“สารทจีน” ... เทศกาลที่มีความเชื่อมาจากตำนานเรื่อง “พระโมคคัลลานะช่วยแม่ให้พ้นนรก”!!!

รู้จริง... รู้แจ้ง... ทุกเรื่องราวพระอริยสงฆ์ http://panyayan.tnews.co.th

           “สารทจีน” หรือเทศกาล “จงหยวนเจี๋ย” ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติของทุกปี  เทศกาลนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “เทศกาลผี” เนื่องจากตามประเพณีความเชื่อทางจันทรคติ เดือน 7 ถือเป็น “เดือนปล่อยผี” ที่พญายมราชจะเปิดประตูนรกให้เหล่าวิญญาณได้กลับมาเยี่ยมเยือนโลกมนุษย์ได้ และเชื่อกันว่า วันสารทจีนจะเป็นวันที่ประตูผีเปิดกว้างที่สุด

             ที่น่าสนใจก็คือ  ชาวจีนยังคงเชื่อว่า การบำเพ็ญกุศลในช่วงเทศกาลสารทจีนจะส่งผลให้บรรพบุรุษที่กำลังเสวยเคราะห์กรรมในโลกวิญญาณหลุดพ้นจากทุคติได้  ดังจะเห็นได้จากเรื่อง “พระโมคคัลลานะช่วยแม่พ้นนรก” ในคัมภีร์ “อุลลัมพนสูตร” (อ่านว่า อุน-ลัม-พะ-นะ-สูด) ของพระพุทธศาสนานิกายมหายาน ซึ่งเป็นที่มาของการทำบุญและไหว้เจ้าในเทศกาลสารทจีน คัมภีร์ดังกล่าวบอกเล่าเรื่องราวของ “มู่เหลียน” หรือที่รู้จักกันในนาม “พระโมคคัลลานะ” อัครสาวกเบื้องซ้ายของพระพุทธเจ้า เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ เชตวันมหาวิหาร เมืองสาวัตถี พระโมคคัลลานะเถระ ผู้บรรลุซึ่งธรรม บารมี 6มีปณิธานอันแรงกล้า ปรารถนาจักทดแทนพระคุณบุพการีชน ดั่งนี้แล้ว จึ่งได้เพ่งมองโลกด้วยอภิญญาญาณ และแจ้งว่า

.......บัดนี้ผู้เป็นมารดาแห่งตนได้ไปถืออุบัติอยู่ ณ ท่ามกลางดวงวิญญาณ หิวกระหาย ไม่มีทั้งน้ำ และอาหาร ทั่วสรรพางค์กายปรากฏเพียงหนังหุ้มกระดูก ได้รับทุกขเวทนายิ่งนัก พระโมคคัลลานะ จึงนำผลาหารบรรจุเต็มบาตรเพื่อนำไปโปรด
ดวงวิญญาณของมารดา ทันทีที่นางรับบาตรไป ก็ลูบคลำด้วย มืออันอ่อนแรง มือขวากอบคำข้าวเพื่อหวังจะบริโภค แต่ในบัดดล ยังมิทันที่อาหารจะล่วงเข้าสู่ปากของนาง ก็กลับกลาย เป็นถ่านเพลิงเผาไหม้ทุกคราไป ยังความสลดสังเวชแก่พระโมคคัลลานะ เป็นที่ยิ่ง ด้วยเหตุนี้แล้ว พระโมคคัลลานะจึงกลับไปสู่ ณ. พระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วกราบทูลถึงการณ์ทั้งปวงให้พระพุทธองค์ทรงทราบ

“สารทจีน” ... เทศกาลที่มีความเชื่อมาจากตำนานเรื่อง “พระโมคคัลลานะช่วยแม่ให้พ้นนรก”!!!

สมเด็จพระศาสดาได้มีพุทธดำรัสว่า.....

