"ปึ้ง"  ตอกคสช.ละเลยเวที ACD !! ไม่มีกึ๋นทางศก.แบบนี้ จะพาชาติไปไหนได้ไกล

ติดตามข่าวสารข้อมูล www.tnews.co.th

 

วันนี้ ( 9 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า เวทีการประชุม ACD เป็นความคิดริเริ่ม ของอดีต นายกฯทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี 2546 และปัจจุบันมีประเทศสมาชิก อยู่ 33 ประเทศ และเขาจะให้เกียรติประเทศไทย นั่งทำหน้าที่เป็นเลขาฯในเวทีการประชุมทุกครั้ง โดยนายทักษิณ มีวัตถุประสงค์และเป้าหมายเพื่อจะใช้เวทีนี้ แสวงหาความร่วมมือระหว่างกัน ในการพัฒนาภูมิภาค การค้าขายร่วมกัน ซึ่งในระยะหลังจะมีกลุ่มประเทศในโลกอาหรับให้ความสนใจ ตื่นตัวที่จะใช้เวทีนี้เพื่อหารือร่วมกันมากขึ้น ในขณะที่ไทยเราถ้าเป็นรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน หรือเพื่อไทย ก็จะไม่ให้ความสำคัญหรือสนใจกับเวทีACD นี้มากนัก ซึ่งการประชุมACD ที่ไทยเราได้เป็นเจ้าภาพในปีนี้ ก็สืบเนื่องมาจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์เมื่อปี 2556 ได้ประกาศตัวเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ACD ทั้งระดับ รัฐมนตรีและระดับผู้นำหรือ SUMMIT ด้วยซ้ำไป และมีแนวคิดที่จะใช้เวทีผู้นำเพื่อให้เขาได้แลเห็นศักยภาพของไทยในการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และแหล่งผลิตอาหารเพื่อเลี้ยงหรือป้อนโลกในภูมิภาคนี้ เพราะกลุ่มประเทศอาหรับมีความร่ำรวยและพร้อมที่จะใช้จ่ายเงินเพื่อรับบริการทางการแพทย์ในบ้านเรามากขึ้น

 

 

 


          อดีตรมว.ต่างประเทศ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้สินค้าเกษตรของเราก็มีศักยภาพที่จะไปเปิดตลาดในหมู่ประเทศสมาชิกACD ได้อย่างสบาย สมัยน.ส.ยิ่งลักษณ์ มองการไกลถึงได้คิดเชิญชวนผู้นำแต่ละประเทศเข้ามาประชุมและแลกเปลี่ยนแนวคิดทั้งด้านการแพทย์กับการเกษตร แต่พอรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขึ้นมาบริหารและมีนายดอน ปรมัตถ์วินัย เป็นรมว.ต่างประเทศ แนวคิดก็เปลี่ยนไป ก็จัดประชุมแค่ระดับรัฐมนตรีเท่านั้น และจะเน้นในประเด็นการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งไม่เห็นเป็นรูปธรรม ตนรู้สึกเสียดาย เพราะรัฐบาลไม่มีสมองในเชิงธุรกิจการค้าจะนำพาประเทศไปได้ไกลแค่ไหนเมื่อเทียบกับผู้นำที่มีความเข้าใจแง่มุมทางธุรกิจและเข้าใจในเรื่องเศรษฐกิจอย่างถ่องแท้ เพราะในเวทีนี้เขาจะให้การยอมรับ นายทักษิณ ชินวัตร และเขามักจะเชิญทักษิณ ไปเป็นองค์ปาฐกในเวทีนี้เพื่อฟังแนวคิดกับวิสัยทัศน์ของท่านทักษิณในเรื่องเศรษฐกิจโลกและความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอมาและเวทีการประชุมACD จะไม่มีการประกาศปฏิญญาหรือแถลงการณ์ร่วมกันเหมือนเวทีการประชุมอื่นๆ ก็อยากให้รัฐบาลนี้หัดเปิดใจให้กว้างเข้าไว้ ยึดถือเอาประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง อะไรที่รัฐบาลในอดีตทำไว้ดีๆเช่นเวทีการประชุมเช่นนี้ก็ควรที่จะดำเนินการรักษาไว้ให้ต่อเนื่องและต้องให้ความสำคัญ