- 01 ก.ย. 2559
ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th
ถืงแม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. จะยืนยันหลักการปฏิบัติเพื่อเรียกคืนเม็ดเงินความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโครงการรับจำนำข้าว โดยการยืนยันจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด และมีข้อสรุปก่อนหมดอายุความ แต่ก็มีคำถามว่าที่สุดแล้วการใช้คำสั่งทางปกครองซึ่งมีการพูดถึงมานานหลายเดือนก่อนหน้านี้จะเริ่มต้นได้เมื่อใด
“ต้องสรุปให้ทันก่อนหมดอายุความ ตนจะปล่อยให้หมดอายุความได้อย่างไร ตนรับผิดชอบเฉพาะเรื่องทางละเมิด ส่วนคดีแพ่ง คดีอาญาเป็นส่วนของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทั้งนี้คดีมี 3 เรื่องและมีหลายกลุ่ม ทั้งจีทูจีอีก อย่านำมาพันกัน รับรองตนจะทำให้ดีที่สุด ไม่อย่างนั้นจะเข้ามาทำไม เข้ามาให้เกิดความเป็นธรรมทั้งผู้ถูกดำเนินคดี รัฐ และประเทศ ตนต้องทำตัวแบบนั้น ไม่ใช่ศัตรู” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ( 30 ส.ค. 2559)
อย่างไรก็ตามกับกรณีนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้เคยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลายครั้ง โดยเฉพาะการยืนยันด้วยตัวเองว่า กระบวนการทางกฎหมายเพื่อเรียกชดใช้ความเสียหายอันเนื่องมาจากโครงการรับจำนำข้าวเป็นที่ยุติแล้ว จากกระบวนการที่จะเกิดขึ้นโดยการลงนามของรมว.พาณิชย์ และยืนยันว่างานนี้จะไม่มีมวยล้มแน่นอน .. จนที่สุดประเด็นดังกล่าวได้กลายเป็นความคาดหวังของคนไทย ที่อยากเห็นรัฐบาลและคสช.ทำเรื่องนี้ให้เป็นผลรูปธรรมโดยเร็ว ???
แต่จนแล้วจนรอดอย่างที่ทราบกันคือความคืบหน้าล่าสุด คำสั่งดังกล่าวยังไม่มีการลงนามจาก นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (มิน่าถึงอืดอาดพิกล !!! ก.พาณิชย์มึนทำหน้าที่ใครยึด-อายัดทรัพย์ "บุญทรง-พวก" ค่าเสียหายคดีข้าว คงไม่พ้น "บิ๊กตู่" ตัดสินใจเคาะสุดท้าย?? http://deeps.tnews.co.th/contents/202322/ )
ขณะที่เมื่อสืบค้นกับข้อมูลเดิมพบว่าเมื่อวันที่ 27 ก.ค. นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เคยให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนในลักษณะแบ่งรับแบ่งสู้การดำเนินการให้เป็นไปคาดหวังของสังคมจะแล้วเสร็จโดยเร็ว นี่จึงเป็นที่มาของข้อคำถามมาตามมามากมาย ว่าจนถึงขณะนี้องค์ประกอบปัญหาใดกันแน่ จึงทำให้กระบวนการใช้คำสั่งทางปกครองฯเฉพาะกับกลุ่มของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ และพวก มูลค่าประมาณ 2 หมื่นล้านบาท จึงยังไม่เริ่มต้นขึ้น ??
