- 19 ส.ค. 2559
ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th
ความคืบหน้าการสืบพยานฝ่ายจำเลย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 กรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท
ล่าสุดเป็นทางด้าน นายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ เข้าให้การสรุปมีรายละเอียดบางช่วงบางตอนว่า ข้าวที่ชาวนานำมาเข้าโครงการจะมีการตรวจสอบในทุกขั้นตอน อาทิ การคิดคำนวณว่าข้าวหักซึ่งเป็นส่วนหนึ่งทำให้ชาวนาไม่ได้รับเงินเต็มจำนวนที่กำหนดไว้ในการรับจำนำ 15,000 บาทต่อตัน และรัฐบาลไม่รับจำนำข้าวอายุน้อยกว่า 110 วัน
ส่วนการตรวจสอบข้าวนั้น ณ จุดรับจำนำข้าวเปลือก จะมีเครื่องบดเพื่อตรวจสอบลักษณะและคุณภาพข้าวว่าใช้ได้หรือไม่ ขณะที่ชาวนาที่จะนำเข้ามาจำนำต้องมีการขึ้นทะเบียนเพื่อให้รู้ว่าปลูกข้าวพันธุ์อะไร จำนวนเท่าใด ในพื้นที่ใด แล้วจะมีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ และมั่นใจว่าจะไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดปล่อยให้มีการจำนำข้าวที่ไม่มีคุณภาพเพราะจะต้องมีผู้รับผิดชอบ
สำหรับกรณี ป.ป.ช. และ สตง. มีหนังสือแจ้งเตือนการทุจริตและเสนอข้อแนะนำโครงการฯ นายวราเทพยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับทราบและมอบหมายให้หน่วยงานเกี่ยวข้องปฏิบัติโดยมีการติดตามผลและปรับปรุงข้อกำหนดต่างๆ ให้รัดกุมขึ้น ขณะที่การพิจารณาตัวเลขของอนุกรรมการปิดบัญชีฯ กระทรวงการคลังพบว่ามีตัวเลขที่แตกต่างกับกระทรวงพาณิชย์ เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์เสนอให้ใช้ราคาต้นทุนซึ่งมีราคาที่สูงกว่า จะทำให้ตัวเลขขาดทุนน้อยลง รวมถึงจากการตัวเลขอ้างข้าวหายก็ไม่เป็นความจริง รวมถึงกรอบวงเงินที่ใช้ในการดำเนินโครงการก็เป็นไปตาม พ.ร.บ.หนี้สาธารณะ
ขณะเดียวกันทางองค์คณะฯ ได้สอบถามพยานเกี่ยวกับข้อสงสัยในวิธีการรับจำนำข้าว ซึ่งนายวราเทพ ตอบว่า โครงการรับจำนำข้าวนั้น เป็นโครงการที่ชาวนาใช้สิทธิ์ไถ่ถอนข้าวคืนได้ แต่ต้องนำเงินพร้อมดอกเบี้ยมาคืนให้ธกส. แล้วชาวนาจะได้รับข้าวเปลือกของตนเองกลับคืน แต่เนื่องจากปัจจุบันไม่มียุ้งฉางเก็บข้าว ดังนั้นเมื่อรัฐบาลรับจำนำข้าวแล้วจะต้องนำข้าวไปสีแปร หากชาวนาจะมาไถ่ถอนก็จะได้รับข้าวคืนส่วนจะเป็นข้าวชนิดใด ก็ขึ้นอยู่กับตามข้อตกลงที่ ธกส. ทำไว้กับชาวนา
และเมื่อถูกถามว่ารัฐบาล มีวิธีตรวจสอบอย่างไรไม่ให้มีการนำข้าวต่างประเทศมาเข้าโครงการรับจำนำ นายวราเทพ ชี้แจงย้ำว่า เกษตรกรต้องลงทะเบียนแสดงว่ามีที่ดินทำนา ปลูกข้าวจริง ไม่ใช่มีแค่ที่นา นอกจากนี้รัฐบาลยังให้มีการตั้งประชาคมโดยมีคนในชุมชนร่วมรับรองว่าชาวนาดังกล่าวปลูกข้าวจริง รวมถึงยังใช้ภาพแผนที่ทางอากาศ เทียบเคียงกับพื้นที่จริงด้วยว่าสามารถปลูกข้าวได้หรือไม่ อีกทั้งกระทรวงกลาโหมยังมีมาตรการให้ทหาร ร่วมกับ ตำรวจสกัดกั้นการลอบนำข้าวเข้ามาในประเทศ
เมื่อศาลถามย้ำว่า มีการตรวจสอบเกษตรกรทุกรายหรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า ไม่สามารถตรวจได้ทุกรายเพราะมีชาวนาจำนวนมากที่ร่วมโครงการ แต่มีการสุ่มตรวจ เช่น 25 คน จาก 100 คน โดยยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการสวมสิทธิ์ในการนำข้าวเข้าสู่โครงการรับจำนำ