กระจ่างนะ!!! เหตุผล..ห้ามผู้หญิงเข้า!! สักการะภายในพระธาตุศักดิ์สิทธิ์

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่ http://www.tnews.co.th/

 

ยังคงเป็นเรื่องที่ผู้หญิงในยุคสมัยนี้หลายคนเกิดความสงสัยไม่หายกับป้ายข้อความ "ห้ามผู้หญิงเข้า" ในบางเขตโดยเฉพาะบางส่วนของพระธาตุ ศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ  ทำผู้หญิงหลายคนบ่นถึงเรื่องความไม่เท่าเทียมและผุดคำถามว่าทำไมผู้ชายเข้าได้แล้วผู้หญิงเข้าไม่ได้  ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะคติความเชื่อ จนกลายเป็น "จารีต" ที่มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่อดีตนั่นเอง 

 
เราต้องทำความเข้าใจบทบาททางศาสนาก่อนว่าส่วนใหญ่จะยกย่องเพศชายเป็นใหญ่ น้อยมากที่จะเห็นศาสดาเป็นผู้หญิง ทั้งที่ก่อนที่จะเกิดศาสนาเหล่านี้ หลักฐานทางประวัติศาสตร์ชี้ให้เห็นว่า ผู้หญิงเคยเป็นใหญ่มากก่อน เพราะเพศหญิงเป็นผู้ให้กำเนิดบุตร กำหนดความอุดมสมบูรณ์ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เพศหญิงเป็นใหญ่ ก่อนที่ศาสนาต่างถิ่นอย่างฮินดู พุทธ หรืออิสลามซึ่งนำคติความเชื่อที่ผู้ชายเป็นใหญ่จะเข้ามา ลดบทบาทของผู้หญิงลง


ศาสนสถานคือพื้นที่ศักด์สิทธิ์ของศาสนา และบางศาสนายังยึดคติว่าผู้หญิงคือเพศที่เป็นภัยคุกคามต่อความศักดิ์สิทธิ์นั้น เช่นนักบวชห้ามแตะตัวผู้หญิง ผู้หญิงเป็นภัยต่อการคุกคามการบรรลุทางศาสนา ล้วนแต่เป็นการกดขี่ผ่านความคิด แต่ก็มีตัวอย่างของความย้อนแย้งของความกดขี่เพศหญิงให้เห็นอยู่ นั้นคือ ประจำเดือนในเพศหญิง

 
ความเชื่อของชาวพุทธในประเทศไทยเชื่อว่าประจำเดือนเป็นของสกปรก หลายสถานที่ศักดิ์สิทธิ์จึงห้าม จริงๆความเชื่อเรื่องการประจำเดือนเป็นวิธีคิดแบบฮินดูที่แทรกซึมเข้าสังคมพุทธในบ้านเรา  แต่แปลกที่ประจำเดือนกลับมีเหนืออำนาจในทางไสยศาสตร์ ที่สามารถทำความศักดิ์สิทธิ์ของไสยศาสตร์ให้เสื่อมลงได้แสดงว่าเพศหญิงคือเพศอยู่เหนือความศักดิ์สิทธิ์  หรือไม่?


การอ้างเหตุเรื่องประจำเดือนทำลายความศักดิ์สิทธิ์ทำให้วัดหลายแห่งทางภาคเหนือภาคอีสานบางส่วนห้ามผู้หญิงเข้า  ตามความเชื่อว่ากันว่า พระธาตุเจดีย์ในสมัยโบราณฝังตัวพระธาตุไว้ใต้ดิน การเข้าไปของผู้หญิงจะทำให้พระธาตุเหล่านั้นเลื่อมความศักดิ์สิทธิ์ลง แม้บางคนบอกว่าเป็นกุศโลบายของคนโบราณที่ไม่อยากให้ผู้หญิงที่มีประจำเดือนไปเข้าไป เพราะจะทำให้เลอะเทอะ ไม่เหมาะสมกับศาสนาศักดิ์สิทธิ์ก็ยังเป็นข้อถกเถียงกันต่อไป 


ขอขยายความจาก ตำนานจามเทวีวงศ์ เพิ่มเติม จากศาสตราจารย์เกียรติคุณ มณี พยอมยงค์ ผู้เชี่ยวชาญภาษาและวัฒนธรรมล้านนา (อยู่เชียงใหม่) ท่านอาจารย์เล่าว่า...

