"บิ๊กตู่"  ยืนยัน !! "ไทย" มุ่งมั่นมีส่วนร่วมในการพัฒนา  " ความร่วมมือภายใต้กรอบแม่โขง - ล้านช้าง "

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม www.tnews.co.th

"นายกรัฐมนตรี" ยืนยัน ความมุ่งมั่นของไทยในการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันและสร้างสรรค์ในการพัฒนา " ความร่วมมือภายใต้กรอบแม่โขง - ล้านช้าง "

 

วันนี้ (23 มีนาคม 2559) เวลา 09.40 น. ณ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการนานาชาติอ่าวย่าหลง(Yalong Bay) เมืองซานย่า มณฑลไห่หนาน สาธารณรัฐประชาชนจีนภายหลังจากการกล่าวเปิดการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง ครั้งที่ 1 ร่วมกับนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อ เฉียง ของจีน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถ้อยแถลงทบทวนความคืบหน้าและกำหนดแนวทางความร่วมมือในอนาคตต่อที่ประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง ครั้งที่ 1


ภายหลังการประชุม พลตรี วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญดังนี้


นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีที่ได้มาเข้าร่วมการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง ครั้งที่ 1 และรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ทำหน้าที่ประธานการประชุมร่วมกับนายหลี่ เค่อ เฉียง นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน นายกรัฐมนตรีเห็นว่า การประชุมในวันนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะเป็นการก่อตั้งกรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง ซึ่งเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับความร่วมมือในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงแล้ว ยังเป็นการสะท้อนเจตนารมณ์ทางการเมืองอันแน่วแน่ของประเทศสมาชิก“ที่ตั้งอยู่บนแม่น้ำสายเดียวกัน และมีอนาคตร่วมกัน” (Shared River, Shared Future) ในการร่วมมือร่วมใจกันพัฒนาภูมิภาคให้เข้มแข็ง


นายกรัฐมนตรียังแสดงความรู้สึกยินดีที่แนวคิดเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำล้านช้าง -แม่น้ำโขง ที่กรุงเทพฯ เมื่อปี ค.ศ. 2012 ได้พัฒนามาสู่การจัดตั้งกรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง ที่ครอบคลุมสาขาต่าง ๆ อย่างรอบด้าน และมีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ก็ด้วยการสนับสนุนจากสมาชิกทุกประเทศ โดยเฉพาะจีน ซึ่งนายกรัฐมนตรี หลี เค่อเฉียง ได้มีบทบาทที่สำคัญในการผลักดันกรอบความร่วมมือนี้


สำหรับการประชุมในวันนี้เป็นการเพื่อกำหนดวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ร่วมกันเพื่อส่งเสริมความไว้เนื้อเชื่อใจและสร้างพลวัตในการขับเคลื่อนความร่วมมือที่เป็นประโยชน์เท่าเทียมกันแก่ทุกประเทศและประชาชนเป้าหมายที่สำคัญของกรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง จึงมุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนุภูมิภาค ลดช่องว่างด้านการพัฒนาระหว่างประเทศสมาชิกด้วยกันเองและระหว่างประเทศสมาชิกกับประเทศนอกภูมิภาค

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ความร่วมมือภายใต้ 3 สาขาที่ครอบคลุมด้านการเมืองและความมั่นคง เศรษฐกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมไปถึงสังคม วัฒนธรรม และปฏิสัมพันธ์ระหว่างประชาชน สอดคล้องกับสามเสาหลักของอาเซียน และเชื่อมั่นว่า กรอบความร่วมมือนี้จะเป็นประโยชน์ในการสร้างความเข้มแข็งแก่อนุภูมิภาค รวมทั้งสนับสนุนการสร้างประชาคมอาเซียน พร้อมกันนี้ ไทยในฐานะประธานกลุ่ม G77 ณ นครนิวยอร์ก ในปีนี้ พร้อมเป็นสะพานเชื่อมระหว่างประเทศสมาชิก เพื่อให้ความร่วมมือภายใต้กรอบนี้ส่งเสริมการบรรลุเป้าหมายตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030


