“คนไทยไม่กลัวมวยล้ม แต่กลัวชกไม่สมศักดิ์ศรี”  !!!   “อภิรดี ”  ต้องตอบให้ชัด  กรณีเรียกชดใช้ค่าเสียหายจีทูจี กับบุญทรง-พวกจะเริ่มเมื่อใด?

ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

       ถืงแม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.   จะยืนยันหลักการปฏิบัติเพื่อเรียกคืนเม็ดเงินความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโครงการรับจำนำข้าว    โดยการยืนยันจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด และมีข้อสรุปก่อนหมดอายุความ  แต่ก็มีคำถามว่าที่สุดแล้วการใช้คำสั่งทางปกครองซึ่งมีการพูดถึงมานานหลายเดือนก่อนหน้านี้จะเริ่มต้นได้เมื่อใด 

 

      “ต้องสรุปให้ทันก่อนหมดอายุความ ตนจะปล่อยให้หมดอายุความได้อย่างไร ตนรับผิดชอบเฉพาะเรื่องทางละเมิด ส่วนคดีแพ่ง คดีอาญาเป็นส่วนของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทั้งนี้คดีมี 3 เรื่องและมีหลายกลุ่ม ทั้งจีทูจีอีก อย่านำมาพันกัน รับรองตนจะทำให้ดีที่สุด ไม่อย่างนั้นจะเข้ามาทำไม เข้ามาให้เกิดความเป็นธรรมทั้งผู้ถูกดำเนินคดี รัฐ และประเทศ ตนต้องทำตัวแบบนั้น ไม่ใช่ศัตรู”  พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา  ( 30 ส.ค. 2559) 

 

       อย่างไรก็ตามกับกรณีนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่า   พล.อ.ประยุทธ์ได้เคยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลายครั้ง    โดยเฉพาะการยืนยันด้วยตัวเองว่า   กระบวนการทางกฎหมายเพื่อเรียกชดใช้ความเสียหายอันเนื่องมาจากโครงการรับจำนำข้าวเป็นที่ยุติแล้ว   จากกระบวนการที่จะเกิดขึ้นโดยการลงนามของรมว.พาณิชย์    และยืนยันว่างานนี้จะไม่มีมวยล้มแน่นอน .. จนที่สุดประเด็นดังกล่าวได้กลายเป็นความคาดหวังของคนไทย ที่อยากเห็นรัฐบาลและคสช.ทำเรื่องนี้ให้เป็นผลรูปธรรมโดยเร็ว  ???

 

       แต่จนแล้วจนรอดอย่างที่ทราบกันคือความคืบหน้าล่าสุด   คำสั่งดังกล่าวยังไม่มีการลงนามจาก  นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์    (มิน่าถึงอืดอาดพิกล !!! ก.พาณิชย์มึนทำหน้าที่ใครยึด-อายัดทรัพย์ "บุญทรง-พวก" ค่าเสียหายคดีข้าว คงไม่พ้น "บิ๊กตู่" ตัดสินใจเคาะสุดท้าย??  http://deeps.tnews.co.th/contents/202322/

      ขณะที่เมื่อสืบค้นกับข้อมูลเดิมพบว่าเมื่อวันที่    27 ก.ค.    นางอภิรดี ตันตราภรณ์    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  ได้เคยให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนในลักษณะแบ่งรับแบ่งสู้การดำเนินการให้เป็นไปคาดหวังของสังคมจะแล้วเสร็จโดยเร็ว     นี่จึงเป็นที่มาของข้อคำถามมาตามมามากมาย    ว่าจนถึงขณะนี้องค์ประกอบปัญหาใดกันแน่     จึงทำให้กระบวนการใช้คำสั่งทางปกครองฯเฉพาะกับกลุ่มของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์  และพวก  มูลค่าประมาณ  2  หมื่นล้านบาท   จึงยังไม่เริ่มต้นขึ้น ??

