- 19 ส.ค. 2559
ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://panyayan.tnews.co.th
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว :หนังสือสอนพระพุทธศาสนายากเกินไปแก่สมองเด็ก ให้เด็กเล็กๆ จำประวัติมากเกินไป
สมเด็จพระญาณสังวรฯ :กระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้จัดหลักสูตร
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว :อย่างสอนอริยสัจแก่เด็กเล็กๆ เหมือนจะให้เด็กเป็นพระอรหันต์ จะทำให้เด็กเข้าใจได้อย่างไร น่าจะสอนบทธรรมง่ายๆ ที่เป็นประโยชน์ในการอบรมเด็กด้วย เช่น ความเพียร และน่าจะจัดเป็นหลักสูตรสูงขึ้นไปโดยลำดับ แทรกพุทธประวัติ นิทานชาดก บทสอนศาสนาคฤหัสถ์ได้ มีจัดไว้ทำนองนี้ น่าจะทำแจกหรือมีจำหน่ายถูกๆ ของกระทรวงก็ปล่อยเป็นส่วนของกระทรวง
สมเด็จพระญาณสังวรฯ :จะนำกระแสพระราชดำรินี้ไปจัดทำ แต่การเขียนเรื่องให้เด็กอ่านนั้น เขียนแล้วคิดว่าง่าย เด็กเข้าใจ ครั้นไปลองสอนกับเด็ก คือให้เด็กอ่าน เด็กก็ไม่เข้าใจ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว :ถ้าประสงค์จะทดสอบก็ได้ เขียนส่งไปให้ทูลกระหม่อม เจ้าฟ้าหญิงอุบลรัตน์ฯ อ่าน พระชนม์พรรษา ถ้าจะทดสอบอายุน้อยกว่านั้นก็ได้ พระชนม์พรรษา
การปฏิบัติพระองค์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว :การปฏิบัติพระองค์ให้เหมาะเป็นการยาก ต้องทำสองอย่างพร้อมๆ กัน อย่างหนึ่งต้องให้มีภาคภูมิ อีกอย่างต้องให้สุภาพ มิให้เป็นหยิ่งหรือที่เรียกกันว่า “เบ่ง” และในสมัยประชาธิปไตยก็ต้องให้เหมาะสม เข้ากันได้กับประชาชน
สมเด็จพระญาณสังวรฯ :ตามที่ได้ฟัง ได้ยินแต่เสียงชื่นชมในพระบารมี
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว :ต้องคอยสังเกตเป็นบทเรียนและแก้ไขเรื่อยมา เมื่อคราวเสด็จฯ ภาคอีสาน วันหนึ่งเหนื่อยมาก หน้าบึ้ง กลับที่พักแล้วก็นึกขึ้นได้ว่า ราษฎรได้มีโอกาสเห็นเราเพียงครั้งเดียว ให้เขาเห็นหน้าบึ้งไม่ดี ต่อจากนั้น ถึงจะเหนื่อยมากก็ต้องพยายามไม่ทำหน้าบึ้ง ต้องทำชื่นบาน
กำลังใจ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว :เมื่อคราวเสด็จทางภาคใต้ วันหนึ่งไม่สบาย แต่ถ้างดไม่ไปก็จะเสียหาย ต้องไป ครั้นไปแล้วกลับมาก็สบายดี จะเป็นเพราะกำลังใจใช่ไหม ?
สมเด็จพระญาณสังวรฯ :(ทูลรับ แล้วทูลว่า) ฝึกบ่อยๆ กำลังใจจะมากยิ่งขึ้น
การทำสมาธิ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว :ทำสมาธิอย่างไร ?
