- 30 ส.ค. 2559
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม http://headshot.tnews.co.th
วันที่ 30 สิงหาคม นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ในประเด็นตอบหัวหน้า คสช. เรื่องไม่ลงรับสมัคร สส.เป็นจุดยืนที่ประกาศว่า รธน.ผ่าน จะไม่สมัคร สส. ขอเป็นเพียงประชาชนเท่านั้นแต่คนที่ต้องการเป็นนายก ต้องลงสมัคร สส. เพื่อความสง่างาม
โดยระบุว่า การตัดสินใจไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งที่จะมีขึ้นประมาณปลายปี 2560 เพราะยึดมั่นกับคำพูดที่ประกาศไว้ว่า ถ้ารัฐธรรมนูญผ่านประชามติจะไม่ลงเลือกตั้ง ดังนั้น จึงเป็นประชาชนคนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งไม่เกี่ยวกับมีคุณสมบัติเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งครบถ้วนหรือจะได้รับเลือกตั้งหรือไม่
ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หากต้องการเป็นนายกรัฐมนตรีต่อเนื่องแล้ว ต้องลงสมัครรับเลือกตั้งจากประชาชนจึงจะสง่างาม และไม่เป็นผู้นำไทยที่มีปมด้อยในเวทีนานาชาติ อีกทั้งไม่ควรกลัวประชาชน ต้องเข้าหาประชาชนความสง่างาม ต้องมาจากประชาชนเลือก
“ผมไม่ลงเลือกตั้ง ไม่เกี่ยวกับชื่อเสียง เงินทอง ชีวิตต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยข้างถนนต้องการให้ประเทศเป็นประชาธิปไตย จึงไม่ต้องการอยู่ในการเมืองเพื่อตำแหน่งหน้าที่ และเป็นการให้คำมั่นสัญญาไว้แล้วจึงต้องรักษาคำพูดที่เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่มีอยู่ แต่ผมก็มีความสุขที่ได้พูดกับประชาชนในเรื่องประชาธิปไตย ซึ่งแตกต่างจาก พล.อ.ประยุทธ์”
จตุพรกล่าวต่อว่า
ตนกับพล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีอะไรเป็นปัญหาส่วนตัว ชีวิตของตนไม่ต้องการมีตำแหน่งหน้าที่อะไรมากกว่าความเป็นประชาชน ส่วนนายกรัฐมนตรีไม่ให้ใครมาวิ่งเต้นเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นั้น ในยุคนี้ยังมีใครกล้าวิ่งเต้นอีกหรือ ขออย่าพูดเพียงให้ดูดี ต้องใช้อำนาจตาม ม. 44 จัดการเลย
พล.อ.ประยุทธ์ พูดถึงเงินเดือนนายกรัฐมนตรีน้อย แต่ทำงานหนักนั้น ไม่น่าเชื่อเลยว่า จะมาพูดเรื่องนี้ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต้องเป็นคนเสียสละ ควรคิดเรื่องเงินเป็นเรื่องเล็ก และต้องรู้ก่อนว่า ตำแหน่งทางการเมืองเป็นงานอาสา ไม่ใช่มาคิดเรื่องเงินเดือนเป็นปัญหา เงินจากการขายที่ดินก็มาก ไม่น่ามาบ่นเรื่องเงินเดือนน้อยเลย ซึ่งน่าจะสละเงินเดือนเสียมากกว่า
นายจตุพร กล่าวว่า ในเวลา 10 ปีกว่าที่ผ่านมา มีความขัดแย้งและสับสนมากมายในสังคม และในช่วงการบริหารประเทศเพียง 2 ปีของรัฐบาล คสช. ประชาชนยังเห็นภาพไม่ครบ จึงต้องรอเวลาให้คนเห็นภาพให้ครบเป็นมิติเดียวกัน ส่วนการแสดงอาการจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนนอกเพื่อสืบทอดอำนาจหรือไม่นั้น ถ้าเชื่อมั่นว่า มี 16 ล้านเสียงแล้ว ต้องลงเลือกตั้ง ต้องกล้าเชื่อมั่นประชาชน เพราะมีโอกาสได้รับเลือกตั้งมาเป็นพรรคการเมืองอันดับหนึ่งอยู่แล้ว
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้เปรียบพรรคการเมืองและคนอื่นๆ มากมาย จึงไม่ควรกลัวการเลือกตั้งของประชาชน อีกทั้ง บรรยากาศการเมืองขณะนี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เริ่มเล่นงานอดีต ส.ส.เพื่อไทย อย่างเร่งรีบในกรณีเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หรือที่เรียกว่า กฎหมายสุดซอย ซึ่งเป็นการทำหน้าที่ตามกระบวนการของกฎหมาย เมื่อประชาชนไม่สนับสนุนจึงล้มเลิกการกระทำไป แต่ ป.ป.ช.ยังนำมาเป็นความผิด โดยประเมินแล้วคงรอดจากถูก ป.ป.ช. เล่นงานยาก ดังนั้น โอกาสถูกตัดสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งอาจตามมาอีก