ฮือฮากันทั้งบาง! เมื่อ "อ.แปลก" แอบย่องมาลองวิชา "เสด็จเตี่ย"  งานนี้ฆราวาสจอมขมังเวทย์ทั่งคู่! กินกันไม่ลงจริงๆ

ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://panyayan.tnews.co.th

           อ.แปลกท่านเรียนวิชามามาก มีความชำนาญสูงและด้วยความที่ว่าท่านร้อนวิชาอยู่เสมอจึงต้องอยู่ในแพ แล้วให้แพ ลอยไปเรื่อยๆ สุดท้ายท่านมายอมเป็น ศิษย์สายหลวงปู่เอี่ยม แห่งวัดสะพานสูง ความขลังและเรืองวิชาของท่านนั้นมีมากมาย แม้ในขณะหลับ มีคนอยากทดสอบว่าท่านเหนียวจริงไหมตอนหลับ จึงย่องมาตอนท่านหลับแล้วแอบเฉือนแขนท่านไป3ที มีดหาได้ระคายผิวท่านไม่

 

 ฮือฮากันทั้งบาง! เมื่อ "อ.แปลก" แอบย่องมาลองวิชา "เสด็จเตี่ย"  งานนี้ฆราวาสจอมขมังเวทย์ทั่งคู่! กินกันไม่ลงจริงๆ

             ขอเล่าถึงเรื่องความแปลกของท่านอาจารย์แปลก เรื่องหนึ่งถือว่าเป็นเรื่องเล่าที่แปลกจริงๆ คือเรื่องอาจารย์แปลกกับกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ว่ากันว่าในคราวที่กรมหลวงชุมพรฯ ได้เข้ามาพำนักที่ตำหนักในกรุงเทพมหานคร

             ชื่อเสียงของกรมหลวงฯท่านนั้นโด่งดังมากโดยเฉพาะเรื่องความขมังเวทย์ของท่าน ที่ไม่เป็นรองใครเพราะถือว่าเป็นผู้มีอาจารย์ที่ดีเลิศคือหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เป็นอาจารย์ที่เรืองเวทย์และประสิทธิ์ประสาทวิชาให้แก่กรมหลวงฯ ท่านได้เรียนมาหลายวิชา แต่ละวิชาก็ถือว่าสุดยอดทั้งนั้น

            วันหนึ่งชื่อเสียงความโด่งดังของกรมหลวงฯท่านนั้นแว่วไปถึงหูอาจารย์แปลก ซึ่งลอยเรืออยู่ในคลองพระอุดม อาจารย์แปลกจึงคิดอยากจะลองวิชากับกรมหลวงฯสักคราว ว่าชื่อเสียงที่เล่าลือกันนั้นจะเก่งแท้สักขนาดไหน โดยท่านได้เล่าให้ศิษย์ฟังถึงเรื่องที่ท่านจะทำว่า

 จะเข้าไปเมืองหลวง จะไปขอข้าวลูกท่านหลานเธอกิน

 

 ฮือฮากันทั้งบาง! เมื่อ "อ.แปลก" แอบย่องมาลองวิชา "เสด็จเตี่ย"  งานนี้ฆราวาสจอมขมังเวทย์ทั่งคู่! กินกันไม่ลงจริงๆ

            หลังจากนั้นอาจารย์แปลกก็ไม่ได้อยู่ที่เรือที่ท่านอาศัย และได้จอดเทียบท่าอยู่ที่ท่าน้ำวัดสะพานสูง แล้วให้ศิษย์คอยเฝ้าเรือของท่านไว้ ท่านจะไม่อยู่สักพัก …. ในขณะเดียวกันที่วังของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ก็ได้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น

             เรื่องของเรื่องก็คือ ในห้องเครื่องต้น (ห้องจัดเตรียมอาหารในวัง) ได้มีคนลอบเข้ามาขโมยกินข้าวหัวหม้อหรือข้าวต้นหม้อ ซึ่งเป็นข้าวที่จะถวายสำรับแก่กรมหลวงฯ เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในทุกๆมื้ออาหารที่จะนำถวายสำรับแก่กรมหลวงฯ และเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอยู่หลายวัน แต่ได้มีการปกปิดเรื่องไว้ จนกระทั่งสุดท้ายวันหนึ่งความก็หลุดไปถึงกรมหลวงฯเข้า ท่านโกรธมากเป็นฟืนเป็นไฟ ว่าใครที่มาทำกับท่านแบบนี้ ถ้าจับได้ ท่านจะนำไปประหาร