"ดูกรโมคคัลลานะ โดยเหตุที่มารดาของท่านสั่งสมซึ่งอกุศลกรรมเป็นเนืองนิตย์ อาศัยกำลัง(บุญกุศล)แห่งตน(พระโมคคัลลานะ) แต่เพียงลำพัง มิอาจบรรเทาอกุศลกรรมนั้นได้ ถึงแม้ว่าอำนาจแห่งความกตัญญูต่อบุพพการีชนของท่านจะสะเทือนถึงสวรรค์ โลกมนุษย์ ปีศาจ มารร้าย หรือแม้แต่พรหมโลกและจตุโลกบาลก็ตามยังมีแต่พลานุภาพแห่งที่ประชุมพระอริยสงฆ์สาวก ผู้มาจากทิศทั้งสิบ จึงสามารถปลดเปลื้องทุกข์แห่งมารดาท่านได้ บัดนี้พระตถาคตจักแสดงธรรมอันเป็นเครื่องปลดเปลื้อง ความขัดข้อง ความทุกข์ และอกุศลมูลทั้งหลายลำดับนั้น

พระผู้มีพระภาคทรงมีดำรัสต่อพระมหาโมคคัลลานะว่า

"ในวันเพ็ญ กลางเดือนเจ็ด อันเป็นวาระแห่งวันปวารณาของพระสงฆ์ทั่วทั้งทศทิศ เพื่ออานิสงค์อันพึงจักสำเร็จแก่บุพพการีชน ทั่วถึง 7 ชั่วอายุ โมคคัลลานะ !! เธอจงจัดเตรียมภาชนะอันบริสุทธิ์อุดมด้วยผลาหาร ภักษาหารทั้ง 100 อย่าง ผลไม้ทั้ง 5 กับสิ่งสักการะบรรดามี ประทีป ธูปเทียน ชวาลา อันเป็นเลิศทั้งปวง ถวายแด่หมู่สงฆ์ ผู้มาจากทิศทั้ง 10 หากสาธุชนใดพึงได้ถวายทานดั่งนี้แล้ว แด่ที่ประชุมมหาปวารณาสงฆ์  อานิสงค์อันประมาณมิได้ ย่อมบังเกิดแด่บุพพการีชนทั้งในปัจจุบัน ตลอดจนถึง 7 ชั่วอายุ แม้กระทั่งผู้อยู่ในคติทั้ง 6  (สวรรค์ มนุษย์ เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน สัตว์นรก)ท่านเหล่านั้นจักพ้นจากทุคติภูมิ ได้บังเกิด ณ สุคติภพ โภชนาหารกับทั้งพัสตราภรณ์อันประณีต จักบังเกิดแด่ท่านเหล่านั้น แม้ผู้ยังชนม์อยู่ย่อมจักเป็นผู้มั่งคั่ง จักเป็นผู้มีอายุยืน" แลบัดนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงมีพุทธบรรหารแก่หมู่พระภิกษุสงฆ์ทั้งหลาย ให้ดำรงจิตแห่งตนมั่นคงอยู่ในสมาธิภาวะ แล้วจึงสังวัธยายมนตร์ อุทิศให้บุพพการีชนทั้งหลาย ครั้นแล้วหมู่สงฆ์ทั้งนั้นพึงรับ มตกภัตต่อเบื้องหน้าพุทธานุสติเจดีย์ในท่ามกลางหมู่สงฆ์

“สารทจีน” ... เทศกาลที่มีความเชื่อมาจากตำนานเรื่อง “พระโมคคัลลานะช่วยแม่ให้พ้นนรก”!!!

ทันใดนั้น มารดาแห่งพระมหาโมคคัลลานะก็ได้พ้นจากกัลป์แห่งเปรตภูมิ ด้วยกุศลนั้น พระมหาโมคคัลลานะ อีกทั้งพระมหาโพธิสัตว์เจ้าก็บังเกิดปีติในผลแห่งกุศลเป็นอันมาก

พระมหาโมคคัลลานะ ได้ประคองหัตถ์อัญชุลีต่อเบื้องพระพักตร์พระผู้มีพระภาค แล้วกราบทูลว่า.......