แม้ว่าจะมีความร่วมมือในสาขาที่รอบด้าน แต่ภารกิจที่ท้าทายของกรอบความร่วมมือใหม่นี้คือ การมีความร่วมมืออย่างสร้างสรรค์และเพิ่มคุณค่าต่อกรอบความร่วมมืออื่น ๆ ที่มีอยู่ ซึ่งเป็นที่เห็นพ้องกันว่า คุณค่าเพิ่มสำคัญประการหนึ่ง คือ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน เพื่อมนุษยธรรมและผลประโยชน์ที่เท่าเทียมกัน การจัดตั้งศูนย์ความร่วมมือด้านทรัพยากรน้ำภายใต้กรอบแม่โขง-ล้านช้างจะเป็นประโยชน์ในการส่งเสริมความร่วมมือเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรม ในโอกาสนี้ ประเทศสมาชิกเห็นพ้องว่าควรเร่งกำหนดแผนการทำงานของศูนย์นี้อย่างชัดเจน มีระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยเชื่อมโยงกับศูนย์บริหารจัดการน้ำในแต่ละประเทศ รวมทั้งการเพิ่มขีดความสามารถ และวิจัยร่วมกัน


นอกจากนี้ ประเทศสมาชิกตกลงกันว่าจะเน้นสาขา 5 ด้าน ได้แก่ ความเชื่อมโยง ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมและการผลิต ความร่วมมือเศรษฐกิจข้ามพรมแดน การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การเกษตรและการลดความยากจนในระยะแรกของการก่อตั้งกรอบด้วย ซึ่งประเด็นเหล่านี้ปรากฏอย่างชัดเจนในปฏิญญาซานย่าและแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านศักยภาพในการผลิต ซึ่งเป็นเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมในวันนี้ เช่นเดียวกับรายการโครงการเร่งด่วนของสมาชิกทุกประเทศที่พร้อมดำเนินการได้ทันที เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและยังประโยชน์ที่เท่าเทียมแก่ประเทศสมาชิก โดยจะมีการจัดตั้งคณะทำงานรายสาขา เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินโครงการและติดตามความคืบหน้าให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในภาพรวมด้วย


ในการนี้ เพื่อยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ในกรอบนี้ ประเทศไทยได้เสนอโครงการเร่งด่วนในด้านต่าง ๆ ร่วมกับประเทศสมาชิก อาทิ โครงการเพิ่มขีดความสามารถในการลดความยากจนซึ่งไทยพร้อมจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการน้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่เป็นแนวทางในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนแก่ประเทศสมาชิก นอกจากนี้ ไทยได้เสนอให้ทุนการศึกษาระดับปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ เพื่อเสริมสร้างทักษะและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวปฏิบัติที่ดีระหว่างผู้ประกอบการในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษข้ามพรมแดนเพื่อส่งเสริมความร่วมมือและเชื่อมโยงระหว่างเขตเศรษฐกิจที่มีอยู่ในประเทศสมาชิก และจะร่วมกับจีนในโครงการด้านสาธารณสุขเกี่ยวกับการป้องกันโรคระบาดที่มีแมลงเป็นพาหะ รวมไปถึงโครงการหลักสูตรฝึกอบรมระยะสั้นด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจ และภาษาอังกฤษ ซึ่งได้เสนอร่วมกับเวียดนามด้วย


นายกรัฐมนตรีหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความสำเร็จของกรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง จะเสริมสร้างให้อนุภูมิภาคมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน เป็นต้นแบบของความร่วมมือระหว่างประเทศกำลังพัฒนาในรูปแบบใต้ - ใต้ ที่ประสบความสำเร็จ อันจะนำมาซึ่งประโยชน์สูงสุดต่อประเทศและประชาชนของอนุภูมิภาค และเป็นการเน้นย้ำบทบาทของอนุภูมิภาคนี้ในสังคมโลก


นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพและเป็นประธานร่วมกับจีน ในการประชุมในระดับต่าง ๆ ของกรอบความร่วมมือนี้มาตลอด พร้อมกล่าวขอบคุณการสนับสนุนและบทบาทที่แข็งขันของทุกประเทศ ที่ทำให้กรอบความร่วมมือนี้ประสบความสำเร็จ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมกัมพูชาที่จะเป็นเจ้าภาพในการประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งหน้า ซึ่งไทยพร้อมที่จะให้การสนับสนุนกัมพูชาเพื่อให้การประชุมประสบความสำเร็จด้วยดี


ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณนายกเทศมนตรีและประชาชนชาวไห่หนาน สำหรับการเตรียมการที่ดีเยี่ยมและการต้อนรับที่อบอุ่น ซึ่งทำให้การประชุมผู้นำครั้งนี้เป็นที่น่าจดจำ พร้อมยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะยังคงมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันและสร้างสรรค์ในการพัฒนาความร่วมมือภายใต้กรอบแม่โขง - ล้านช้าง เพื่อประโยชน์สุขและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศและประชาชนในอนุภูมิภาคนี้ต่อไป