รองอธิบดีกรมชลฯ เปิดงาน “คืนชีวิตสู่ทะเล” เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา พระราชินี

เวลา 09.00 น.วันนี้ (26 ส.ค.59) ที่หาดภราดรภาพ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ชุมพร    ดร.ทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีฝ่ายบำรุงรักษา กรมชลประทาน เป็นประธานเปิดกิจกรรม “คืนชีวิตสู่ทะเล” ตามโครงการใต้ร่มพระบารมี 70 ปีแห่งการครองราชย์ วันที่ 9 มิถุนายน 2559 และเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2559 โดยมี นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 14 พร้อมข้าราชการในสังกัดทั้ง 4 จังหวัดคือ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง ให้การต้อนรับและเข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 50 คน

 

หลังจากนั้น ดร.ทองเปลว ได้เป็นประธานมอบนโยบายแนวทางการบริหารจัดการน้ำและการประชุมการจัดการความรู้พัฒนาบุคลากร เพื่อเข้าสู่ SMART IRRIGATION OFFICER RIO.14 ที่ห้องประชุมโรงแรมโนโวเทลชุมพร บีช แอนด์ กอล์ฟ คลับ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือสถานการณ์ในช่วงฤดูมรสุมที่กำลังเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายน-ธันวาคม 2559

ดร.ทองเปลว กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางมาติดตามโครงการต่างๆ ของ 7 โครงการชลประทานใน 4 จังหวัดที่อยู่ในความดูแลของสำนักชลประทานที่ 14 ซึ่ง พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ และ นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ อธิบดีกรมชลประทาน ได้มอบหมายให้ดูแลเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งใน 4 จังหวัดที่อยู่ในความดูแลของสำนักชลประทานที่ 14 แม้ขณะนี้ยังไม่เริ่มฤดูมรสุมคือเดือนกันยายน แต่ก็จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น เช่น ตรวจสอบว่ามีสิ่งกีดขวางพวกผักตบ วัชพืช หรือขยะต่างๆ ปิดทางระบายน้ำหรือไม่ โครงการชลประทานแต่และโครงการมีแผนงานในการเก็บและระบายน้ำอย่างไร มีการบูรณาการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ หรือไม่ ซึ่งในภาพรวมก็ทราบว่ามีการเตรียมความพร้อมแล้วประมาณ 90% ส่วนอีก 10% ที่เหลือคือเรื่องเทคนิคและวิธีการ ภายในเดือนกันยายนต้องมีการกำจัดสิ่งขวางทางน้ำต่างๆ ให้เสร็จสิ้น

ดร.ทองเปลว กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางมาติดตามโครงการต่างๆ ของ 7 โครงการชลประทานใน 4 จังหวัดที่อยู่ในความดูแลของสำนักชลประทานที่ 14 ซึ่ง พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ และ นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ อธิบดีกรมชลประทาน ได้มอบหมายให้ดูแลเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งใน 4 จังหวัดที่อยู่ในความดูแลของสำนักชลประทานที่ 14 แม้ขณะนี้ยังไม่เริ่มฤดูมรสุมคือเดือนกันยายน แต่ก็จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น เช่น ตรวจสอบว่ามีสิ่งกีดขวางพวกผักตบ วัชพืช หรือขยะต่างๆ ปิดทางระบายน้ำหรือไม่ โครงการชลประทานแต่และโครงการมีแผนงานในการเก็บและระบายน้ำอย่างไร มีการบูรณาการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ หรือไม่ ซึ่งในภาพรวมก็ทราบว่ามีการเตรียมความพร้อมแล้วประมาณ 90% ส่วนอีก 10% ที่เหลือคือเรื่องเทคนิคและวิธีการ ภายในเดือนกันยายนต้องมีการกำจัดสิ่งขวางทางน้ำต่างๆ ให้เสร็จสิ้น

“สำหรับโครงการตามพระราชดำริเพื่อป้องกันและแก้ปัญหาอุทกภัย กรมชลประทานได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งมีแผนยุทธศาสตร์ 12 ปี ตั้งแต่ปี 2558-2569 นั่นคือในทุกพื้นที่ต้องมีการจัดหาน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค เพื่อการเกษตรและอุตสาหกรรม รวมทั้งการอนุรักษ์และการบริหารจัดการน้ำ 3 ระยะคือ สั้น กลาง ยาว อย่างไรก็ตาม ประชาชนในพื้นที่สุ่มเสี่ยง ก็ควรติดตามข้อมูลข่าวสารอยู่เสมอ เพราะการรู้ข้อมูลล่วงหน้าจะสามารถเตรียมความพร้อมรับมือเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้ รวมทั้งต้องให้ความร่วมมือกับทางการในการป้องกันและแก้ปัญหาอุทกภัยหากได้รับการร้องขอด้วย” ดร.ทองเปลว กล่าว

ข่าว/ภาพ : ทีมข่าวดาวใต้ทีนิวส์