"บิ๊กจิ๋ว" เปิดบ้าน  ย้ำภารกิจสุดท้ายของชีวิต อยากเห็นประชาชนอยู่ดีกินดี ด้าน "พันธุ์เครือ" ตัดพ้อ "บิ๊กตู่" ไม่นับถือบิ๊กจิ๋ว

"บิ๊กจิ๋ว" เปิดบ้านทำบุญวันเกิด "ผบ.ทบ." ส่งผู้แทนเข้าอวยพร ย้ำภารกิจสุดท้ายของชีวิตต้องการให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ไม่ยากจน เตือนรัฐบาลระวังปัญหาเรื่องความเชื่อมั่น แนะให้การศึกษาประชาชนก่อนลงประชามติ ห

 

ที่บ้านพักซอยปิ่นประภาคม พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย คุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ ภริยา ได้เปิดบ้านพักเพื่อพูดคุยกับสื่อมวลชน เนื่องในโอกาสทำบุญครบรอบวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 84 ปี ที่จะถึงในวันที่ 15 พฤษภาคม นี้ โดยมีพล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้ช่วย ผบ.ทบ.และผู้แทนจากสภาผู้แทนราษฎร ร่วมอวยพรด้วย โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่มาสังเกตการณ์และดูแลความสงบเรียบร้อย

 

โดยพลเอก ชวลิต กล่าวว่า ในวันนี้ต้องการพูดในสิ่งที่ดีออกจากหัวใจเพราะเป็นวันที่ดี เป็นวันครบรอบวันเกิด 84 ปี ซึ่งมีสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นในประเทศไทยมานาน  คือภารกิจสุดท้ายแห่งชีวิตของตัวเองที่ต้องการเห็นประชาชนเป็นสุข กินอิ่ม นอนอุ่น มีกิน มีใช้และไม่ยากจน

 

ทั้งนี้ ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา คนไทยมีการต่อสู้มานานมาก ทำให้ประเทศไทยที่เคยยิ่งใหญ่ในเอเชียกลับถอยหลัง ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น จีน และ ญี่ปุ่น กลับมีการพัฒนาไปข้างหน้า โดยการถดถอยของประเทศไทยมาจากหลายสาเหตุ รวมถึงการบริหารประเทศ การแก้ปัญหาที่ยังไม่ถูกต้อง โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ซึ่งได้บริหารประเทศมาเป็นเวลามากกว่า 2 ปี ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ รวมถึงรัฐบาลก่อนหน้านี้ด้วย

 

ส่วนปัญหาการแสดงความคิดเห็นและสิทธิของประชาชนไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล ต่างชาติจะแสดงความคิดเห็นอย่างไรไม่สำคัญเท่าความเป็นอยู่ของประชาชน ต่อให้ลิดรอนสิทธิ์มากกว่านี้อีก 10 เท่า ก็ไม่เป็นไร เพราะต่างชาติก็ต้องการแค่ให้ประเทศไทยมีการเลือกตั้ง โดยปัญหาสำคัญที่รัฐบาลต้องแก้ไขคือปัญหาความยากจน ปัญหาปากท้องของประชาชนและชนชั้นกลางซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศเป็นผู้มีอำนาจอย่างแท้จริง

สำหรับการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ต้องการให้รัฐบาลให้การศึกษากับประชาชนก่อนการลงประชามติ อย่างไรก็ดี ตัวเองไม่ ต้องการรับประกันว่าในอนาคตจะไม่มีการปฏิวัติทหารจะไม่เข้ามาฉีกรัฐธรรมนูญอีก ซึ่งเชื่อว่าแม้กระทั่งนายกรัฐมนตรี และใครอีกหลายคนก็ไม่มีใครกล้ารับประกันเช่นกัน เพราะการที่ทหารต้องเข้ามาแก้ไขปัญหา เนื่องจากประชาชนเข่นฆ่ากันเอง จึงย้ำว่าการแก้ไขปัญหาปากท้องเป็นเรื่องสำคัญ ต่อให้มีรัฐธรรมนูญที่ดีกว่านี้อีกกี่ฉบับแต่หากประชาชนยังไม่กินอิ่มนอนหลับก็จะแก้ปัญหาประเทศไม่ได้

 

อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวเห็นว่าแม้รัฐธรรมนูญจะเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ แต่กฎหมายที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญคือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง โดยเฉพาะการถ่วงดุลระหว่างอำนาจอธิปไตยของปวงชนและสิทธิเสรีภาพของบุคคล

 

ขณะเดียวกัน รัฐบาลต้องระวังปัญหาความน่าเชื่อถือจากประชาชนไม่ว่าจะเป็นในช่วงเปลี่ยนผ่าน 5 ปี หรือหลังจากนี้ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับประเทศในขณะนี้ หรือการที่มีนายกคนนอกจะทำให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกับเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ หรือไม่นั้นไม่ใช่สิ่งที่ต้องกังวลเท่ากับปัญหาปากท้องของประชาชน

ซึ่งหากประชาชนกินดีอยู่ดีรัฐบาลจะอยู่นานไปอีกกี่ปีก็ได้

 

นอกจากนี้ รัฐบาลควรคำนึงถึงความเป็นอยู่ของประชาชนในปัจจุบัน และไม่ควรห้ามไม่ให้นักการเมืองเข้าพื้นที่เพื่อไปพบปะพูดคุยเป็นเพื่อนประชาชน ขณะเดียวกัน ตัวเองยังมีความกังวลเรื่องสถาบันพระพุทธศาสนา ซึ่งกำลังถูกทำลายโดยพุทธศาสนิกชน ที่ต้องการให้มีการนำพระออกมาจากวัด โดยไม่คำนึงถึงหลักคำสอนและหลักปฏิบัติทางศาสนา

"บิ๊กจิ๋ว" เปิดบ้าน  ย้ำภารกิจสุดท้ายของชีวิต อยากเห็นประชาชนอยู่ดีกินดี ด้าน "พันธุ์เครือ" ตัดพ้อ "บิ๊กตู่" ไม่นับถือบิ๊กจิ๋ว

"บิ๊กจิ๋ว" เปิดบ้าน  ย้ำภารกิจสุดท้ายของชีวิต อยากเห็นประชาชนอยู่ดีกินดี ด้าน "พันธุ์เครือ" ตัดพ้อ "บิ๊กตู่" ไม่นับถือบิ๊กจิ๋ว

 

พลเอก ชวลิต ยังกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้ใช้ความพยายามในการแก้ปัญหาบ้านเมืองและมีผู้ใกล้ชิดที่มีฝีมือคอยช่วยงานจำนวนมาก ซึ่งประชาชนก็ต้องให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีด้วย

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่พลเอกชวลิตกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีอยู่นั้น คุณหญิงพันธุ์เครือ ได้พูดขึ้นมาว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้นับถือพลเอกชวลิต ขณะที่พลเอกชวลิต ก็กล่าวว่า ยังมีหลายเรื่องที่ไม่สามารถบอกในที่นี้ได้ต้องพูดกับบางคนเท่านั้น