ปภ.รายงานสถานการณ์อุทกภัย 3 จังหวัดภาคเหนือ คลี่คลายแล้ว 2 จังหวัด (ชมคลิป)

กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ น่าน แม่ฮ่องสอน และพะเยา คลี่คลายแล้ว 2 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ในจังหวัดน่าน

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า สถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ ส่งผลให้เกิดอุทกภัยใน 3 จังหวัด ได้แก่ น่าน แม่ฮ่องสอน และพะเยา โดยมีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) 2 จังหวัด ได้แก่ น่าน และแม่ฮ่องสอน
โดย น่าน เกิดน้ำไหลหลาก และดินถล่มในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสันติสุข อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเมืองน่าน อำเภอท่าวังผา อำเภอปัว อำเภอภูเพียง อำเภอแม่จริม และอำเภอเวียงสา รวม 34 ตำบล 206 หมู่บ้าน
แม่ฮ่องสอน เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำไหลหลากในอำเภอปาย รวม 6 ตำบล 30 หมู่บ้าน สถานการณ์คลี่คลายสู่ภาวะปกติแล้ว
พะเยา  น้ำในลำน้ำงิมไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปง อำเภอเชียงคำ อำเภอเชียงม่วน และอำเภอภูซาง รวม 16 ตำบล 98 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,405 ครัวเรือน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย เสียชีวิต 2 ราย

ทั้งนี้ หลังประชุม คณะรัฐมนตรี  พล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้สัมภาษณ์ ถึงการรับมือเตรียมความพร้อมสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งเน้นย้ำให้ เอาประสบการณ์จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหลายปีที่ผ่านมา มาสู่กระบวนการการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญมาโดยตลอด โดย  
1.คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ
2.การบริหารจัดการน้ำจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน ที่มีหน้าที่ในการกักเก็บส่งน้ำ ระบายน้ำ
3.กระทรวงมหาดไทย จะดูในเรื่องแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และตนสั่งการเน้นย้ำต้องมีมาตรการเพื่อรองรับทุกมาตรการ

 

นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักงานชลประทานในพื้นที่จังหวัดแนวลุ่มน้ำยมเตรียมพร้อมรับมือน้ำเหนือไหลหลาก บริเวณที่ลุ่มต่ำเกิดน้ำท่วมฉับพลันจากน้ำหลาก เช่น จ.สุโขทัย และ พิษณุโลก เตรียมรับปริมาณน้ำจาก จ.พะเยา จะไหลหลากมาถึงวันที่ 18 ส.ค.นี้ โดยขอให้พร่องน้ำในพื้นที่ออกมาก่อน ดูเส้นทางผันน้ำไว้แก้มลิงต่างๆ ให้พร้อม ตลอดทั้งเตรียมอุปกรณ์เครื่องจักร เครื่องมือ เก็บเศษวัชพืช สวะที่จะไหลตามน้ำมาติดตามอาคารและประตูระบายน้ำ

ด้าน นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ได้แจ้งเตือนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดลุ่มแม่น้ำยม เตรียมรับสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำยมจากน้ำท่วม จ.แพร่ มีปริมาณฝนตก 140 มม. มีผลกระทบล้นตลิ่งมาถึง จ.สุโขทัย ซึ่งได้เตือนตั้งแต่ อ.สวรรคโลก ศรีสำโรง เมืองสุโขทัย กงไกรลาศ ต่อเนื่อง อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ให้รู้สถานการณ์น้ำโดยเฉพาะพื้นที่ที่ลุ่มต่ำให้ประชาชนขนสิ่งของเก็บไว้ที่สูง รวมทั้งเตรียมป้องกันพื้นที่การเกษตรและพื้นที่เศรษฐกิจ

ด้านนายฎรงค์กร สมตน ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่12 ชัยนาท เปิดเผยว่าจากสถานการณ์น้ำหลากในพื้นที่ จ.พะเยา จ.น่าน และ จ.แพร่ กรมชลประทานได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยคาดการณ์ว่าอีกประมาณ6-7วัน มวลน้ำดังกล่าวจะมาถึงเขื่อนเจ้าพระยา แต่จะมีปริมาณเพียงไม่เกินร้อย30เพราะน้ำส่วนใหญ่จะถูกผันเข้าทุ่งแก้มลิง ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วง จ.นครสวรรค์ ลงมาถึงเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาทมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1เมตร ซึ่งอยู่ในระดับที่ปกติของระดับน้ำในเขื่อนเจ้าพระยาในฤดูฝน