สมเด็จพระญาณสังวรฯ :คือทำใจให้ตั้งมั่น แน่วแน่อยู่ในอารมณ์เดียว จะทำอะไรทุกๆ อย่าง ต้องมีใจเป็นสมาธิ ในทางปฏิบัติจึงต้องใช้สมาธิทั้งนั้น แต่มักมีคนเข้าใจว่า ทำสมาธิต้องนั่งหลับตา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว :นั่งทำพิธี ทรงรู้สึกว่า เวลาปฏิบัติราชกิจต้องทรงสำรวมพระราชหฤทัย เช่น คราวพระราชทานกระบี่นักเรียนนายร้อย เพียงหยิบให้ ถ้าไม่สำรวมใจมีผิด สำรวมใจอยู่ก็ทำไม่ผิด
นิมิตในสมาธิ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว :ทำสมาธิ มองเห็นภาพต่างๆ เป็นจริงหรือ ?
สมเด็จพระญาณสังวรฯ :โดยมากไม่จริง ... ภาพที่เห็นมักเป็นนิมิต คือ ภาพที่เกิดจากสัญญา หรือที่เรียกว่า “ภาพอุปาทาน” คือ ได้เคยคิดเคยเห็นมาแล้วเก็บไว้ในใจ ครั้นทำสมาธิ ใจแน่วแน่ สิ่งที่เก็บไว้ในใจนั้นก็ปรากฏขึ้นมา เหมือนอย่างที่เห็นนรก เห็นสวรรค์ เห็นเทวดา ถามว่า เทวดารูปร่างอย่างไร ตามคำตอบก็คล้ายกับเทวดาที่ผนังโบสถ์ แต่ที่เป็นจริงก็มี เป็นพวกทิพยจักษุมีน้อย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว :เหมือนอย่างดูของหาย มองเห็น มีพระดูได้
สมเด็จพระญาณสังวรฯ :ถ้ามองเห็น ถูกต้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น ก็ต้องรับว่าเป็นจริง เพราะมีข้อพิสูจน์
อิทธิ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว :“หายตัว” เป็นจริง หรือเป็นการสะกดจิตไม่ให้เห็น ?
สมเด็จพระญาณสังวรฯ :อาจเป็นการสะกดจิต แต่การล่องหนทะลุกำแพงออกไป ถ้าเป็นจริงก็จะต้องทำตัวอย่างไรให้เล็ดลอดออกไปได้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว :มีในพระพุทธศาสนาหรือเปล่า ?
สมเด็จพระญาณสังวรฯ :มีแสดงไว้ แต่ไม่ใช่พระพุทธศาสนาโดยตรง มีแสดงไว้ก่อนในตำรับทางพราหมณ์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว :แต่มีแสดงไว้ในพระพุทธศาสนาด้วย
สมเด็จพระญาณสังวรฯ :(ทูลรับพระราชดำรัส)
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว :อยู่ในที่นี้แล้วสะกดจิตคนที่อยู่ในที่อื่นได้ไหม ?
สมเด็จพระญาณสังวรฯ :เคยพบแต่ที่แสดงไว้ว่าอยู่ในที่เดียวกัน
พระเครื่อง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว :พระเครื่องคุ้มกันได้จริงไหม... คุ้มกันได้เพราะใจเชื่อมั่นว่ามีพระเครื่องอยู่กับตัวหรืออย่างไร ?
สมเด็จพระญาณสังวรฯ:เป็นเครื่องทำให้ใจเชื่อมั่น
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว :ถ้าใจเชื่อมั่นแล้วก็ไม่จำเป็นหรือ ?
สมเด็จพระญาณสังวรฯ :ไม่จำเป็น แต่ก็มีเชื่อกันว่า พระเครื่องให้อยู่คงจริงก็มี คือ ผู้ที่มีอยู่จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม หรือมิได้คำนึงถึง แต่พระเครื่องก็คงคุ้มกันผู้ที่ไม่เชื่อก็มี
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว :ก็เชื่อ มีคนให้ รับมาไว้ที่พระองค์ เขาก็ยินดี แต่วันนี้ไม่ได้ติดมา
เวลาเสด็จกลับ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว :จะกลับ
สมเด็จพระญาณสังวรฯ :จะถวายอดิเรกก่อน
จากหนังสือเรื่อง มหาบพิตร ในหลวงทรงถาม พระอรหันต์ตอบ โดยคุณวีระวัฒน์ ชลสวัสดิ์:เรียบเรียง