มาอีกหนึ่งเสียง!!!  "สำราญ  รอดเพชร"  โพสต์ตรงไม่อ้อมค้อม " ขอรับร่างรัฐธรรมนูญ...ด้วยคน" !!?!!

ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

 

 

      ถือเป็นช่วงโค้งสุดท้ายจริง ๆ สำหรับการเข้าสู่โหมดขั้นตอนการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วงในวันที่  7 สิงหาคมนี้    และนี่คือเป็นมุมมองความเห็นของ  “ สำราญ  รอดเพชร”  คนข่าวตัวจริงที่โพสต์ความเห็นเรื่องรัฐธรรมนูญ  โดยการเริ่มต้นด้วยคำว่า    “ ขอรับร่างรัฐธรรมนูญ...ด้วยคน  ”

 

      เพื่อนพ้องน้องพี่โทรศัพท์สอบถามมาทั้งหลังห้องหลังไมค์ว่า ตกลงเอาไง..วันที่7 ส.ค.นี้ รับไม่รับ...ผ่านไม่ผ่าน..ก็ขอถือโอกาสตอบกันแบบเร็วๆ สั้นๆ คราวเดียวไปเลยว่า..รับครับ..รับ..ถ้ายืมสำนวนป๋าเปลว สีเงิน แห่งนสพ.ไทยโพสต์ ก็ต้องบอกว่าผมก็...ซ้ายผ่านตลอด...(เห็นชอบน่ะ)

      1)ยืนยันว่าอ่านร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทุกบรรทัดทุกมาตรามาแล้วไม่ต่ำกว่าสองรอบ อ่านเป็นหมวด เป็นมาตราอีกหลายครั้ง...มีไม่น้อยมาตราเหมือนกันที่เสียดาย ไม่ได้ดั่งใจ แต่เมื่อมองภาพรวมแล้ว..ผ่าน..ยังมีของดีในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่จะช่วยเดินหน้าประเทศไทยต่อไปได้ 
 

     (สิ่งที่ผมเสียดายมากกว่าเนื้อหาในบางมาตรากลายเป็นบรรยากาศการลงประชามติที่ออกจะเครียดตึงไป และเอกสารข้อมูลที่ไม่ถึงมือประชาชนผู้ใช้สิทธิ์หรือถือถึงมือแต่ช้ามาก- -ถ้าจะมีประชามติกันอีกในอนาคตโปรดจำหนนี้ไว้เป็นบทเรียน)

 

      2) ร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัยไม่ได้เลวร้ายเป็นแค่รัฐธรรมนูญฉบับปะผุอย่างหลายคนว่า หากแต่เป็นรัฐธรรมนูญที่พยายามตอบโจทย์ประเทศในรอบทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะโจทย์รอบสุดท้ายที่ประชาชนต้องบาดเจ็บล้มตาย..ก่อน 22 พ.ค.2557 อันเนื่องจากการลุแก่อำนาจของเผด็จการรัฐสภา, การทุจริตคอรัปชั่นแบบหลุดโลก ,ความแตกแยกแบบร้าวลึกของสังคมไทยอันเนื่องจากระบอบทักษิณ ฯลฯ

     ใช่หรือไม่ว่าการที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัยจัดให้มีหมวดที่ 16 ว่าด้วยการปฏิรูปด้านต่างๆ ตลอดจนพยายามหยุดการโกงบ้านกินเมืองโดยเริ่มตั้งแต่การการคุมคนโกงไม่ให้เข้าสู่วงการการเมือง, การสร้างกลไกกรณีเกิดสุญญากาศหรือ “เมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใด”(มาตรา5) ฯลฯ ไม่น่าจะเป็นเพียงการปะผุ...อย่างที่บางฝ่ายพยายามดิสเครดิต
ในขณะที่หมวด-มาตราที่ว่าด้วยสิทธิเสรีภาพของประชาชน สิทธิชุมชน ก็ไม่ดูน้อยด้อยค่ากว่ารัฐธรรมนูญปี 2540,2550 เพียงแต่วิธีการเขียนแบบกลับด้าน กำหนดให้ “รัฐต้อง....” มาจัดให้ไว้ในหมวดที่ 5 “หน้าที่ของรัฐ” น่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้โดนตาโดนใจใครต่อใครน้อยไปหน่อย..

