"สมชัย" แจงข้อดี-ข้อเสีย ระบบเลือกตั้งใบเดียว !!  แย้มฟ้องเอาผิดล้มเลือกตั้ง  "234 คน -จนท.รัฐ"

ติดตามข่าวสารข้อมูล www.tnews.co.th


 
"สมชัย" แจงเวทีสัมมนา ชี้ บัตรเลือกตั้งใบเดียว หากทำให้ระบบเลือกตั้งมีต้นทุนต่ำ คนดีกล้าเขามาลงสมัคร จะช่วยแก้ปัญหาพรรคเล็กได้  -ย้ำ เตรียมฟ้องเรียกค่าเสียงหายล้มเลือกตั้ง  แย้มแบ่งเป็น 2 ฝ่าย "ประชาชน 234 คน -เจ้าหน้าที่รัฐ"

 

 

 

วันนี้ ( 10 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า   ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (พีเน็ต) จัดเวทีเสวนา "หนึ่งคน หนึ่งเสียง บัตรหนึ่งใบหรือ สองใบ" โดยนายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า ทุกครั้งที่ผู้ร่างรัฐธรรมนูญต้องคิดต้องคาดหวังว่าเป็นการออกแบบสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศไทย ฝ่ายเห็นต่างก็จะคาดการณ์ผลไปอีกเรื่อง ประเทศไทยก็อยู่ในภาวะลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ ดูทั่วโลกเขาก็มีรายละเอียดย่อยในระบบเลือกตั้งเป็นร้อย ซึ่งทุกประเทศก็บอกว่าของเขาดี

 

 

 


          อย่างออสเตรเลีย ประชาชนต้องเลือกแบบใส่ลำดับ ซึ่งซับซ้อนพอสมควร ต้องนับคะแนน 3 สัปดาห์ถึงจะรู้ผล แต่คิดว่าถ้าใช้กับประเทศไทยคงประท้วงกันแหลกลาญ หลักการที่ฟังแล้วคล้ายกันคือ ไม่เห็นด้วยกับระบบวันพาสเดอะโพสต์ ที่ผู้ชนะเอาไปหมด และมีคะแนนทิ้งน้ำจำนวนมาก ฝ่ายหนึ่งบอกต้องเป็นสองใบ อีกฝ่ายเป็นใบเดียว ประหยัดมากขึ้น แต่คิดว่าทั้งสองฝ่ายยังมีจุดอ่อน คือถ้าไม่ต้องการทิ้งน้ำ จำนวน ส.ส. สองระบบต้องเท่ากัน ถามว่ากล้าหรือไม่ เพราะประเทศไทยยังเกรงใจ ส.ส. เขตอยู่

 

 

 


          “ถ้าระบบบัตรเดียวทำให้พรรคเล็กมีต้นทุนเยอะไปก็ต้องทำให้ระบบการเลือกตั้งมีต้นทุนต่ำ เช่น แบบญี่ปุ่น ผู้สมัครไม่ต้องหาเสียง แค่จ่ายค่าโปสเตอร์ให้ กกต. พิมพ์และกำหนดจุดติด และให้โอกาสนำเสนอทางสื่อเท่าเทียมกัน เวลาหาเสียงน้อยลง แปลว่าต้องเป็นคนดีของสังคม และทำดีมาตลอดชีวิต ก็จะลดต้นทุนและแก้ปัญหาพรรคเล็กได้”นายสมชัย กล่าว

 

 

 


          นายสมชัย กล่าวว่า เรายังบอกผลที่เกิดขึ้นก่อนไม่ได้ กกต. มีสิทธิ์เพียงออกแบบการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งมองเชิญเทคนิคแล้วต้นทุนน้อยกว่า ประชาชนเป็นภาระน้อยกว่า การนับการคำนวณคะแนนง่ายกว่าทั้งหมดลดลงเป็นสองเท่า ถ้าถามว่าจะซื้อเสียงมากขึ้นหรือไม่หากเป็นใบเดียวนั้น เห็นว่า ความพยายามเอาชนะทำให้นักการเมืองต้องซื้อเสียง หากกระบวนการเอาผิดไม่เข้มแข็งพอทำให้หลายคนเสี่ยงที่จะทำทุจริต กระบวนการในอดีตออกแบบทำให้ กกต. ทำงานไม่ได้ คือให้ประกาศก่อนสอยทีหลัง ทำให้นักการเมืองยิ้ม เพราะเป็น ส.ส. เป็นผู้มีอำนาจและข่มขู่พยานยุ่งเหยิงคดีได้ในระยะเวลาที่จะรอถูกสอย ทำให้ความเกรงกลัวที่จะถูกลงโทษไม่มี

 

 

 


          จากนั้นนายสมชัย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยความเรียบร้อยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ... ว่า ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวเสร็จเรียบร้อย มี 60 มาตรา โดยจะมีการนำเข้าสู่ที่ประชุมของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในวันที่ 15 มี.ค. นี้ ส่วนสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ. นี้ จากเดิมตั้งใจจะทำบัตรสองใบ โดยแยกเป็นแบบรับและไม่รับ และอีกใบเป็นคำถามที่สอง แต่ภายหลังจากพูดคุยมีข้อสรุปให้ใช้เป็นบัตรใบเดียวแทน เพื่อลดต้นทุนในการดำเนินการ ส่วนประเด็นอื่น กกต.จะเน้นเรื่องการควบคุมการลงเสียงให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและโปร่งใสมากที่สุด

 

 

 


          สำหรับข้อกังวลว่าจะมีการจำกัดสิทธินั้น ยืนยันว่าทุกอย่างจะเป็นไปอย่างโปร่งใส รูปแบบการลงคะแนนก็จะใช้ฐานการลงคะแนนแบบเดียวกับการเลือกตั้ง รวมถึงการลงโทษผู้กระทำความผิดแบบเดียวกับการทำผิดเลือกตั้งเช่นเดียวกัน แต่จะเน้นที่ตัวข้าราชการหากกระทำผิดจะถูกลงโทษเป็นสองเท่ามากกว่าประชาชนทั่วไป

 

 


          สาระสำคัญอีกอย่างคือการเผยแพร่ผลโหวตอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่ง กกต. จะจัดให้มีการเผยแพร่หลังจากมีการนับคะแนนไปแล้วร้อยละ 95 ส่วนผลอย่างเป็นทางการนั้นจะมีผลได้หลังจาก 3 วันนับจากเลือกตั้ง เนื่องจากมีหลายพื้นที่ห่างไกลต้องใช้เวลาในการขนส่งหลายชั่วโมง

 

 

 


          เมื่อถามถึงกรณีที่ กกต. มีการฟ้องเรียกค่าเสียหายการจัดเลือกตั้งเมื่ออวันที่ 2 ก.พ. 2557 นายสมชัย กล่าวว่า ขณะนี้ทาง กกต. มีมติที่ประชุมแล้วว่า กลุ่มคนที่จะมีการฟ้องร้องมี 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกเป็นประชาชนทั่วไป ซึ่งมี 234 คนทั่วประเทศ ส่วนกลุ่มที่สองเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่สร้างให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ การฟ้องร้องครั้งนี้เพื่อเรียกค่าเสียหายแก่แผ่นดิน ความเสียหายจากการเลือกตั้งครั้งนั้นเป็นเงินของรัฐ ไม่ใช่เพื่อองค์กร อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการฟ้องร้องแต่ยังอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้น ดังนั้นยังไม่มีใครผิด แต่ กกต. มีหลักฐานค่อนข้างชัดเจนก็ต้องไปว่ากันในชั้นศาลต่อไป