"บัดนี้ มารดาของข้าพระองค์ ได้รับอานิสงค์อันไม่มีประมาณ ก็ด้วยอาศัยอานุภาพแห่งพระรัตนตรัย หากในกาลภายหน้า บรรดาพุทธสาวกทั้งหลายปรารถนาจักบำเพ็ญกุศลทานอุทิศให้แก่บุพพการีชน ดั่งนี้บ้าง บรรพชนทั้งหลายกับผู้ล่วงลับทั้ง 7 ชั่วอายุนั้น จักได้รับอานิสงค์ดุจเช่นนี้หรือไม่พระพุทธเจ้าข้า"

พระผู้เป็นที่พึ่งแห่งโลก จึงมีพุทธดำรัสตอบว่า...

"ประเสริฐแล้ว สิ่งที่เธอกล่าวนั้นชอบแล้ว หากในภายภาคเบื้องหน้า สาธุชนทั้งหลายอันมีภิกษุ ภิกษุณี กษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชบริพารทุกชนชั้นกับทั้งสามัญชนทั้งปวงปรารถนาที่จักบำเพ็ญ กุศลทานอุทิศแด่บุพพการีชน ผู้ให้กำเนิดแล้วไซร้ ในวันเพ็ญกลางเดือน 7 อันเป็นวันมหาปวารณาสงฆ์ เธอทั้งหลายพึงถวายโภชนาหาร กับทั้งของบริวารทั้งปวงแด่หมู่สงฆ์ผู้มาทิศทั้ง 10 แล้วตั้งใจอุทิศส่วนแห่งบุญนั้น แด่บุพพการีชน ผู้ให้กำเนิดกับทั้งผู้ล่วงลับทั้ง 7 ชั่วอายุ ให้ได้รับอานิสงส์เขาทั้งหลายเหล่านั้น ย่อมจักเป็นผู้พ้นจากทุคติภพ ได้บังเกิดในท่ามกลางสุคติภูมิ ได้เสวยผลบุญอย่างไม่มีที่สิ้นสุด พุทธสาวกทั้งหลาย ผู้มีมนสิการมั่นคงอยู่ในกตัญญุตธรรม ระลึกถึง คุณแห่งบุพพการีชน มีคุณบิดา มารดา”  เมื่อได้สดับฟังพระธรรมของพระธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นแล้ว พระมหาโมคัลลานะพร้อมด้วยพุทธบริษัท 4 ต่างปีติยินดีในธรรม และน้อมรับไปปฏิบัติโดยทั่วกัน

ดังนั้น คนที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์ จึงตระเตรียมเครื่องเซ่นไหว้ไว้อย่างพร้อมสรรพ ทั้งสำรับคาวหวาน ธูป เทียน กระดาษเงิน กระดาษทอง ฯลฯ เพื่อกราบไหว้ญาติพี่น้องและบรรพบุรุษที่มาจากยมโลก โดยเฉพาะถ้าเป็นบ้านที่เพิ่งมีผู้ล่วงลับ จะมีธรรมเนียมไปทำพิธีบูชาที่หลุมฝังศพด้วย นอกจากนี้ ยังมีการเซ่นไหว้ "พวกผีไร้ญาติ" ให้พวกเขาได้รับรู้ถึงความอบอุ่นและมิตรไมตรีของเหล่ามนุษย์

จึงเกิดเป็นประเพณีการทำบุญในวัน 15 ค่ำกลางเดือน 7 ของทุกปี และกลายเป็นเทศกาลสำคัญประจำปีของชาวจีนในที่สุด

“สารทจีน” ... เทศกาลที่มีความเชื่อมาจากตำนานเรื่อง “พระโมคคัลลานะช่วยแม่ให้พ้นนรก”!!!   “สารทจีน” ... เทศกาลที่มีความเชื่อมาจากตำนานเรื่อง “พระโมคคัลลานะช่วยแม่ให้พ้นนรก”!!!   “สารทจีน” ... เทศกาลที่มีความเชื่อมาจากตำนานเรื่อง “พระโมคคัลลานะช่วยแม่ให้พ้นนรก”!!!