ครูอาจารย์ชื่อดังหลายรูป ยืนยันตรงกัน!!! หลวงปู่ดู่ คือหลวงปู่ทวดแบ่งภาคมาเกิด

ติดตามเรื่องราวดีๆได้ที่ http://panyayan.tnews.co.th/

เรื่องราวของประสบการณ์ปาฏิหาริย์ ในองค์หลวงปู่ทวดนั้น จริงๆ ผู้บูชามักพบความมหัศจรรย์จากท่านไม่มากก็น้อย ยิ่งผู้ใดเจริญพระกรรมฐานด้วยแล้ว ก็จะยิ่งพบความมหัศจรรย์จากองค์ท่านมากขึ้นไปอีก แต่ที่น่าแปลกกว่านั้นคือ เรื่องของหลวงปู่ทวดไม่ได้จบลงที่พระเครื่องปี ๒๔๙๗ แต่ในขณะเดียวกันนั้นในทางภาคกลางคือจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็มีพระภิกษุรูปหนึ่งที่กล่าวกันว่า ท่านคือ “หลวงปู่ทวดกลับชาติมาเกิด” หรือเป็นการแบ่งภาคลงมาของหลวงปู่ทวด ท่านนั้นคือ “หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ” แห่งวัดสะแก ผู้เป็นอีกหนึ่งชาติของพระศรีอริยเมตตรัยลงมาบำเพ็ญบารมีและถือว่าเป็นภาคต่อของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดแห่งภาคใต้ ดังท่านจะได้อ่านต่อไป

ครูอาจารย์ชื่อดังหลายรูป ยืนยันตรงกัน!!! หลวงปู่ดู่ คือหลวงปู่ทวดแบ่งภาคมาเกิด

(หลวงปู่ทวด)

 “หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ” นับเป็นพระโพธิสัตว์เจ้าที่มีบารมีเต็มอีกพระองค์หนึ่ง ท่านได้รับการยืนยันจากนักปฏิบัติหลายท่านว่า “เป็นหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดกลับชาติมาเกิด” หรือ จะกล่าวว่าท่านเป็นภาคหนึ่งขององค์หลวงปู่ทวดก็ได้

มีพระคณาจารย์หลายท่านที่ยืนยันตรงกันว่าหลวงปู่ดู่มีญาณบารมีของหลวงปู่ทวดอยู่เต็มภูมิ เช่น หลวงปู่สีห์ วัดสะแก เป็นรุ่นพี่ของหลวงปู่ดู่ ก็เรียกหลวงปู่ดู่ว่า “หลวงปู่ทวด”

 “หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน” “หลวงพ่อจำเนียร สำนักสงฆ์ต้นเลียบ จ.สงขลา” กล่าวถึงหลวงปู่ดู่ท่านว่า ต่อไปจะสำเร็จเป็นพระศรีอริยเมตตรัย

“หลวงพ่อนอง วัดทรายขาว” หนึ่งในครูบาอาจารย์ที่ร่วมพิธีอธิษฐานจิตหลวงปู่ทวดปี ๒๔๙๗ กล่าวถึงหลวงปู่ดู่ท่านว่า  เป็นผู้มีญาณหลวงปู่ทวดติดตามตลอดเวลา

“หลวงปู่บุดดา ถาวโร” พระอรหันต์อีกท่านหนึ่งก็กล่าวกับหลวงปู่ดู่ว่า “ความปรารถนาของคุณจะสำเร็จ และขอมอบมงกุฎพระพุทธเจ้าให้คุณ”

“หลวงพ่อเกษม เขมโก” กล่าวว่า หลวงปู่ดู่เป็นพระใจเพชร ขณะที่หลวงปู่ดู่ก็ชมว่าหลวงพ่อเกษม เขมโก เป็นพระตาเพชร และอีกหลายท่านที่กล่าวยืนยันตรงกันเช่นนี้

โดยรวมแล้วครูบาอาจารย์ชั้นสูงแต่ละท่าน ที่กล่าวถึงหลวงปู่ดู่ก็มีสองเรื่องคือ “ยกย่องหลวงปู่ดู่ว่าผูกพันกับหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดประการหนึ่ง” และ “จะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้านามว่าศรีอริยเมตตรัยประการหนึ่ง” นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้กันในแวดวงนักปฏิบัติว่า “หลวงปู่ดู่ท่านมีบารมีเต็ม” และนับถือกันว่า ท่านมีศักดิ์เป็นรุ่นพี่ของเจ้าแม่กวนอิม หรือพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรด้วย เพราะท่านทำบารมีจนถึงเส้นชัย ใช้เวลาบำเพ็ญบารมีแบบ “วิริยาธิกะ” มายาวนานกว่า ๑๖ อสงไขยแสนมหากัป ตอนนี้ถือว่าบารมีเต็มแล้ว แต่ยังลงมาอุบัติสงเคราะห์สรรพสัตว์ทั้งหลาย และเป็นการเพิ่มพูนบารมีให้ยิ่งๆ ขึ้นไปอีกด้วย

ครูอาจารย์ชื่อดังหลายรูป ยืนยันตรงกัน!!! หลวงปู่ดู่ คือหลวงปู่ทวดแบ่งภาคมาเกิด

(หลวงปู่ดู่ หลวงปู่ทวด)

จริยาวัตรของหลวงปู่ดู่ท่านนั้น งดงามจนหลายคนต่างเชื่อว่า ท่านเป็นพระอริยเจ้าที่หมดสิ้นอาสวะกิเลสแล้ว แต่องค์หลวงปู่ดู่ท่านยืนยันด้วยตัวท่านเองว่าท่านอธิษฐานมาเป็นพระโพธิสัตว์ และเป็นพระโพธิสัตว์ที่มีบารมีแก่กล้ามากแล้ว ภูมิจิตภูมิธรรมจึงใกล้เคียงกับพระอริยเจ้าชั้นอนาคามี ผิดแต่ว่าพระอนาคามีนั้น จิตท่านเตรียมเข้าสู่ความเป็นอรหันต์ แต่พระโพธิสัตว์บารมีเต็มนั้น จิตเตรียมบรรลุสัมมาสัมโพธิญาณในกาลข้างหน้า ที่เหมือนกันคือ “พระอนาคามีไม่มีทางถอยหลัง” เพราะตั้งแต่ “พระโสดาบัน” ก็ไม่มีทางแวะซ้ายขวาหรือถอยหลังอีกแล้ว มีแต่มุ่งหน้าเข้าหาพระนิพพานเพียงอย่างเดียว ยิ่งเป็นพระอนาคามีแล้วยิ่งใกล้ต่อพระนิพพานเป็นอย่างยิ่ง ที่เปรียบภูมิจิตของพระโพธิสัตว์บารมีเต็มกับพระอนาคามีนั้น เนื่องจากเป็นชั้นบารมีแก่กล้า แม้ยังไม่เข้าสู่การละกิเลสโดยสิ้นเชิง แต่ภูมิจิตนั้นสะอาดบริสุทธิ์ยิ่งแล้ว ไม่นิยมข้องแวะซ้องเสพทางกามารมณ์เหมือนดั่งสัตว์ปุถุชนทั่วไป

เครดิตข้อมูลจาก : สืบสายพระโพธิญาณ สานปณิธานพระโพธิสัตว์ โดย ทิพยจักร

ครูอาจารย์ชื่อดังหลายรูป ยืนยันตรงกัน!!! หลวงปู่ดู่ คือหลวงปู่ทวดแบ่งภาคมาเกิด