"พุทธะอิสระ" ฟ้องแพ่งอาญา "ทนายประสิทธิ์ ศิษย์ธรรมกาย" ข้อหาหมิ่นประมาท

"พุทธะอิสระ" ฟ้องแพ่งอาญา "ทนายประสิทธิ์ ศิษย์ธรรมกาย" ข้อหาหมิ่นประมาท

ต้อนรับคุณผู้ชมกลับมาในช่วงนี้มาติดตามอีกหนึ่งประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นในวันนี้ เป็นประเด็นที่มีการฟ้องร้องทั้งทางแพ่งและทางอาญา โดยพระพุทธะอิสระ แห่งวัดอ้อน้อย เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายประสิทธิ์ สันจิตร ทนายความประธานเครือข่ายองค์กรพิทักษ์พุทธ

ซึ่งในวันนี้ศาลจังหวัดนครปฐม จึงได้นัดคู่ความทั้งสองมาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทที่เกิดขึ้น แต่ท้ายที่สุดก็ไร้แววทนายประสิทธิ์ ส่งผลทำการไกล่เกลี่ยเป็นโมฆะ ด้านพระพุทธอิสระจึงเดินหน้าเตรียมฟ้องร้องเอาผิดนายประสิทธิ์จนถึงที่สุด
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2559 ที่ผ่านมา ในช่วงเวลา 15.30 น. ที่วัดอ้อน้อย (ธรรมอิสระ) ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม นายประสิทธิ์ สันจิตร ทนายความในฐานะ “ประธานเครือข่ายพิทักษ์พุทธ” พร้อมผู้ติดตามที่เดินทางมาด้วยรถตู้โดยสาร จำนวน 6 คัน ได้เดินทางมาเพื่อขอยื่นหนังสือต่อพระอธิการศิริชัย สิริโสภโณ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย ให้สอบสวนพระวินัยตามกฎนิคหกรรม ด้วยข้อหา “ต้องปาราชิก สิกขา บทที่ 2 หรือไม่” ต่อพระสุวิทย์ ธีรธัมโม หรือหลวงปู่พุทธะอิสระ
โดยมี พ.ต.อ.ศุภเกียรติ เทิดตระกูล ผกก.สภ.กำแพงแสน ชุดสืบสวน สภ.กำแพงแสน ชุด นปพ.ภ.จว.นครปฐม สืบสวน ภ.จว.นครปฐม กำลังเจ้าหน้าที่ทหารจาก พล.ร.9 จังหวัดกาญจนบุรี ทั้งใน และนอกเครื่องแบบกว่า 100 นาย คอยควบคุมความเรียบร้อย เนื่องจากมีลูกศิษย์ของหลวงปู่พุทธะอิสระ ประมาณ 50 คน มาคอยดูสถานการณ์อยู่ที่บริเวณหน้าวัด

ซึ่งนายประสิทธิ์ สันจิตร ทนายความได้ขออนุญาตนำตัวแทน 5 คน เพื่อเข้าพบกับพระอธิการศิริชัย สิริโสภโณ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย ภายในลานโพธิ์ที่อยู่ภายในวัดอ้อน้อย แต่ปรากกฏว่าติดภารกิจกรรมฐาน
ขณะเดียวกันนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ไวยวัจกรวัดอ้อน้อย มารอรับหนังสือดังกล่าวแทน แต่ขณะเดียวกัน หลวงปู่พุทธะอิสระ ได้ออกมาพบกับ นายประสิทธิ์ ด้วยตัวเองโดยมีการนั่งสอบถามถึงการมายื่นหนังสือ และมีการถกเถียงกันถึงเรื่องของการมาแจ้งเรื่องดังกล่าว โดยมีนายมหัศจักร โสดี ทนายความของหลวงปู่พุทธะอิสระ เข้ารับฟังการเข้ามายื่นเรื่องให้มีการตรวจสอบดังกล่าว ซึ่งมีการเจรจากันนานกว่า 30 นาที
ด้านนายประสิทธิ์ ได้แจ้งว่า กรณีที่มาร้องเรียนจากการที่ศาลแพ่งมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 59 ที่ DSI เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง “หลวงปู่พุทธะอิสระ และพวกแกนนำ กปปส.เรื่องละเมิด เรียกค่าเสียหาย 2,663,409 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จากกรณีระหว่างเดือน พ.ย.56 ถึง ม.ค.57

หรือการโกงเงินหุ้นของประชาชาชนมหาศาล หรือการที่แอบอ้างอวดอุตริ เรื่องสตีฟ จอบส์ ซึ่งตอนนี้ นายประสิทธิ์ ได้แจ้งไปทั่วว่าอาตมา ปาราชิก ซึ่งก็เป็นการละเมิดเช่นกัน การสอบถามเรื่องนี้เพราะต้องการจะแจ้งความเอาความผิดต่อ นายประสิทธิ์ เช่นกัน
ส่วนเรื่องที่มาเอาความในสิขาบทข้อที่ 2 ในข้อหาลักทรัพย์นั้น ศาลได้ลงความเห็นว่าเกิดความเสียหายเกี่ยวกับความเสียหายที่การชุมนุมย่อมมีความเสียหาย เช่น หญ้าตาย ต้องมีการนำข้าวกล่องมาแจกเจ้าหน้าที่ระยะ 4 เดือนกว่า ซึ่งประสงค์ไม่ได้เอาสนามหญ้ามาเป็นของอาตมา หรือเอาข้าวกล่องมาเป็นของอาตมา


ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วพบว่า นายประสิทธิ์ เป็นเครือข่ายของวัดพระธรรมกาย เนื่องจากตรวจสอบชื่อแล้วพบว่า มีทั้งชื่อ และภาพปรากฏเป็นกรรมการกองทุนกัลป์ญาณมิตรของธรรมกาย โดยเตรียมให้ทนายความฟ้องร้องเอาความผิดฐานละเมิดและหมิ่นประมาทเช่นกัน
ต่อมา นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ไวยวัจกรวัดอ้อน้อย ได้แจ้งว่า นายประสิทธิ์ ไม่ได้แจ้งเรื่องไว้ก่อน เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย ก็กำลังเข้ากรรมฐานจะเสร็จสิ้นประมาณ 20.00 น. หากจะรอก็สามารถรถพบได้  ซึ่งนายประสิทธิ์ ได้แจ้งว่าจะนำหนังสือมาส่งอีกครั้งในวันถัดไปโดยจะแจ้งวันเวลาอีกครั้ง และกลับไปพร้อมคณะที่มาด้วย และสื่อมวลชนที่มาพร้อมกับออกไปในเวลา 16.50 น. ของวันดังกล่าวด้วยความสงบ
และคุณผู้ชมค่ะ....เรื่องราวข้อพิพาทยังไม่จบเพียงเท่านั้น ต่อมาในในวันที่ 4 ก.ค. 2559 ที่ผ่านมา พระสุวิทย์ ธีรธัมโม (หลวงปู่พุทธะอิสระ) วัดอ้อยน้อย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ได้เดินทางพร้อมด้วยนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ไวยวัจกรวัดอ้อน้อย  และนายมหัศจักร โสดี ทนายความ เพื่อนำหนังสือมายื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดนครปฐม ต่อนายประสิทธิ สันจิตร ทนายความประธานเครือข่ายพิทักษ์พุทธ
โดยในวันที่ 4 ก.ค. 2559 ที่ผ่านมา ในช่วงเวลา 14.00 น. ที่ศาลจังหวัดนครปฐม พระสุวิทย์ ธีรธัมโม (หลวงปู่พุทธะอิสระ) วัดอ้อยน้อย อ.กำแพงแสน เดินทางพร้อมด้วยนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ไวยวัจกรวัดอ้อน้อย และนายมหัศจักร โสดี ทนายความ เพื่อนำหนังสือมายื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดนครปฐม ต่อนายประสิทธิ สันจิตร ทนายความประธานเครือข่ายพิทักษ์พุทธ

โดยมีลูกศิษย์ และกองเชียร์กว่า 20 คน ได้เดินทางเข้ามารอให้กำลังใจอยู่ในบริเวณดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้มีการจัดกำลังในการอำนวยความสะดวกจราจร และรักษาความสงบเรียบร้อย โดยมีเจ้าหน้าที่ทั้งใน และนอกเครื่องแบบหลายสิบนายรอบสถานที่

 

ร่วมกันบุกเข้าไปในอาคาร DSI ถนนแจ้งวัฒนะ และทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน ทำให้คอมพิวเตอร์อินเตอร์เน็ต ทำงานได้ เมื่อศาลพิพากษาได้พิเคราะห์เห็นพฤติกรรมของจำเลย จึงมีคำพิพากษาของศาลแพ่งให้จำเลยที่ 1 คือ หลวงปู่พุทธะอิสระ ร่วมกับจำเลยที่ 2 คือพล.ต.สมเกียรติ วัฒนวิกย์กิจ ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย จำนวนเงิน 899,203 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 นับจากวัดถัดฟ้องคือ วันที่ 19 พ.ย.57
และให้จำเลยร่วมกันจ่ายค่าฤชาธรรมเนียมศาล และค่าทนายความแก้โจทก์ อีกจำนวน 10,000 บาท จึงมีคำถามว่า 3 ประเด็นในการปิดล้อมศูนย์ราชการดังกล่าว ขอให้เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย ในฐานะที่เป็นผู้ปกครอง หลวงปู่พุทธะอิสระ ได้ดำเนินการทางพระธรรมวินัยตามกฎนิคหกรรมด้วยข้อกล่าวหาว่า ต้องอาบัติปาราชิก สิกขาบทที่ 2 ว่าพ้นจากความเป็นพระในพระพุทธศาสนาหรือไม่ เพื่อยังความศรัทธาของพุทธบริษัทให้มั่งคงต่อไป”

