"ยูเอ็น" ตำหนิรบ.ปิดกันคนไทย การจับกุมการแสดงออกในที่สาธารณะผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในไทยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่ากลัว ภายใต้ "ประชามติ"

    กรณีจดหมายโจมตีร่างรัฐธรรมนูญ ที่ตร.ขยายผลเชื่อมโยงถึงนักการเมืองท้องถิ่นในจ.เชียงใหม่ โดยผบช.ภ.5 เตรียมออกหมายจับนักการเมืองที่เกี่ยวข้อง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังดูความเชื่อมโยงในภาคเหนือ โดยเฉพาะเชียงใหม่ ลำพูน ส่วนจะดำเนินการอย่างไรเจ้าหน้าที่จะดำเนินการเอง สำหรับกรณีหมายจับเจ้าหน้าที่บอกเป็นการเตรียมการ คงจะรายงานให้ตนทราบต่อไป ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สอบสวนตามพยานหลักฐาน ถึงใครก็ต้องจับกุม และยังไม่รู้รายละเอียดว่าจะถึงนักการเมืองระดับชาติหรือไม่ ปล่อยให้สืบสวนสอบสวนก่อน ยืนยันว่าคสช.ไม่เกี่ยวเรื่องนี้

          ย้ำชัดว่าไม่มีขบวนการล้มประชามติ

       พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ก่อนหน้านี้ที่มีสื่อถามว่าคสช.สร้างสถานการณ์ จะเอาคำสันนิษฐานมาพูดได้อย่างไร ถ้าสันนิษฐานผิดต้องรับผิดชอบ ต้องเดินเข้าคุก คิดหาทางให้คสช.ติดลบตลอด พอจับได้ทำไมไม่ให้คสช.บวกบ้าง"
       กล่าวด้วยว่า ส่วนการตรวจ สอบเรื่องการฉีกทำลายบัตรรายชื่อผู้มีสิทธิลงประชามติ ขอย้ำว่าไม่มีขบวนการล้มประชามติ อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เป็นเรื่องเล็กน้อย สำหรับสถานการณ์อย่างไรช่วงโค้งสุดท้ายก่อนลงประชามติ คิดว่าไม่น่ามีอะไรเกิดขึ้น
          พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการ ประชุมครม.ว่า กรณีวิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญแจกจ่ายไม่ทั่วถึงนั้น พล.อ.ประยุทธ์ขอร้องว่าอย่าไปวิจารณ์กกต. เพราะถ้าใครที่สนใจก็หาอ่านได้จากหนังสือพิมพ์ หรือแอพพลิเคชั่นที่กกต.นำเสนอไว้ก็ได้ สามารถดาวน์โหลดได้

          วันเดียวกันนี้ ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 44/2559 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 5 ตามที่จะมีการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 ส.ค.นั้น รายละเอียดที่>>>>>>     http://headshot.tnews.co.th/contents/197689/      <<<<<<

เว็บไซต์สำนักงานข้าหลวงใหญ่สหประชาชาติเพื่อสิทธิมนุษยชน(โอเอชซีเอชอาร์) เผยแพร่ข้อมูลเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ว่า นายเดวิด เคย์ ผู้รายงานพิเศษว่าด้วยเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออกประจำสหประชาชาติ ตำหนิการจับกุมและดำเนินคดีจากการแสดงออกในที่สาธารณะและการแสดงออกผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในประเทศไทยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่ากลัว ภายใต้อำนาจคำสั่งกองทัพและพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญพ.ศ.2559

 

นายเคย์กล่าวว่ารู้สึกเป็นกังวลอย่างยิ่งว่าคำสั่งของกองทัพและพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ได้จำกัดการแสดงออกและการเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ การทำประชามติคือการยินยอมให้ถกเถียงอย่างเต็มที่ที่ตามมาด้วยการลงคะแนนของประชาชาติ โดยเฉพาะเมื่อประเด็นนี้เป็นประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ การแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวางควรได้รับการสนับสนุน รวมถึงการแสดงออกอย่างเสรีและการเปิดให้มีการถกเถียงอย่างจริงจังด้วย