( "หมอวรงค์"งง !!!"อภิรดี"ยังไม่"ลงนาม"ทวงเงินจำนำข้าว ข้องใจ !! ปมลดค่าเสียหายให้"ยิ่งลักษณ์"อื้อ http://deeps.tnews.co.th/contents/202262/ )
“ภายหลังจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ส่งหนังสือมอบอำนาจให้กระทรวงพาณิชย์ ดำเนินการเรียกค่าเสียหายการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ปริมาณ 6.2 ล้านตัน มูลค่า 20,000 ล้านบาท จากข้าราชการและนักการเมือง 6 คน ขณะนี้กระทรวงฯ ได้รับหนังสือจากนายกรัฐมนตรีแล้ว และ กระทรวงฯกำลังเตรียมศึกษารายละเอียดก่อนดำเนินการขั้นต่อไป โดยเบื้องต้นต้องหารือหน่วยงานด้านกฎหมาย เช่น กรมบังคับคดี ในประเด็นว่า สามารถยึดทรัพย์ได้ทันทีหรือไม่ หรือ ต้องมีกระบวนการอื่นจากนี้ เพราะผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 6 คนมีสิทธิ์อุทธรณ์ได้ ทำให้ต้องศึกษาขั้นตอนอย่างรอบคอบและชัดเจน” (อภิรดี ตันตราภรณ์ 27 ก.ค. 2559 )
ประเด็นที่ต้องพิจารณาต่อไปว่า นับจากวันแรกที่รัฐบาลมีนโยบายจะดำเนินการกับบุคคล กลุ่มบุคคล ที่ทำให้งบประมาณประเทศชาติเสียหาย จากโครงการรับจำนำข้าว ในส่วนของการระบายข้าวจีทูจี และกรณีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กระทรวงพาณิชย์และอาจหมายรวมถึงกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ได้มีการตระเตรียมการศึกษาในเรื่องนี้หรือไม่ อย่างไร ทั้ง ๆ ที่พล.อ.ประยุทธ์ เคยพูดในหลายวาระโอกาสว่า มีความจำเป็นต้องดำเนินการ เพราะโครงการรับจำนำข้าวได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างชัดเจน !!!
สอดคล้องกับรายงานข่าว กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ให้ข้อมูลในช่วงปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า “ ได้รับหนังสือ (มอบอำนาจให้กระทรวงพาณิชย์ ดำเนินการเรียกค่าเสียหายการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ) ดังกล่าวแล้ว อยู่ระหว่างให้ผู้เกี่ยวข้องพิจารณารายละเอียด แต่เนื่องจากไม่มีกรณีตัวอย่างในลักษณะนี้ จึงไม่สามารถนำมาใช้อ้างอิง และดำเนินการได้ทันที เบื้องต้นจะใช้กรณีการทุจริตคลองด่านมาเป็นตัวอย่างดำเนินการ คาดว่าจะดำเนินการได้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ หรือ สัปดาห์หน้า และ จะสามารถส่งเรื่องกลับไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้ลงนามตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีต่อไป ”
หมายความว่าอย่างไร ?? หมายความว่ากระบวนการทั้งหมดขณะนี้ติดขัดอยู่ที่ผู้บริหารสูงสุดของกระทรวงพาณิชย์ใช่หรือไม่ และถ้าย้อนกลับไปพิจารณาแต่ละประโยคข้อความที่ นางอภิรดี รมว.พาณิชย์ หรือ สถานะในอดีตเป็นข้าราชการประจำระดับ รองปลัดก.พาณิชย์ อธิบายก็อาจแปลความว่า แท้จริงแล้วกระทรวงพาณิชย์ ไม่ได้มีการตระเตรียมขั้นตอนใด ๆ ไว้รองรับหรือไม่ อย่างไร จึงต้องย้อนกลับมาอ้างถึงความจำเป็นในการใช้เวลาเพื่อพิจารณาข้อกฎหมายและวิธีการปฏิบัติให้เกิดความรัดกุม ในขณะที่คดีนี้จะหมดอายุความในเดือน ก.พ. 2560 และนักการเมืองรวมถึงอดีตข้าราชการ ยังสามารถยื่นอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลได้ภายใน 90 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ หรือเท่ากับว่า ถ้าหนังสือถึงมือนักการเมืองและอดีตข้าราชการช้ามากเท่าไร ก็จะยิ่งฉิวเฉียดกับเส้นตายของคดีที่จะหมดอายุความในต้นปี 2560 แม้ว่านางอภิรดีและรวมถึงพล.อ.ประยุทธ์ จะยืนยันว่ากระบวนทั้งหมดจะเสร็จทันก่อนหมดอายุความอย่างแน่นอนก็ตาม !!!