      3) อีกประเด็นสำคัญที่ต้องพูดไว้สักนิดก็คือ...เรื่องสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)ตามบทเฉพาะกาล และคำถามพ่วง(ที่ถามประชาชนว่าเห็นชอบหรือไม่ในช่วง5ปีแรกขอให้ส.ว.ไปร่วมโหวตเลือกนายกฯกับส.ส.ด้วย...) สำหรับผม เข้าใจดีว่าภารกิจหลักของส.ว.ชุด250คนนี้ถูกออกแบบมาให้ทำหน้าที่พิทักษ์การปฏิรูป และเป็นเสาค้ำยันอำนาจให้รัฐบาลชุดต่อไปซึ่งจะเป็นชุดเปลี่ยนผ่าน..
ดังนั้นแม้กรณีนี้ถูกมองว่าเป็นการสืบทอดอำนาจ แต่อนาคตหากบทบาทพิทักษ์ดูแลการปฏิรูปเป็นมรรคเป็นผล และ250ส.ว.ที่คสช.ของนายกฯลุงตู่เคาะรายชื่อสุดท้ายมีความหลากหลาย ไม่ได้เป็นเสมือนสุสานของข้าราชการเกษียณและเต็มไปด้วยพวกพ้องของตัวเอง ประชาชนก็คงสนับสนุน-ให้โอกาสในการทำงาน การเดินหน้าในช่วงเปลี่ยนผ่านก็น่าจะเป็นเส้นทางแห่งความหวัง...การพัฒนา การรู้รักสามัคคีจริงๆ ก็อยู่ไม่ไกล

 

     ประเด็นสำคัญรัฐบาลและคสช.ลุงตู่ต้องสรุปบทเรียนหลังรัฐประหาร 2 ปีเศษว่าใครคือมิตรคือศัตรู...ไม่ใช่จับทุกฝ่ายเป็นตัวประกันอ้างว่าเป็นคู่ขัดแย้งอยู่ร่ำไป...แบบนั้นนานวันไปอาจเละตุ้มเป๊ะได้..!?

     4)  พูดก็พูดเถอะครับ แม้รัฐธรรมนูญจะเป็นกฎหมายแม่บทของประเทศ เป็นกติกากลาง กติกาสูงสุด..ที่ทุกคนต้องเคารพปฏิบัติ...และยังเป็นเข็มทิศชี้ทางประเทศ ..แต่ในชีวิตจริง บ้านเมืองของเรายังมีปัญหานอกรัฐธรรมนูญ ไม่เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญอีกมากมายมหาศาล 
 

    จาก 2540-2557 เรามีรัฐธรรมนูญดีเลิศประเสริฐศรี 2 ฉบับ แต่ในท้ายที่สุดก็อย่างที่เห็นๆ เผด็จการรัฐสภา ทุนนิยมสามานย์ยึดประเทศ..พูดเช่นนี้มิได้หมายความว่ารัฐธรรมนูญ 2559จะรูปร่างหน้าตาอย่างไรก็ปล่อยไปเหอะ..หามิได้ เพียงแต่บอกว่าในภาพรวมผมรับได้ และในสถานการณ์เปลี่ยนผ่านแบบนี้ ผม..ซ้ายผ่านตลอด อะไรมันแย่จริงๆ ก็ไปแก้กันวันข้างหน้าได้อย่าไปติดกับดักความคิดว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้แก้ไม่ได้...เพียงแต่มันแก้ยากกว่าเดิม แต่เดิมที่นักการเมืองบางจำพวกใช้เสียงข้างมากของพรรคตัวเองจัดการเอาตามอำเภอใจ..เท่านั้นเอง...

     ครับ ทั้งหลายทั้งปวงถ้าเอาผลประโยชน์ชาติเป็นตัวตั้งผมคิดว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับมีชัยก็อยู่ในวิสัยที่จะนำพาชาติบ้านเมืองช่วงเปลี่ยนผ่านไปได้ ไม่เสียหายอะไรหากเราจะให้ความเห็นชอบในวันที่ 7 ส.ค.นี้.. ก็คิดดังๆคิดเร็วๆได้ตามนี้แหละครับ ขอบคุณครับ