"บิ๊กตู่" ใจดี !! มอบที่ดินให้ "เกษตรกร" จ.อุทัยธานี หวัง แก้ปัญหา "ผู้ยากจนไร้ที่ทำกิน"

"พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา" ประธานมอบที่ดินประมาณ 3,324 ไร่ ให้แก่ "เกษตรกร" ในพื้นที่จังหวัด อุทัยธานี  เพื่อจะแก้ไขปัญหา "ผู้ยากจนไร้ไม่มีที่ดินทำกิน"

วันนี้(26 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเป็นประธานในงานพิธีมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินแก่สหกรณ์ปฏิรูปที่ดินระบำจำกัด อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี โดยใช้ระบบสหกรณ์มาใช้เป็นขบวนการในการแก้ปัญหาการเกษตรอย่างเป็นระบบ โดยมี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในการมอบหนังสืออนุญาตดังกล่าว โดยมีข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส เลขาธิการสำนักบ่นปฎิรูปที้ดินเพื่อเกษตรกรรม กล่าวว่าสืบเนื่องจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ได้มีนโยบายการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่สงวนหวงห้าม ของรัฐและปัญหาการไม่มีที่ดินทากินและที่อยู่อาศัยของเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย โดยได้จัดตั้งคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) เพื่อจัดที่ดินให้เกษตรกรเข้าทากินและอยู่อาศัยในลักษณะไม่ให้กรรมสิทธิ์และให้บริหาร จัดการที่ดินในรูปแบบกลุ่มหรือสถาบันเกษตรกร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จึงได้จัดหาพื้นที่แปลงว่างเพื่อรองรับการดาเนินงานตามนโยบายดังกล่าว จำนวน 4 พื้นที่ใน ท้องที่ จ.อุทัยธานี จ.กาฬสินธุ์ จ.ชุมพร และ จ.นครราชสีมา รวมเนื้อที่ 5,582 - 2 - 91 ไร่ ซึ่งขณะนี้การดำเนินการในพื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดิน ต.ลานสัก อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ได้ดำเนินการเสร็จ และสามารถที่จะมอบหนังสืออนุญาตฯ ให้แก่สหกรณ์ปฏิรูปที่ดินระบำจำกัด ได้เป็นแห่งแรกพร้อม ทั้งจะขยายในจัดรูปที่ดิน และใช้เป็นรูปแบบในการบริหารจัดการพื้นที่อื่นต่อไป

อย่างไรก็ตาม ในการจัดที่ดินดังกล่าว ส.ป.ก.ได้ดำเนินการจัดที่ดินตามนโยบายรัฐบาล โดยนำพื้นที่ที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) ส่งมอบคืนพื้นที่เมื่อวันที่ 5 ก.ค.58 เนื้อที่ประมาณ 3,324 ไร่ เนื่องจากหมดอายุสัญญาใช้ประโยชน์ในที่ดินจาก ส.ป.ก. คทช.จ.อุทัยธานี จึงดำเนินการนาที่ดินดังกล่าวมาจัดสรรเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับกลุ่มเกษตรกร ผู้บุกรุกพื้นที่สงวนหวงห้ามของรัฐ และผู้ยากไร้ไม่มีที่ดินทำกินและหรือที่อยู่อาศัย 3 กลุ่ม คือ เกษตรกรผู้บุกรุกทำกินในพื้นที่ทุ่งแฝก ต.ระบา อ.ลานสัก จำนวน 18 ราย เกษตรกรผู้บุกรุกทากินในพื้นที่วนอุทยานห้วยคต อ.ห้วยคต จำนวน 126 ราย

นอกจากนั้น ยังมีเกษตรกรผู้ยากไร้ที่ไม่มีที่ดินทำกินและหรือที่อยู่อาศัย ใน จ.อุทัยธานี และจังหวัดอื่นๆ ซึ่งขึ้นทะเบียนไว้ตั้งแต่ปี 2553 - 2558 จำนวน 9,218 ราย ในโครงการนี้ ส.ป.ก.ได้ดำเนินการจัดทั้งหมด 8 ชุมชน ซึ่ง ส.ป.ก.ได้ดำเนินการแล้ว 5 ชุมชน จำนวนประมาณ 340 ราย และมีเกษตรกรลงแปลงแล้วจำนวน 1 ชุมชน ส่วนที่เหลือคาดว่าจะดำเนินการจัดที่ดินแล้วเสร็จในเดือน พ.ค.59 โดยมีเกษตรกรได้รับประโยชน์ จำนวนทั้งสิ้น 486 ราย เป็นพื้นที่จำนวนกว่า 3,486 ไร่

การจัดที่ดินในรูปแบบกลุ่มหรือสถาบันเกษตรกรนี้ มีหน่วยงานร่วมบูรณาการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และส่งเสริมการเกษตรพัฒนาอาชีพให้แก่เกษตรกร กรมชลประทานจะเข้าไปจัดการระบบระบายน้ำเพื่อการเกษตร พร้อมทั้งขุดสระเก็บน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค ซึ่งเบื้องต้นนายกฯ ได้สั่งการให้มีการสร้างในพื้นที่ โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณ 70 ล้านบาท ในการสร้างแหล่งน้ำ ซึ่งคาดว่าจะสามารถช่วยเหลือเกษตกรได้กว่า 5,000 ไร่ โดยจะครอบคุมพื้นที่ ส.ป.ก.ที่เพิ่งจัดแปลงให้กับเกษตร และเกษตรบริเวณใกล้เคียงอีก 2,000 ไร่ ได้ทำการเกษตรได้ทั่งปี โดยเบื้องขณะที่ยังไม่แล้วเสร็จ อาจมีการดึงน้ำจากเขื่อนทับเสลา มาใช้ก่อน ขณะที่ส่งเสริมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม แบบมีตลาดรองรับ ซึ่งกรมหม่อนไหม ส่งเสริมเกษตรผสมผสานและส่งเสริมโครงการเศรษฐกิจพอเพียงในชุมชน โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์และกรมปศุสัตว์ เป็นต้น