ทางหลวงปู่พุทธะอิสระ ได้สอบถามกลับไปว่า ทราบเรื่องแล้วว่านายประสิทธิ์ จะได้มาแจ้งเรื่องดังกล่าว และมีข้อสงสัยว่าทำไม่เมื่อเป็นชาวพุทธจึงไม่ดำเนินการต่ออลัชชี ที่วัดธรรมกายที่อวดอ้าวอุตริธรรม และแอบอ้างพระพุทธเจ้าต่างๆ นานา

เมื่อมาถึงหลวงปู่พุทธะอิสระ ได้นำซองเอกสารโดยที่ด้านหน้าซองได้เขียน กราบนมัสการเรียนหลวงปู่ด้วยความเคารพ สำเนาคำฟ้องดำเนินคดี นายประสิทธิ์ สันจิตร์ ข้อหาบังอาจก่อความเดือดร้อนรำคาญให้ได้รับความอับอายต่อธารกำนันในสาธารณสถาน, ดูหมิ่น, หมิ่นประมาท, หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328, 393, 397 และ 91 ให้สื่อมวลชนที่ได้ติดตามเข้ามาทำข่าว โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะเข้าไปยื่นต่อศาลจังหวัดนครปฐม
หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวว่าสำหรับการเดินทางมาในวันนี้ได้เดินทางมาฟ้องร้องต่อ นายประสิทธิ์ สันจิตร์ ลูกศิษย์วัดธรรมกาย ตามข้อหาต่างๆ ถือว่ามีการไปกล่าวให้ร้ายได้โดยไม่เป็นความจริง และนายประสิทธิ์ ได้มีพฤติกรรมหลอกลวงสงฆ์ที่ได้แจ้งมาว่าจะเข้าไปที่วัดอ้อน้อย

เพื่อจะไปยื่นหนังสือต่อพระสังฆาธิการ ว่าจะมาในวันนี้ว่าจะมาก็ไม่มา เมื่อมีคนโทร.ไปหาก็กลับอ้างว่ากลัวไม่ปลอดภัย และไม่มาอีก ซึ่งรวมๆก็มาแสดงความวุ่นวาย และนำความที่ไม่จริงมาแสดงแจ้งต่อเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย วันนี้ก็เลยมาจัดให้เขาซะหน่อย ฐานเป็นทนายปากพร่อย นิสัยไม่ดี เอาวิชาความรู้มาใช้กลั่นแกล้งรังแกคนอื่น
ขณะเดียวกันในวันนี้ศาลจังหวัดนครปฐม ได้มีการนัดไกล่เกลี่ยคดีที่หลวงปู่พุทธะอิสระฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายประสิทธิ์ สันจิตร ฐานหมิ่นประมาท กรณีที่นายประสิทธิ์ฯ กล่าวหาว่าหลวงปู่พุทธะอิสระต้องอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระ แต่ท้ายที่สุดการไกล่เกลี่ยถือว่าเป็นอันยุติไป เนื่องจากนายประสิทธิ์ ไม่ได้เดินทางมาตามนัดหมาย
โดยในวันนี้ (5 กันยายน 2559) เมื่อช่วงเวลา 09:00 น. ศาลจังหวัดนครปฐมนัดไกล่เกลี่ย ในคดีที่หลวงปู่พุทธะอิสระฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายประสิทธิ์ สันจิตร ฐานหมิ่นประมาท กรณีที่นายประสิทธิ์ฯ กล่าวหาว่าหลวงปู่พุทธะอิสระต้องอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระ  เนื่องจากต้องคำพิพากษาให้รับผิดชดใช้ค่าอาหาร ค่าข้าวกล่อง ค่าต้นไม้ต้นหญ้า ค่าบริการระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ อย่างไรก็ตามบรรยากาศที่ศาลจังหวัดนครปฐม ยังคงมีศิษยานุศิษย์และประชาชนมารอให้กำลังใจหลวงปู่พุทธะอิสระจำนวนหนึ่ง
จนกระทั้งเวลา 09:30 น. หลวงปู่พุทธะอิสระและทนายความส่วนตัวได้เดินทางมาถึงยังศาลจังหวัดนครปฐม โดยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเพียงสั้นๆว่า
“คงต้องรอดูว่าศาลจะไกล่เกลี่ยอย่างไร แต่ในส่วนตัวหลวงปู่นั้น ได้ฟ้องทั้งแพ่งและอาญาต่อทนายประสิทธิ์ สันจิตร”

และหลังจากที่หลวงปู่พุทธะอิสระเดินทางเข้าไปยังห้องไกล่เกลี่ยคดีนั้น ซึ่งใช้เวลาเพียง 20 นาที จึงได้เดินทางกลับ พร้อมทั้งเปิดเผยกับสำนักข่าวทีนิวส์ว่า
"ทนายความประสิทธิ์ สันจิตร ไม่ได้มาตามการนัดหมาย ซึ่งต่อจากนี้ไปคงเดินหน้าต่อในกระบวนการยุติธรรม ทั้งการฟ้องแพ่งและอาญา ต่อนายประสิทธิ์ สันจิตร ให้ถึงที่สุด”