- 23 ก.ค. 2559
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่www.tnews.co.th
พระเมธีธรรมาจารย์ โพสต์ FB สรุปผลการประชุม องค์กรพุทธและภาคีเครือข่ายฯ มีมติลับ 6 ข้อ ยืนยันเดินหน้าเคลื่อนไหว ทั้งใน กทม.และ ต่างจังหวัด คัดค้าน ดีเอสไอ.ตั้งข้อกล่าว "สมเด็จช่วง"
การประชุมขององค์กรพุทธและภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ ในช่วงภาวะวิกฤตของคณะสงฆ์ไทย วันที่ 23 ก.ค.59 กรณี กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ.ตั้งข้อหา สมเด็จช่วง มีความผิดคดีครอบครองรถหรู โดย เลี่ยงภาษี ที่ประชุมได้กำหนดกรอบ แนวคิดและหลักปฏิบัติ ดังนี้
1.ท่าทีของแต่และฝ่าย ซึ่งกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาคณะทำงานได้รวบรวมหลักฐานต่าง ๆ เพื่อประเมิน สรุปและยืนยันถึงท่าทีของแต่ละฝ่าย เช่น ภาครัฐ ผู้มีอำนาจ ฝ่ายคัดค้านรวมทั้ง มวลชนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อรับทราบถึงจุดยืนที่ชัดเจนของแต่ละฝ่าย
3.ศักยภาพการดำเนินการ ให้วิเคราะห์ให้ละเอียดว่าภายในของแต่ละกลุ่มนั้นมีศักยภาพอย่างไร มีคนมากน้อยแค่ไหน เดินเกมอะไร อะไรคือฐานกำลังที่สนับสนุนให้ทำแบบนั้นและเหตุจูงใจในการเดินแต่ละครั้ง และอะไรคือสาเหตุที่แท้จริงที่จะนำไปสู่เป้าหมายสูงสุดของพวกเขาให้ได้
4.ปัจจัยทางการเมือง กลุ่มต่างๆ มีเหตุปัจจัยอะไรที่เป็นเรื่องทางการเมืองหนุนหลัง ใครเป็นคนของใคร ใครเป็นม้ารับใช้ใคร เพื่อทำลายใคร มีผลประโยชน์ทางการเมืองอย่างไร ทำลายใครแล้วใครได้ใครเสีย และพระสงฆ์ คณะสงฆ์ พระพุทธศาสนาถูกนำไปเชื่อมโยงในเรื่องนี้ได้อย่างไร
5.ผลกระทบ วิเคราะห์ถึงผลกระทบของทุกภาคส่วนที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ว่าการกระทำทั้งหลายทั้งปวงนี้จะส่งผลกระทบต่อ คณะสงฆ์ พระพุทธศาสนาและประเทศชาติบ้านเมืองอย่างไร
6.ยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหว องค์กรพุทธและภาคีเครือข่ายทั่วประเทศยืนยันว่าจะมีการเคลื่อนไหว ทั้งในกรุงเทพมหานคร และ ต่างจังหวัดแน่นอนโดยให้มีการข่าวด้านลึกละเอียดรอบคอบ การรวบรวมข้อมูลให้รวดเร็วมีประสิทธิภาพ การวิเคราะห์ข้อมูลให้มีความแม่นยำ ถูกต้อง การกำหนดยุทธศาสตร์ให้ไวและทันต่อเหตุการณ์ การดำเนินการและเป้าหมายให้ชัดเจนเพื่อให้มีผลในทางปฏิบัติ
ในการนี้ องค์กรพุทธและภาคีเครือข่ายทั่วประเทศได้มีมติในการเคลื่อนไหว 6 ข้อ สำหรับมติสำคัญทั้ง 6 ข้อนั้นให้ถือเป็นความลับ ห้ามเปิดเผยต่อสาธารณชน เพื่อไม่ให้ประสบปัญหาในทางปฏิบัติ และ เพื่อความปลอดภัยของมวลสมาชิกผู้นำไปปฏิบัติในทุกภาคส่วนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