ตั้งแต่บรรพกาลมา แล้วในตำนานจามเทวีวงศ์ กล่าวถึงเรื่องสงครามระหว่างขุนหลวงวิลังคะ ซึ่งเป็นเจ้าเมือง กับพระนางจามเทวี เนื่องมาจากว่าขุนหลวงวิลังคะพึงใจในพระนางจามเทวี อยากจะอภิเษกสมรส แต่พระนางจามเทวีคงจะไม่ทรงปรารถนา จึงได้บอกว่าถ้าเจ้าพี่สามารถออกแรงพุ่งสะเน่า ซึ่งเป็นหอกซัด จากเมืองพิงค์ มาตกบริเวณหน้าลานพระราชวัง จะอภิเษกสมรสด้วย …

… แต่ชาวบ้านก็กลัวว่าจะพุ่งสะเน่าตกในเวียง ก็เลยใช้วิธีการแยบยล โดยเอาผ้าถุง ซึ่งเป็นเลือดประจำเดือน ของพระนางจามเทวี เอาไปทำเป็นพระมาลา (หมวก) พร้อมกับทำหมากพลู เอาป้ายน้ำที่เป็นประจำเดือนที่ใบพลูด้วย เอาส่งไปให้บรรณาการแก่ขุนหลวงวิลังคะ พอขุนหลวงฯ สวมหมวกนั้น แล้วก็เคี้ยวหมาก ปรากฏว่าอำนาจฤทธิ์ที่เคยเบ่งกำลังพุ่งสะเน่าไปไกลเป็น 20-30 กม. ลดน้อยถอยลงมาก ไม่สามารถพุ่งต่อไปได้ พุ่งออกมาแค่นอกเวียงพิงค์ไม่ถึงกิโล ก็เป็นเหตุให้เกิดความเชื่อกันมา …

เรื่องเกี่ยวกับประจำเดือนของผู้หญิงมีอำนาจในการทำให้เสื่อมเกียรติยามนต์ ทั้งหลาย เพราะฉะนั้นบริเวณพระธาตุ ซึ่งได้ฝังอยู่ข้างล่างพระเจดีย์ดอยสุเทพก็ดี พระเจดีย์หริภุญชัยก็ดี พระเจดีย์ดอยตุงก็ดี มันฝังอยู่ข้างล่าง

 และ ยังสะท้อนกันว่าผู้หญิงคนนั้นจะตกขึด (ภาษาเหนือ ขึดหมายถึงกาลกิณี เสนียด จัญไร) โดยผู้หญิงจะไม่สบาย จะมีความวิบัติต่างๆ ป้ายที่ห้ามผู้หญิงเข้า เพื่อไม่ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เสื่อม และเพื่อไม่ให้ผู้หญิงคนนั้นเป็นกาลกิณี


จากที่กล่าวยกมาข้างต้นพอจะสรุปมูลเหตุของ ความเชื่อได้ว่า การที่เขาไม่ให้เพศหญิงเข้าไปถึงตัวพระธาตุ เพราะว่า หญิงบางคนมีประจำเดือน ซึ่งคุณจะสังเกตเห็นว่า คนส่วนใหญ่ที่โดนของ หรือ อะไรก็แล้วแต่ที่ เกี่ยวกัยไสยศาสตร์ เขาจะให้เอาผ้าถุงของแม่ที่เป็นประจำเดือน มาแก้เคล็ดเพราะเชื่อว่า ทำให้ความขลังความศักดิ์สิทธิ์ของ อำนาจ นั้นเสื่อมลง ก็เหมือนกับ ถ้ามีเพศหญิงเข้าไป ในตัวพระธาตุ ถ้าหญิงที่ไม่มีประจำเดือนก็เข้าได้ แต่เขาตัดปัญหา ไปทีเดียวคือ ไม่ให้เพศหญิงเข้า ใครจะไปนั่งถามว่า คุณมีประจำเดือนหรือเปล่า ใช่หรือเปล่า? ซึ่งก็เหมือนว่า หากผู้หญิงเข้าไป ในตัวพระธาตุ เค้าเชื่อว่า จะทำให้ ตัวพระธาตุหมดความขลังและศักดิ์สิทธิ์ลง

 
จารีตก็คือการปฏิบัติกันมา แม่เข้าไม่ได้ ก็บอกลูกสาวว่าอย่าเข้า เพราะเข้าไปจะเป็นเสนียดจัญไร จะขึดนะ ขึดคือสิ่งชั่วร้าย ทีนี้เมื่อเป็นอย่างนี้ลูกหลานก็ปฏิบัติตามไม่เข้า  ยึดเป็นจารีตเป็นสิ่งที่ปฏิบัติกันมา


จริงอยู่ สิทธิเสมอภาคกันระหว่างชายหญิง เป็นสิ่งที่ควรสนับสนุนแต่ประเพณีที่มีมายาวนานและยังเป็นที่เคารพในกลุ่มชน ใดๆก็ตาม ควรจะได้รับความเคารพด้วย อย่าให้สิทธิต้องไปล่วงล้ำเอาประเพณีท้องถิ่นเลย


จะว่าไป... การเคารพบูชากราบไหว้.. ต่อให้มุดลงไปกราบจนถึงในห้องเก็บองค์พระธาตุ....อานิสงส์ก็คงไม่ต่างไปจาก การไหว้ที่ตีนดอยหรอก..

 

..ถ้าหากผู้ไหว้.. มีความตั้งใจจริงที่เหมือนกัน.. จริงไหม


ขอบคุณข้อมูลจาก

กระจ่างนะ!!! เหตุผล..ห้ามผู้หญิงเข้า!! สักการะภายในพระธาตุศักดิ์สิทธิ์

กระจ่างนะ!!! เหตุผล..ห้ามผู้หญิงเข้า!! สักการะภายในพระธาตุศักดิ์สิทธิ์