วอนสังคมช่วย!! "สองพี่น้อง" เรียนดีแต่ชีวิตรันทด อยู่ในเพิงเก่าผุพังกับ "ย่าป่วย" ทำงานไม่ไหว! ขาดเรียนบ่อยด้วยเหตุผลสุดเศร้า "ไม่มีข้าวกิน"

วันนี้ (20 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.สุราษฎร์ธานี มีเด็กชาย 2 พี่น้อง เรียนดี แต่ยากจน อาศัยอยู่กับย่าในเพิงไม้สภาพผุพัง ใกล้บ่อเก็บขยะเก่า ในพื้นที่ ม.5 ต.วัดประดู่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี โดยเด็ก 2 คนนี้มีชื่อว่า ด.ช.ธีทัต หรือน้องเหน่ง ศรีขาว อายุ 10 ปี และ ด.ช.ธีรภาพ หรือน้องเด้ง ศรีขาว อายุ 9 ปี ศึกษาอยู่ชั้น ป.3 และ ป.4 โรงเรียนวัดสมหวัง ส่วนผู้เป็นย่าชื่อ นางอุไร ปานศิริ อายุ 76 ปี เผยว่า เด็กทั้ง 2 เป็นหลนาแท้ๆ ซึ่งหลังจากพ่อแม่ของเด็กแยกทางกัน ก็นำหลานมีทิ้งไว้กับตนตั้งแต่ยังแบเบาะและไม่เคยกลับมาอีกเลย

โดยก่อนหน้านี้ นางอุไรทำอาชีพเก็บขยะขายเพื่อนำเงินมาเลี้ยงหลาน แต่ต่อมาทางเทศบาลได้ยกเลิกการใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นบ่อทิ้งขยะ ตนก็ต้องออกไปรับจ้างทั่วไป และรับจ้างเก็บเศษยาง ได้ค่าแรงวันละ 300 บาท แต่หลังๆมานี้ ตนมีอาการลมชักกำเริบจนไม่สามารถทำงานได้ หลานจึงไม่มีอะไรกินและต้องขาดเรียน อย่างไรก็ตาม ตนต้องการเลี้ยงดูหลานทั้ง 2 ด้วยตนเอง ไม่อยากพาไปไว้ที่สถานสงเคราะห์อย่างที่มีคนเคยแนะนำ

ซึ่งทาง น.ส.อนุชดา หรือครูกวาง อักษรกูล อายุ 28 ปี ครูประจำชั้นของเด็ก เผยว่า เด็กทั้ง 2 เป็นเด็กเรียนดี แต่ช่วงหลังๆมานี้ขาดเรียนบ่อย เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนจึงมาตามที่บ้าน พบว่ามีสภาพความเป็นอยู่ยากลำบาก โดยขณะที่ตนมาถึงนั้น เด็กทั้งสองกำลังช่วยย่าสร้างเพิงขึ้นใหม่ เนื่องจากหลังเก่าผุพังจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ รู้สึกสงสารมาก ก่อนนำเรื่องดังกล่าวไปปรึกษาผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อหาทางช่วยเหลือเด็ก

เบื้องต้น นายเสกสรร พรหมจันทร์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.5 ต.วัดประดู่ ได้นำเงินจากกองทุนแม่ของแผ่นดิน ซื้อข้าวสารอาหารแห้งให้กับนางอุไร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และหากผู้ใดมีความประสงค์ช่วยเหลือเด็กทั้ง 2 สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทร  083-032-9189

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา สำนักข่าวไทย