ไขปริศนานิมิตหลวงปู่ดู่ ฉันดวงดาว๓ดวง ที่มาของการใช้ไตรสรณคมน์เป็นคาถาสำคัญ

ติดตามเรื่องราวน่าสนใจได้ที่ http://panyayan.tnews.co.th/

ในคืนหนึ่ง ในช่วงก่อน ปี พ.ศ. ๒๕๐๐เล็กน้อยหลังจากที่ท่านสวดมนต์ทำวัตรเย็น และเข้าจำวัดแล้วนั้นเกิดนิมิตไปว่าได้ฉันดาว ที่มีแสงสว่างมากเข้าไป ๓ ดวง ขณะที่ฉันนั้นรู้สึกว่า กรอบๆ ดี เมื่อฉันหมดก็ตกใจตื่นท่านจึงได้พิจารณานิมิตที่เกิดขึ้น ก็เกิดความเข้าใจในนิมิตนั้นว่า ดาวสามดวง ก็คือ “ดวงแก้วไตรสรณาคมน์” นั้นเอง

ไขปริศนานิมิตหลวงปู่ดู่ ฉันดวงดาว๓ดวง ที่มาของการใช้ไตรสรณคมน์เป็นคาถาสำคัญ

(หลวงปู่ดู่  หลวงปู่ทวด)

ท่านจึงท่อง “ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ” ก็เกิดปิติขึ้นในจิตท่านอย่างท่วมท้น เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและมั่นใจว่า การยึดมั่นพระไตรสรณาคมน์ เป็นวิธีที่เข้าสู่แก่นแท้เป็นรากแก้วของพระพุทธศาสนา ท่านจึงกำหนดเอา พระไตรสรณาคมน์เป็นองค์บริกรรมภาวนา

ไขปริศนานิมิตหลวงปู่ดู่ ฉันดวงดาว๓ดวง ที่มาของการใช้ไตรสรณคมน์เป็นคาถาสำคัญ

แต่นั้นมาท่านก็เจริญในสมณธรรมยิ่งขึ้นๆ จนได้เห็นธรรมอันอัศจรรย์ ตลอดจนถึงภูมิธรรมเดิมของตนเองอย่างสิ้นสงสัย ความเจริญในหลักภาวนาของหลวงปู่ดู่ท่านนั้น เป็นสิ่งที่ปุถุชนมิอาจหยั่งได้เลย แต่เป็นที่ปรากฏว่าท่านสามารถล่วงรู้และรับรู้ได้ว่า บุคคลผู้ใดพึงจะสำเร็จเป็นพระอรหันต์ประการหนึ่ง และบุคคลผู้ใดสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว หรือบุคคลผู้ใดที่มีบารมีมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่พ้นวิสัยที่ปุถุชนคนธรรมดาจะรู้ได้ เรื่องญาณทัศนะของหลวงปู่ท่านนั้นแจ่มแจ้งมากและไวเสียด้วย เรื่องเมตตาของท่านก็มากล้นพ้นประมาณเกินจะกล่าว คงทรงไว้ซึ่งความรู้สึกนี้ในใจของสานุศิษย์ทั้งหลายนั่นแล

ไขปริศนานิมิตหลวงปู่ดู่ ฉันดวงดาว๓ดวง ที่มาของการใช้ไตรสรณคมน์เป็นคาถาสำคัญ

(หลวงปู่ดู่)