วันวารแห่งความปีติ…จากเรื่องราวความประทับใจของพสกนิกรชาวไทย

ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://panyayan.tnews.co.th

กรุงปารีสพุทธศักราช ๒๔๙๐
บ่ายวันนั้น ณ บริเวณชานเมืองในกรุงปารีสเมืองหลวงของฝรั่งเศส ได้ปรากฏภาพชายหญิงทั้งชาวไทยและเชื้อสายยุโรปตั้งขบวนรวมตัวกันอยู่ที่บริเวณจุดนัดพบแห่งหนึ่งซึ่งมีลักษณะเป็นป่าโปร่ง...
กระไอแดดยามบ่ายทำให้ทุกคนต่างอาศัยร่มเงาต้นไม้โปร่งๆนั้นเป็นที่หลบแดดบรรเทาความร้อนดูเหมือนทุกผู้คนในที่นั้นกำลังรอคอยต้อนรับ “ใคร” สักคนอยู่อย่างใจจดใจจ่อและดูจากท่าทางของผู้คนในขบวนต้อนรับแล้วเห็นชัดว่า “ใคร” ผู้นั้นคงมีความสำคัญสำหรับพวกเขาอย่างยิ่ง
กลุ่มคนคณะดังกล่าวนี้นำโดย“หม่อมเจ้านักขัตรมงคล”เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศฝรั่งเศสพร้อมด้วยคณะบุคคลจากสถานทูตไทยฯ ขบวนรถอารักขาตลอดจนเหล่านักเรียนไทย...ทั้งหมดต่างตั้งใจมารับเสด็จฯ “พระมหากษัตริย์” ของพวกตนด้วยความปีติยินดียิ่ง
แน่นอนว่า “บุคคลสำคัญ” ที่ว่านี้ก็คือ“สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช” (เนื่องจากยังมิได้ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกจึงมิได้ใช้ “พระบาท” นำหน้า คงขนานพระนามในขณะนั้นว่า “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” อีกทั้ง “คำสั่ง” ของพระองค์ก็ไม่เรียกว่า “พระบรมราชโองการ” และเครื่องยศบางอย่างก็ต้องลดลง เช่น จะยังไม่มีการใช้นพปฎลมหาเศวตฉัตรหรือฉัตร ๙ ชั้น แต่ใช้เพียง ๗ ชั้น เป็นต้น) องค์พระประมุขผู้เป็นที่เคารพรักและภักดียิ่งของชาวไทยทั้งประเทศนั่นเอง

วันวารแห่งความปีติ…จากเรื่องราวความประทับใจของพสกนิกรชาวไทย
 

ในช่วงเวลานั้นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกำลังทรงศึกษาอยู่ ณ มหาวิทยาลัยโลซานน์ ในสาขาสังคมศาสตร์นิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ โดยนับจากเกิดเหตุการณ์สวรรคตอย่างกะทันหันของสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช ในหลวงรัชกาลที่ ๘ ของไทย เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๙ หลังจากนั้นราวสองเดือนเศษ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ และ “สมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์” (ภายหลังได้รับการสถาปนาพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี) ก็เสด็จฯ มาประทับที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยประทับอยู่ร่วมกับสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา (ภายหลังได้รับการสถาปนาฐานันดรศักดิ์เป็น สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์) ณ พระตำหนักวิลล่าวัฒนา (Villa Vadhana) เมืองโลซานน์ท่ามกลางความทุกข์โทมนัสด้วยความอาลัยรักในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลอย่างสุดซึ้ง
วันวารแห่งความปีติ…จากเรื่องราวความประทับใจของพสกนิกรชาวไทย

แต่ถึงกระนั้นทุกพระองค์ก็ตระหนักถึงพระราชภาระอันหนักอึ้งในฐานะ “ศูนย์รวมดวงใจ” ของประชาชนชาวไทยทั้งประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น พระราชภารกิจด้านการศึกษาศาสตร์วิชามากมายหลายแขนงเพื่อทรงใช้ในการปกครองดูแลประชาชนของพระองค์ในอนาคต ทำให้ต้องทรงใช้เวลาคร่ำเคร่งอยู่กับวิชาการเหล่านั้นด้วยพระวิริยะอุตสาหะยิ่ง กระทั่งแทบไม่มีโอกาสจะทรงสำราญพระราชอิริยาบถหรือทรงพักผ่อนได้เลย แม้กระนั้นก็ยังทรงไม่ละเลยที่จะศึกษาข้อราชการงานแผ่นดินที่ทางหน่วยงานผู้รับสนองพระบรมราชโองการในประเทศได้ทูลเกล้าฯ ถวายข้อมูลมาให้ทรงทอดพระเนตรอยู่อย่างต่อเนื่อง
การเสด็จพระราชดำเนินจากเมืองโลซานน์ประเทศสวิตเซอร์แลนด์มายังกรุงปารีสประเทศฝรั่งเศสในครั้งนี้ ก็เนื่องด้วยทรงมีพระประสงค์จะเลือกซื้อรถยนต์พระที่นั่งแทนคันเดิมที่มีสภาพทรุดโทรมมากแล้ว โดยทรงยืนยันถึงพระราชประสงค์ว่าจะประทับที่สถานทูตไทยประจำประเทศฝรั่งเศส เฉกเช่นเดียวกับนักเรียนไทยในยุคนั้น
นี่คือเหตุแห่งความปลาบปลื้มปีติของหม่อมเจ้านักขัตรมงคล (ภายหลังได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯสถาปนาขึ้นเป็นพลเอกพระวรวงศ์เธอกรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ) และครอบครัวพร้อมเหล่าข้าราชการในสถานทูตไทยประจำประเทศฝรั่งเศสข้าราชบริพารและเหล่านักเรียนไทยซึ่งศึกษาอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสในเวลานั้น ที่จะได้มีโอกาสได้กราบชื่นชมพระบารมีแห่งองค์ในหลวงที่ตนรักและเทิดทูนยิ่ง
 และ...เป็นที่มาของการรวมตัวกันเพื่อรับเสด็จในครั้งนี้

วันวารแห่งความปีติ…จากเรื่องราวความประทับใจของพสกนิกรชาวไทย

วันวารแห่งความปีติ…จากเรื่องราวความประทับใจของพสกนิกรชาวไทย

จากหนังสือเรื่องอมตะ...แห่งรัก  เรียบเรียงโดย สุวิสุทธิ์