ดีเอสไอ ยันไม่ไปแจ้งข้อกล่าวหา “ธัมมชโย” ที่วัดธรรมกาย  (คลิ๊กฟังแถลงเต็มๆ)

อธิบดีดีเอสไอ เผย ยังไม่ไปแจ้งข้อหา "พระธัมมชโย" ที่วัดพระธรรมกาย พิจารณาอีกครั้ง 17 พ.ค.นี้ ก่อนตัดสินใจ ด้านทนายความยันอาการอาพาธต้องได้รับการดูแลใกล้ชิด

พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร แถลงข่าวกรณีที่พนักงานสอบสวนจากดีเอสไอ ได้มีหมายเรียกพระเทพมหาญานมุนี หรือ พระธัมมชโย มาพบในวันนี้( 16 พฤษภาคม)  เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและสอบปากคำในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันรับของโจร
ขณะที่นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความส่วนตัวพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ได้เดินทางมาดีเอสไอ เพื่อร้องขอเปลี่ยนแปลงสถานที่แจ้งข้อกล่าวหาพระธัมมชโยเป็นที่วัดพระธรรมกายแทน
โดยพ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า เอกสารยังไม่สมบูรณ์ เพราะไม่มีการมอบอำนาจที่ถูกต้องจึงให้ทางทีมทนายกลับไปจัดทำเอกสารใหม่ ซึ่งจะมีการประชุมอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (17 พ.ค.) เวลา 10.00 น. หลังได้เอกสารครบแล้วจะพิจารณาอีกครั้งว่าจะต้องให้แพทย์เข้าไปตรวจร่างกายพระธัมมชโยที่วัดพระธัมมกายหรือไม่ ซึ่งจะมีการตรวจเอกสารของหมอที่ทำการรักษาพระธัมมชโยทั้ง 3 คนอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ดี หากทางวัดไม่นำเอกสารมาให้พรุ่งนี้จะพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ส่วนแถลงการณ์วัดที่นำเอาคดีเก่ามารวมคดีใหม่นั้น ทางดีเอสไอยืนยันว่า นายศุภชัยกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระ ทั้งยักยอกโกงเงิน การที่แจ้งข้อกล่าวหามีพยานหลักฐานเพียงพอ
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนต้องดูเหตุผลความจำเป็นว่าสมควรจะเปลี่ยนสถานที่แจ้งข้อกล่าวหาได้หรือไม่ ทุกอย่างต้องพิจารณาเหตุผลประกอบ โดยพิจารณาเป็นรายๆไป คาดว่าพรุ่งนี้จะมีความชัดเจนอีกครั้ง หลังจากที่ได้รับเอกสารครบและได้พิจารณาร่วมกันอีกครั้ง ทั้งนี้ เอกสารที่วัดมายื่นไม่เห็นภาพหน้าพระธัมมโย พนักงานต้องพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร ส่วนการเคลื่อนไหวของทางวัดก็ทำได้
ด้านนายสัมพันธ์ เสริมชีพ  ทนายความ กล่าวว่าแพทย์มีจรรยายรรณมีใบประกอบวิชาชีพคงไม่มีใครเอาอาชีพตัวเองมาเสี่ยง อาการป่วยต้องถาทหมอ แต่นอนอยู่กับเครียงตบอด เรื่องเห็นถชภาพไม่ทำกรังสือมห้อพทย์กบางไปตรวจที่สัดืตอนนี้ยืนยันว่าพระยังอยู่ที่วัด ท่านบอกไม่ไปไหนขอคายที่วัด คนั้งล่าสุด ถ้าพระกงานสอยสวนไปพบตชจะสามารถติบได้ตัาต่อตัวกับหลวงพ่อหรือไม่ยัวตอบไม่ได้ การเคลื่อนไหวของลูกศิษย์มีหลายกลุ่ม ไม่สามารถคุมได้ ไม่กดดัน แต่สามาถคุมได้ถ้าอยู่ในวัดแล้วไม่เชื่อฟัง กลุ่มพระพร้อมให้พนักงานสอบสวนเจ้าไปพบพระที่วัด เมื่อเข้าไปที่วัดรับรองความปลอดภัย ถ้าเกิดเหตุการณ์