หลวงปู่มั่นหวิดตาย! เหตุเพราะสู้กับ “ยักษ์” ในคืนก่อนบรรลุธรรม

ในวินาทีบรรลุธรรม หลวงปู่มั่นหวิดตาย! เหตุเพราะไปสู้กับ “ยักษ์” ในคืนก่อนบรรลุธรรม

สู้รบกับยักษ์...หวิดตาย

คืนจันทร์สว่างฟ้า พระจันทร์เต็มดวง มีธรรมชาติจะทรงกลดยามเที่ยงคืน ... เป็นภาพที่งดงาม สงบสงัด มีแต่สรรพเสียงของป่าเป็นเพื่อน

ขณะที่หลวงปู่มั่นเริ่มเดินจิตภาวนาใหม่ก็ปรากฏแสงสว่างเมื่อจิตรวมแล้ว  พลันนั้นก็เกิดเรื่องอันน่าสะพรึงกลัวเมื่อภูเขาทั้งลูกสั่นสะเทือนราวกับมีใครเอามือมาเขย่า เสียงลมพัดโหมกระหน่ำผ่านราวป่า เสียงไม้หักโค่นเกรียวกราว  แต่ท่านยังคงดำรงอยู่ในสมาธิ ไม่หวั่นไหวต่อเสียงอึกทึกรอบข้าง แม้แรงสั่นสะเทือนจะสนั่นราวกับภูเขาจะพลิกค่ำ

บรรยากาศอันน่ากลัวทำเอาหลวงปู่มั่นเกือบลืมตา  แต่เมื่อระลึกได้ถึงคำอธิษฐานจิตในธรรมะ ท่านจึงพิจารณาสภาวธรรมที่เกิดขึ้น  ทว่ายิ่งพิจารณาเท่าใด ความโหดร้ายของสภาพรอบตัวก็ยิ่งทวีความรุนแรงอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด  แต่สติของท่านมั่นคงกว่าขุนเขาที่ไม่อาจโยกคลอนได้

ขณะที่กำลังเฝ้าดูอาการของจิตด้วย “สติ-สมาธิ” ที่มั่นคง ไม่หวั่นไหวนั้น จู่ๆ ก็มียักษ์ใหญ่ร่างทะมึนสูงเท่าต้นไม้ ถือตะบองเหล็กส่องรัศมีเหมือนเปลวไฟ เดินย่างสามขุมตรงมายังหลวงปู่มั่น พร้อมตวาดลั่นสะท้านป่าว่า

 

“จงลุกจากที่นี่เดี๋ยวนี้ มิฉะนั้นจะต้องตาย!”

 

พูดจบ ยักษ์ก็เงื้อตะบองขึ้นสุดแขนเพื่อหวดฟาดเต็มกำลัง  หลวงปู่มั่นเกือบเผลอลืมตาขึ้นมอง แต่ด้วยอำนาจของสติที่รู้เท่าทันจึงระงับไว้ได้  ตลอดเวลา ๓ เดือน ท่านได้เจริญสติจนกลายเป็น “มหาสติ” ไม่สะดุ้งหวาดหวั่นหรือปรุงแต่งเคลื่อนจิตให้สะท้านต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย  ท่านตอบยักษ์ไปว่า

 

“เราไม่ลุก”

 

ทันใดนั้นเอง ยักษ์ได้ฟาดตะบองลงมาเต็มพละกำลังอันมหาศาลจนร่างของหลวงปู่มั่นจมลึกลงในดินราว ๑๐ วา  แต่แล้วร่างของท่านก็ลอยขึ้นมาเหนือพื้นดิน  เจ้ายักษ์ทมิฬหันรีหันขวาง เห็นต้นตะเคียนขนาด ๑๐ คนโอบ จึงตรงเข้าไปถอนขึ้นมาทั้งต้น  รากของต้นไม้ขาดสะบั้น เศษดินยังกระเด็นมาโดนร่างของท่านที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ด้วย

ยักษ์ใหญ่แค้น ตาแดงเป็นไฟ มองร่างจิ๋วของหลวงปู่มั่นด้วยความโกรธ เงื้อต้นตะเคียนฟาดมาที่ตัวท่านแบนไปกับก้อนหินซึ่งไม่สามารถต้านทานได้จนแหลกละเอียดไปในพริบตา  วินาทีนั้น หลวงปู่มั่นเกือบจะลืมตาขึ้นดูเหตุการณ์ แต่กำลังของมหาสติที่ดำรงมั่นก็เป็นตัวกำกับโดยพิจารณาอารมณ์อันละเอียดอ่อนที่ปรากฏขึ้นในใจ กระทั่งค้นพบว่า  แท้จริงแล้ว ใจของท่านมีอาการพะว้าพะวังถึงการปรารถนาพระโพธิญาณ ซึ่งเรื่องนี้เป็นธรรมชาติของหน่อเนื้อพุทธะ  ทันทีที่หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งโพธิจิตลงในเนื้อนาใจ ต้นไม้แห่งโพธิจะแทงหน่อเติบโต  ต้นไม้นี้ย่อมเป็นที่พึ่งพาอาศัยของสัตว์ทั้งปวง  คุณธรรมและความรอบรู้ในขอบข่ายของพุทธะอันประมาณมิได้นี้จะหลั่งไหลเข้าสู่จิต

ตลอดเส้นทางพระโพธิญาณ หลวงปู่มั่นได้สั่งสม “ทศบารมี” เพื่อให้บริบูรณ์พร้อมที่จะสั่งสอนอบรมสรรพชีวิตอย่างเหมาะสมตามนิสัย ทั้งแตกฉานตลอดในอุบายเพื่อสอนให้ผู้อื่นเข้าถึงธรรมได้ง่ายและรวดเร็วตามกำลังบุญของแต่ละชีวิต

เมื่อมหาสติทราบชัดถึงเครื่องกางกั้นชั้นสุดท้าย สิ่งที่ติดค้างในใจของท่านก็หมดลง

เรียบเรียงโดย เธียรนันท์ จากหนังสือ วินาทีบรรลุธรรม 1

หลวงปู่มั่นหวิดตาย! เหตุเพราะสู้กับ “ยักษ์” ในคืนก่อนบรรลุธรรม