให้หัวใจทำงานหนักเกินไปจนช็อก ยืนยันว่าจะช่วยเหลือครอบครัวเต็มที่

 

ภาพจาก : เดลินิวส์