กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบตลาดไท อาจต้องซื้อผลไม้ในราคาสูงขึ้น ยันไม่พบล้งผิดกฎหมาย

กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบตลาดไท อาจต้องซื้อผลไม้ในราคาสูงขึ้น ยันไม่พบล้งผิดกฎหมาย

น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันตรวจสอบการทำธุรกิจของผู้ประกอบการผลไม้ที่ตลาดไท  ซึ่งเป็นตลาดค้าส่งผลไม้ใหญ่ที่สุด โดยแต่ละปีมีการซื้อขายผลไม้ถึง 1  ล้านตัน เป็นผลไม้นำเข้าร้อยละ 30 หรือประมาณ 300,000 ตัน และอีกร้อยละ 70 เป็นผลของไทย ขณะที่ผู้ประกอบการธุรกิจคัดบรรจุผลไม้ หรือล้งในตลาดไทมีผู้ประกอบการชาวต่างชาติที่เป็นชาวจีน 15 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.4 ของผู้ประกอบการค้าผลไม้ในตลาดไทที่มีอยู่กว่า 3,500 ราย และทั้งหมดประกอบธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า หลังจากนี้กระทรวงพาณิชย์จะร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงกรมวิชาการเกษตรเตรียมขึ้นทะเบียนล้งทั่วประเทศ เพื่อให้สามารถตรวจสอบการทำธุรกิจได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย จากปัญหาภัยแล้งขณะนี้ส่งผลให้ผลผลิตผลไม้ต้นฤดูกาลลดลง ราคาผลไม้ปีนี้จึงแพงขึ้นกว่าปีก่อนร้อยละ 10 ดังนั้นผู้บริโภคคนไทยอาจต้องซื้อผลไม้ราคาสูงขึ้น

ส่วนการดูแลผลไม้นำเข้าจากต่างประเทศและอาจมีการนำมาสวมสิทธิ์เป็นผลไม้ไทยนั้น  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีมาตรการตรวจสอบอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้มีการนำผลไม้ต่างชาติมาสวมสิทธิ์ เพื่อส่งออกอย่างแน่นอน

นายธวัชชัย พิทักษ์ธนางกูร ผู้บริหารตลาดไท กล่าวว่า ตลาดไทมีมาตรการดูแลการประกอบธุรกิจของล้งต่างชาติ โดยผู้ที่จะเข้ามาประกอบธุรกิจต้องมีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย และจากการตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจล้ง ซึ่งเป็นชาวจีน 15 รายในตลาดไทเป็นผู้ประกอบการที่ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย และจากปริมาณผลไม้ที่เข้ามาในตลาดไทเกือบ 1 ล้านตัน ก็ได้ดูแลคุณภาพของผลผลิตทั้งการส่งออกและเพื่อบริโภคในประเทศตามเป้าหมายตลาดไทจะปรับปรุงให้เป็นตลาดบริการ 24 ชั่วโมง ทั้งผลไม้และผักสด โดยเตรียม 2,600 ล้านบาท ปรับปรุงพื้นที่ตลาดไทให้มีมาตรฐานมากขึ้น