ยกมือท่วมหัว!! สนทนาธรรมระหว่างหลวงพ่อเกษม เขมโก เกจิดังเมืองเขลางค์นคร กับในหลวง พ่อของแผ่นดิน ณ วัดคะตึกเชียงมั่น จ.ลำปาง

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

     พระราชปุจฉาวิสัชนาธรรม ระหว่าง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับหลวงพ่อเกษม เขมโก เสด็จพระราชดำเนินไปทรงตัดลูกนิมิต ณ วัดคะตึกเชียงมั่น จังหวัดลำปาง พุทธศักราช ๒๕๒๑

 

ยกมือท่วมหัว!! สนทนาธรรมระหว่างหลวงพ่อเกษม เขมโก เกจิดังเมืองเขลางค์นคร กับในหลวง พ่อของแผ่นดิน ณ วัดคะตึกเชียงมั่น จ.ลำปาง

 

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : หลวงพ่อประจำอยู่ที่วัดนี้หรือ ?

หลวงพ่อเกษม : ขอถวายพระพร อาตมาประจำอยู่ที่สุสานไตรลักษณ์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : อยากไปหาหลวงพ่อเหมือนกัน แต่หาเวลาไม่ค่อยได้ ได้ทราบว่าเข้าพบหลวงพ่อยากมาก

หลวงพ่อเกษม : พระราชาเสด็จไปป่าช้าเป็นการไม่สะดวก เพราะสถานที่ไม่เรียบร้อย อาตมาภาพจึงมารอเสด็จที่นี่ ขอถวายพระพร มหาบพิตรสบายดีหรือ ?

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : สบายดี

หลวงพ่อเกษม : ขอถวายพระพร มหาบพิตรพระชนมายุเท่าไหร่ ?

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : ได้ ๕๐ ปี

หลวงพ่อเกษม : อาตมาภาพได้ ๖๗ ปี

ยกมือท่วมหัว!! สนทนาธรรมระหว่างหลวงพ่อเกษม เขมโก เกจิดังเมืองเขลางค์นคร กับในหลวง พ่อของแผ่นดิน ณ วัดคะตึกเชียงมั่น จ.ลำปาง

 

 

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : หลวงพ่ออยู่ตามป่ามีความสงบ ย่อมมีโอกาสปฏิบัติธรรมได้มากกว่า พระที่วัดในเมือง ซึ่งมีภารกิจเกี่ยวกับการปกครองและงานอื่นๆ จะเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า ?

หลวงพ่อเกษม : ขอถวายพระพร อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ เพราะอยู่ป่าไม่มีภารกิจอย่างอื่น แต่ก็ขึ้นอยู่กับศีลบริสุทธิ์ด้วย เพราะเมื่อศีลบริสุทธิ์ จิตไม่ฟุ้งซ่าน นิวรณ์ไม่ครอบงำ ก็ปฏิบัติได้

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : การปฏิบัติอย่างพระมีเวลามากย่อมจะได้ผลเร็ว ส่วนผู้ที่มีเวลาน้อย มีภารกิจมาก จะปฏิบัติอย่างหลวงพ่อก็ไม่อาจทำได้ แล้วจะมีวิธีปฏิบัติอย่างไร เราจะหั่นแลกช่วงเวลาช่วงเช้าให้สั้นเข้าจะได้ไหม คือ ซอยเวลาออกจากหนึ่งชั่วโมงเป็นครึ่งชั่วโมง จากครึ่งชั่วโมงเป็นสิบนาทีหรือห้านาที แต่ให้ได้ผล คือได้รับความสุขเท่ากัน ยกตัวอย่างเช่น นั่งรถยนต์จากเชียงใหม่มาลำปางก็สามารถปฏิบัติได้ หรือระหว่างที่มาอยู่ในพิธีนี้ มีช่วงเวลาที่ว่างอยู่ ก็ปฏิบัติเป็นระยะไปอย่างนี้ จะถูกหรือเปล่าก็ไม่ทราบ อยากจะเรียนถาม ?

หลวงพ่อเกษม : ขอถวายพระพร จะปฏิบัติอย่างนั้นก็ได้ ถ้าแบ่งเวลาได้

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : ไม่ถึงแบ่งเวลาต่างหากออกมาทีเดียว ก็อาศัยเวลาขณะที่ออกมา ทำงานอย่างอื่นอยู่นั้นแหละ ได้หรือไม่ คือ ใช้สติอยู่ทุกขณะจิตที่เกิดดับ ทำงานด้วยความรอบคอบ ให้สติตั้งอยู่ตลอดเวลา

ยกมือท่วมหัว!! สนทนาธรรมระหว่างหลวงพ่อเกษม เขมโก เกจิดังเมืองเขลางค์นคร กับในหลวง พ่อของแผ่นดิน ณ วัดคะตึกเชียงมั่น จ.ลำปาง

 

 

หลวงพ่อเกษม : ขอถวายพระพร มหาบพิตรทรงปฏิบัติอย่างนั้นถูกแล้ว การที่มหาบพิตร เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติงานอย่างนี้ ก็เรียกว่า ได้ทรงเจริญเมตตาในพรหมวิหารอยู่

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : ก็คิดว่าเป็นอย่างนั้น เช่นว่า มาตัดลูกนิมิตนี้ก็ถือว่าเป็นการปฏิบัติธรรม ด้วยขี้เกียจมา จึงมีกำลังใจมาและเมื่อได้โอกาสได้เรียนถามพระสงฆ์ว่า การปฏิบัติธรรม เป็นระยะเวลาสั้นๆ เป็นตอนๆ อย่างนี้จะได้ผลไหม อุปมาเหมือนช่างทาสีผนังโบสถ์ เขาทางนี้ดีแล้วพัก ทาทางโน้นดีแล้วพัก ทำอยู่อย่างนี้ก็เสร็จได้ แต่ต้องใช้เวลาหน่อย จึงอยากเรียนถามว่า ปฏิบัติอย่างนี้จะมีผลสำเร็จไหม ?