                กรมหลวงฯจึงวางแผนตั้งเวทย์ค่ายกลเพื่อดักจับโจรขโมยกินข้าวท่านให้ได้ พระเวทย์ค่ายกลนี้ถ้าเป็นคนธรรมดาหรือไม่เก่งวิชาจริงคงไม่รอด โดยที่ทุกครั้งที่ที่ดักจับ โจรดังกล่าวก็หลุดหนีไปได้ทุกทีด้วยมนต์กำบังกายขั้นสูง จนกรมหลวงฯท่านแทบจะทนไม่ได้ที่ยังจับโจรดังกล่าวไม่สำเร็จ จึงได้ไปขอวิธีและข้อชี้แนะจากอาจารย์ของท่านคือหลวงปู่ศุข หลังจากที่ได้วิธีที่น่าจะใช้จับโจรได้แล้ว กรมหลวงฯท่านก็ดำเนินการวางแผนอย่างแยบยลและเคร่งครัด จนกระทั่งแผนดังกว่างนั้นได้สำเร็จผล คือจับโจรที่ขโมยกินข้าวต้นหม้อได้

             จากนั้นก็นำไปคุมขังเพื่อให้ปริปากเอ่ยว่าเป็นใคร ทำไมถึงทำอย่างนั้น ขณะนั้นอาจารย์แปลกท่านไม่ได้เอ่ยปากใดๆแก่ทหารองค์รักษ์เลยแม้แต่น้อย ท่านเม้มปิดปากอยู่ตลอดเวลาบางครั้งก็พึมพำๆ โดยคำสั่งที่ทหารได้รับมอบมาจากกรมหลวงว่าจะต้องสอบปากคำให้จงได้ ทหารดังกล่าวจึงคิดที่จะใช้วิธีทรมานผู้ต้องขัง (อาจารย์แปลก) ด้วยวิธีต่างๆนาๆ แต่ก็ไม่เป็นผล ทั้งมีด ทั้งปืน ไม่ได้กินเนื้อกินเลือดท่านเลยแม้แต่น้อยนิด เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนตกถึงตอนค่ำ โจรขโมยข้าวที่ถูกคุมขังได้หลุดหนีออกไปได้อย่างง่ายดาย โซ่ตรวนและกรงขัง ท่านเป่าหลุดหมด

              ก่อนหนี ท่านกำบังกาย และก็ได้ลอบเข้าไปในห้องบรรทมของกรมหลวงฯ แล้วเข้าไปกระซิบข้างๆหูว่า “ท่านเป็นศิษย์ของอาจารย์ใหญ่ ผู้เป็นหนึ่งในปากเกร็ด ที่ลอบเข้ามาก็เพื่อแค่จะทักทายท่านฯเพราะได้ข่าวถึงเรื่องความขมังเวทย์ของ ท่านฯ มิได้คิดจะทำเรื่องใหญ่โตอะไร ต่างฝ่ายต่างมีอาจารย์ดีทั้งคู่”  ก่อน อันตรธาน หายไป… ตื่นเช้ามากรมหลวงฯท่านจึงเรียกมหาดเล็กคนที่มีพื้นเพในพื้นที่ปากเกร็ด มาสอบถามถึง อาจารย์ใหญ่แห่งปากเกร็ดคือใคร จึงได้ความว่าผู้ที่ลอบเข้ามาขโมยกินข้าวท่านก็คืออาจารย์แปลก ร้อยบาง ผู้เป็นศิษย์หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ปากเกร็ด นนทบุรีนั่นเอง

               สมัยก่อนนั้นผู้มีวิชาของจริง มักประลองวิชากัน และมีความนอบน้อมต่อกัน ส่วนใหญ่พอได้ยินว่าท่านใดมีชื่อเสียงก็จะมาลองวิชา ลองแล้วไม่ได้กะทำร้ายกันจริง แค่พอให้รู้ในวิชา เพื่อทำให้รู้จักกัน และเคารพซึ่งกันและกัน

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : เพจศิษย์มีครู