 

"หมอวรงค์"งง !!!"อภิรดี"ยังไม่"ลงนาม"ทวงเงินจำนำข้าว ข้องใจ !! ปมลดค่าเสียหายให้"ยิ่งลักษณ์"อื้อ  http://deeps.tnews.co.th/contents/202262/

 

      “ภายหลังจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ส่งหนังสือมอบอำนาจให้กระทรวงพาณิชย์ ดำเนินการเรียกค่าเสียหายการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ปริมาณ 6.2 ล้านตัน มูลค่า 20,000 ล้านบาท จากข้าราชการและนักการเมือง 6 คน   ขณะนี้กระทรวงฯ ได้รับหนังสือจากนายกรัฐมนตรีแล้ว   และ  กระทรวงฯกำลังเตรียมศึกษารายละเอียดก่อนดำเนินการขั้นต่อไป      โดยเบื้องต้นต้องหารือหน่วยงานด้านกฎหมาย   เช่น   กรมบังคับคดี ในประเด็นว่า    สามารถยึดทรัพย์ได้ทันทีหรือไม่   หรือ  ต้องมีกระบวนการอื่นจากนี้   เพราะผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 6 คนมีสิทธิ์อุทธรณ์ได้  ทำให้ต้องศึกษาขั้นตอนอย่างรอบคอบและชัดเจน”  (อภิรดี ตันตราภรณ์  27  ก.ค. 2559  )

 

      ประเด็นที่ต้องพิจารณาต่อไปว่า  นับจากวันแรกที่รัฐบาลมีนโยบายจะดำเนินการกับบุคคล กลุ่มบุคคล  ที่ทำให้งบประมาณประเทศชาติเสียหาย  จากโครงการรับจำนำข้าว  ในส่วนของการระบายข้าวจีทูจี   และกรณีของน.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร    กระทรวงพาณิชย์และอาจหมายรวมถึงกระทรวงที่เกี่ยวข้อง    ได้มีการตระเตรียมการศึกษาในเรื่องนี้หรือไม่  อย่างไร  ทั้ง ๆ ที่พล.อ.ประยุทธ์  เคยพูดในหลายวาระโอกาสว่า  มีความจำเป็นต้องดำเนินการ เพราะโครงการรับจำนำข้าวได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างชัดเจน  !!!

     สอดคล้องกับรายงานข่าว  กรมการค้าต่างประเทศ    กระทรวงพาณิชย์     ให้ข้อมูลในช่วงปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา  ว่า  “   ได้รับหนังสือ  (มอบอำนาจให้กระทรวงพาณิชย์ ดำเนินการเรียกค่าเสียหายการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ)   ดังกล่าวแล้ว   อยู่ระหว่างให้ผู้เกี่ยวข้องพิจารณารายละเอียด  แต่เนื่องจากไม่มีกรณีตัวอย่างในลักษณะนี้     จึงไม่สามารถนำมาใช้อ้างอิง และดำเนินการได้ทันที   เบื้องต้นจะใช้กรณีการทุจริตคลองด่านมาเป็นตัวอย่างดำเนินการ   คาดว่าจะดำเนินการได้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ หรือ  สัปดาห์หน้า    และ  จะสามารถส่งเรื่องกลับไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์   ให้ลงนามตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีต่อไป  ” 

 

      หมายความว่าอย่างไร  ??  หมายความว่ากระบวนการทั้งหมดขณะนี้ติดขัดอยู่ที่ผู้บริหารสูงสุดของกระทรวงพาณิชย์ใช่หรือไม่     และถ้าย้อนกลับไปพิจารณาแต่ละประโยคข้อความที่ นางอภิรดี   รมว.พาณิชย์  หรือ  สถานะในอดีตเป็นข้าราชการประจำระดับ  รองปลัดก.พาณิชย์     อธิบายก็อาจแปลความว่า  แท้จริงแล้วกระทรวงพาณิชย์  ไม่ได้มีการตระเตรียมขั้นตอนใด ๆ ไว้รองรับหรือไม่  อย่างไร   จึงต้องย้อนกลับมาอ้างถึงความจำเป็นในการใช้เวลาเพื่อพิจารณาข้อกฎหมายและวิธีการปฏิบัติให้เกิดความรัดกุม     ในขณะที่คดีนี้จะหมดอายุความในเดือน ก.พ. 2560   และนักการเมืองรวมถึงอดีตข้าราชการ    ยังสามารถยื่นอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลได้ภายใน 90   วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ   หรือเท่ากับว่า   ถ้าหนังสือถึงมือนักการเมืองและอดีตข้าราชการช้ามากเท่าไร    ก็จะยิ่งฉิวเฉียดกับเส้นตายของคดีที่จะหมดอายุความในต้นปี  2560  แม้ว่านางอภิรดีและรวมถึงพล.อ.ประยุทธ์   จะยืนยันว่ากระบวนทั้งหมดจะเสร็จทันก่อนหมดอายุความอย่างแน่นอนก็ตาม  !!!