หลวงพ่อเกษม : ปฏิบัติอย่างนั้นก็ได้ โดยอาศัยหลัก ๓ อย่าง คือ มีศีลบริสุทธิ์ ทำบุญในชาติปางก่อนไว้มาก มีบาปน้อย ขอถวายพระพร

เจ้าคุณพระอิทรวิชยาจารย์ : ได้ตามขั้นของสมาธิ คือ อุปจารสมาธิ ได้สมาธิเป็นแต่เฉียดๆ ขณิกสมาธิ ได้สมาธิเป็นขณะๆ เรียกว่า "อัปปนาสมาธิ" ได้สมาธิแน่วแน่วแน่ดิ่งลงไปได้นานๆ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : ครับ ที่หลวงพ่อว่ามีศีลบริสุทธิ์ ชาติก่อนทำบุญไว้มาก อยากทราบว่าผมเกิดเป็นอะไร ได้ทำอะไรบ้าง จึงได้มาเป็นอย่างนี้ ?

หลวงพ่อเกษม : (หลวงพ่อยิ้มและนิ่ง แล้วหันมาทางพระครูปลัดจันทร์ กตปุญโญ...ซึ่งเป็นผู้จดบันทึก... แล้วจึงค่อยตอบว่า) ตอบยาก !

พระครูปลัดจันทร์ : ขอถวายพระพร หลวงพ่อไม่อาจจะพยากรณ์ถวายมหาบพิตรได้

เจ้าคุณพระอินทรวิชยาจารย์ : พลวงพ่ออาจจะเกรงพระราชหฤทัยมหาบพิตรก็ได้ ขอถวายพระพร

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : หลวงพ่อไม่ต้องเกรงใจว่าเป็นพระราชา ขอให้ถือว่า สนทนาธรรมก็แล้วกัน ยินดีรับฟัง มีคนพูดกันว่า ชาติก่อนผมเกิดเป็นนักรบมีบริวารมาก ถ้าเป็นอย่างนั้น ศีล ๕ จะบริสุทธิ์ได้อย่างไร การเป็นนักรบนั้นจะต้องได้ฆ่าคน สงสัยอยู่ ?

หลวงพ่อเกษม : (หันมากระซิบกับพระครูปลัดจันทร์ว่า) เอ..ใครทำนายถวายท่านอย่างนั้นก็ไม่รู้ เราไม่รู้ เราไม่มีอตีตังสญาณ อนาคตังสญาณ (ญาณหยั่งรู้อดีต และญาณหยั่งรู้อนาคต) ตอบยาก...ต้องหลวงพ่อเมืองซิ

พระครูปลัดจันทร์ : ขอถวายพระพร หลวงพ่อยืนยันว่า มหาบพิตรมีศีลบริสุทธิ์และทรงมีบุญมาก

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : เรื่องบุญกับกุศลนี้ก็อีกเรื่องหนึ่ง ตามที่รู้ ผู้ทำบุญหรือผู้มีบุญ ได้ผลแค่เทวดาอยู่สวรรค์ ผู้มีกุศลหรือทำกุศลมีผลให้ได้นิพพาน ถ้าอย่างนั้นที่ว่าพระราชามีบุญมาก ก็คงได้แค่เป็นเทวดาอยู่บนสวรรค์เท่านั้น ไม่ได้นิพพาน ทำไมเราไม่พูดถึงกุศลกันมากๆ บ้าง หลวงพ่อสอนให้คนปฏิบัติธรรมตามแนวปฏิบัติของหลวงพ่อบ้างหรือเปล่า ?

หลวงพ่อเกษม : ขอถวายพระพร อาตมาภาพได้ทราบว่าที่วัดปากน้ำ วัดมหาธาตุ ก็มีสอนวิปัสสนากัมมัฏฐาน มหาบพิตรเคยเสด็จไปบ้างไหม ?

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : ทราบ แต่ไม่เคยไป หลวงพ่อสอนอย่างไร อยากฟังบ้าง และอยากได้เป็นแนวปฏิบัติ เอาอย่างนี้ดีไหม มีเครื่องหรือเปล่า ?

พระครูปลัดจันทร์ : ขอถวายพระพร เครื่องเทปของวัดมี

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : ขอให้หลวงพ่อสอนตามแนวของหลวงพ่อที่เคยสอน จะสอนอะไรก็ได้

หลวงพ่อเกษม : ขอถวายพระพร มีเป็นพระเภทภาษิตคติธรรมต่างๆ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ห้ว : อะไรก็ได้ ขอให้เป็นคำสอนก็ใช้ได้

หลวงพ่อเกษม : ได้ ขอถวายพระพร

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : ขอนมัสการลา