แจ่มแจ้งแดงแจ๋! " Face Off " เปลื่ยนหน้าในร่างเดียว มีจริงหรือ!??? (และนี่คือเคสตัวอย่าง)

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่ http://www.tnews.co.th/

 

 

จัดเป็นข่าวที่คนส่วนใหญ่กำลังให้ความสนใจกันอย่างมาก กับนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่เรียกกันว่า " Face Off " หรือ การผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้า ที่กลายเป็นข่าวฮือฮาไปทั้งประเทศ เมื่อนักร้องลูกทุ่งคนดัง "สุรชัย สมบัติเจริญ" ได้ตัดสินใจรับการศัลยกรรมกระชากวัยจาก 60 ปี ลงมาอีก 30 ปี โดยการเข้าร่วมโครงการกับ ดร.เซปิง ไชยสาสน์ ประธานโครงการ "เฟสออฟ บาย ดร.เซปิง" (Face off by Dr.Xeping)

                   ที่ล่าสุดได้กลายเป็นเรื่องเป็นราวโดนทางสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า ยื่นฟ้องดำเนินคดีกับดร.เซปิง ในโทษฐานนำข้อมูลอันเป็นเท็จไปโฆษณาตามโซเชียลมีเดีย ทำให้บุคคลากรทางการแพทย์ศัลยกรรมไทยได้รับความเสียหาย ทั้งที่เป็นเพียงแค่การดึงหน้า ปลูกผมธรรมดา โดยคำนี้ไม่มีอยู่ในสารบบทางการแพทย์ อีกทั้งเจ้าตัวก็ไม่ใช่แพทย์ ถือเป็นการสร้างความสับสนให้สังคม


อย่างไรก็ตาม เพื่อความกระจ่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ เรามาดูกันว่าเทคโนโลยี Face Off  มีจริงหรือไม่ และมีวิธีการอย่างไร


ริ้วรอยร่องลึกใบหน้า 3 จุด ทั้งบริเวณดวงตาทั้งบนและล่าง ร่องแก้ม และลำคอ เป็นส่วนหนึ่งที่บ่งบอกว่าถึงวัยที่เพิ่มขึ้น ศาสตร์ชะลอวัยด้วยการศัลยกรรมใบหน้าจึงเกิดขึ้น เพื่อเข้ามาส่วนช่วยเติมเต็มความรู้สึก และทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ แต่ไม่สามารถลดวัยได้เกินครึ่ง ทำได้จำกัดอายุให้ดูเด็กลงเพียง 5-10 ปีเท่านั้น

 
ปัจจุบันเทคโนโลยียกกระชับใบหน้า ชะลอวัย จะทำใน 2 รูป คือ Face Lift ดึงและยกกระชับใบหน้าทั้งหมด เหมาะสำหรับคนสูงวัย นิยมทำในช่วงอายุ 40-50 ปี Face Lock การดึงล็อกเฉพาะจุดบนใบหน้าไม่แก่ลง นิยมทำในคนอย่างประมาณ 35-40 ปี ทั้งนี้ข้อบ่งชี้ของการทำขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ทำศัลยกรรมเป็นหลัก ส่วนราคาก็เริ่มต้นที่หลักแสนบาท


สำหรับ Face Transplant หรือ Face off มีขั้นตอนการทำดังนี้ 
1. ต้องมีทีมงานศัลยแพทย์ตกแต่ง 2 ทีม โดยทีมแรกจะเตรียมเนื้อเยื่อใบหน้าจากผู้บริจาค และอีกทีมเลาะเนื้อเยื่อใบหน้าของคนไข้ที่ต้องการการปลูกถ่าย
2. วิธีการเลาะ โดยจะลงมีดตั้งแต่กลางกระหม่อมจนถึงท้ายทอย และจากท้ายทอยมาที่ลำคอทั้ง 2 ข้าง เพื่อที่จะหาเส้นเลือดและเส้นประสาทที่เลี้ยงหนังหน้าที่ทำการเลาะออกมา
3. จากนั้นจะค่อยเลาะเนื้อเยื่อทั้ง 2 ด้านซ้าย/ขวา และด้านบน จนมาชนกันบริเวณกระดูกเบ้าตา
4. ทำการกระเทาะกระดูกเบาะตาด้านข้างออกบางส่วน รวมถึงกระดูกสันจมูกออกด้วย
5. ทำการเลาะเนื่อเยื่อต่อลงมาเรื่อยๆจนถึงกระดูกปลายคาง และตัดกระดูกปลายคางออก
6. หลังจากที่เลาะใบหน้าทั้ง 2 ออกมาแล้วด้วยแนวทางเดียวกัน จึงทำการโยกย้ายใบหน้าของผู้บริจาคและผู้รับบริจาค
7. โดยจะเริ่มประกอบหน้าใหม่ โดยให้โลหะ (miniplate) ยึดกระดูกคางก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นจึงประกอบกระดูกจมูกในลำดับถัดไป และสุดท้ายคือกระดูกเบ้าตาด้านนอก
8. เมื่อยึดกระดูกเส้นแล้ว จึงทำการต่อเส้นเลือดของผู้รับกับหนังหน้าผู้ให้
9. ต่อเส้นประสาทใบหน้าของผู้รับกับผู้ให้

 
โดยในต่างประเทศ นาย Richard Norris วัย 39 ปี คือผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือจากเทคโนโลยีการผ่าตัดเปลี่ยนหน้า หลังเขาประสบอุบัติเหตุปืนลั่นเข้าที่ในหน้า ในปี 1997 จนทำให้รูปลักษณ์ใบหน้าของเขาไม่ปรกติเหมือนคนทั่วไป โดยเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดกว่า 30 ครั้ง


กระทั่งได้รับการบริจาคใบหน้าจาก  Joshua Aversano วัย 21 ปี ซึ่งประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิต หน้าของ Joshua ถูกเปลี่ยนถ่ายไปยัง Richard โดยเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดกว่า 36 ชั่วโมง และโอกาสที่เขาจะรอดชีวิตมีเพียง 50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่แล้วทางทีมแพทย์ก็ทำสำเร็จ Richard ได้ใบหน้าใหม่ แต่ต้องแลกมากับการที่ต้องทานยาเพื่อระงับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายของเขาเองไปตลอดชีวิต

แจ่มแจ้งแดงแจ๋! " Face Off " เปลื่ยนหน้าในร่างเดียว มีจริงหรือ!??? (และนี่คือเคสตัวอย่าง)

แจ่มแจ้งแดงแจ๋! " Face Off " เปลื่ยนหน้าในร่างเดียว มีจริงหรือ!??? (และนี่คือเคสตัวอย่าง)

แจ่มแจ้งแดงแจ๋! " Face Off " เปลื่ยนหน้าในร่างเดียว มีจริงหรือ!??? (และนี่คือเคสตัวอย่าง)

 

          และนี่เป็นเพียง 1 เคสตัวอย่าง ที่เกิดขึ้นจริงในต่างประเทศ แต่สำหรับเมืองไทยของเรา ในไม่ช้าต้องมีทีมศัลยแพทย์ตกแต่งของประเทศไทย สามารถทำการผ่าตัด Face transplant หรือที่คนวัยเลย 40 เข้าใจว่า Face off ได้อย่างแน่นอน...ในอนาคต.


ขอบคุณข้อมูลจาก Metro, สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย, สำนักข่าวไทย

ภาพจาก Metrothaich2