"เมธีฯ" ฉุน !! โดนยัด 4 ข้อหาก่อหวอดพุทธมณฑล -เพิ่มไฟโกรธ พร้อมบุกโรงพัก

ติดตามข่าวสารข้อมูล www.tnews.co.th

 

วันนี้ ( 23 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า   พระเมธีธรรมาจารย์ (ประสาร จนฺทสาโร) หรือเจ้าคุณประสาร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร ในฐานะเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีที่ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) ได้ให้สัมภาษณ์ว่าจะออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องต่อเหตุการณ์ชุมนุมที่พุทธมณฑล เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา โดย ผบช.ภ.7 ระบุว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาใน 4 ข้อหา คือ 1.ละเมิด พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ 2.ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และ 4.หมิ่นประมาท ซึ่งพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนส่งภายในวันที่ 27 ก.พ.นี้ ว่า ในเรื่องดังกล่าว อาตมาขอยืนยันว่า การมารวมตัวกันของพระสงฆ์ทั้งประเทศเป็นการมาโดยชอบ เพราะพระสงฆ์ทั้งหลายทนไม่ได้ต่อกรณีที่รัฐบาลปล่อยให้กลุ่มบุคคลเพียงหยิบมือเดียว สร้างเรื่องสร้างเหตุการณ์ เพื่อขัดขวางการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช และถือโอกาสด่าทอจาบจ้วงพระมหาเถระผู้ใหญ่ และมหาเถรสมาคม (มส.)

 

 


          เจ้าคุณประสารกล่าวต่อไปว่า การที่พระสงฆ์จำนวนมากออกมาเจริญพระพุทธมนต์ด้วยสันติ และยื่นข้อเสนอที่เป็นการปกป้องคณะสงฆ์ และยินยอมเดินทางกลับด้วยความสงบเรียบร้อย ส่วนรัฐบาลก็ออกมารับข้อเรียกร้อง และรับปากว่าจะดำเนินการให้โดยไม่มีกรอบเวลาเป็นเครื่องผูกมัด เอาความเหมาะสมเป็นที่ตั้ง ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดก็น่าจะเดินไปได้ด้วยดี แต่บัดนี้ปรากฏเสมือนหนึ่งว่า อาตมาและคณะสงฆ์ในวันนั้นถูกหักหลังอย่างรุนแรง เพราะกลายเป็นว่า ต่อจากนี้ไปจะได้เป็นผู้ต้องหาอย่างเต็มตัว มีข้อกล่าวหาติดตามมายาวเป็นหางว่าว จากกรณีร่วมกันเจริญพระพุทธมนต์ การต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยในเวลานี้ ถ้าเป็นช่วงเวลาที่ประเทศชาติปกติและกฎหมายศักดิ์สิทธิ์ พร้อมที่จะอำนวยความยุติธรรมกับทุกคน ทุกฝ่าย ไม่เลือกข้าง ก็ยังพอไหว แต่ทุกวันนี้สถานการณ์ในกระบวนการยุติธรรมเป็นอย่างไร พึ่งได้หรือไม่ ผู้คนก็พอมองเห็น

 

 

 


          "การเล่นงานด้วยวิธีการแบบนี้ ไม่สามารถหยุดยั้งพระสงฆ์กลุ่มใหญ่ในประเทศนี้ได้ ตรงกันข้าม มีแต่จะเพิ่มไฟให้กระพือโหมไหม้ให้วายวอดมากยิ่งขึ้น การกระทำแบบนี้ เป็นการปฏิบัติต่อคนในชาติแบบสองมาตรฐานอย่างแท้จริง ขณะนี้พระสงฆ์ที่เดินทางไปร่วมเจริญพระพุทธมนต์ที่พุทธมณฑลในวันดังกล่ว ได้แสดงเจตจำนงมาที่อาตมาเป็นจำนวนมากว่า ถ้ามีหมายเรียกมาถึงอาตมาเมื่อไหร่ วันไหน ทุกรูปจะขอไปแสดงตนให้ล้นโรงพักพุทธมณฑลในวันนั้น เพื่อจะไปแสดงตนเป็นพระผู้ต้องหาร่วมกันในคดีเจริญพระพุทธมนต์ดังกล่าว และยอมให้จับกุมคุมขังพระสงฆ์หมู่ใหญ่ด้วยกันทั้งหมดในวันนั้น จึงได้แต่หวังว่ารัฐบาลจะมีสติ ไตร่ตรอง ใคร่ครวญ มองอะไรให้รอบคอบ เพื่อจะได้ไม่กลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวไปในที่สุด"เจ้าคุณประสารกล่าว