"บุญทรง" สะดุ้งโหยง !! กลัวถูก ยึดทรัพย์ กัดฟันสู้ ลั่นเอา"บิ๊กตู่"ขึ้น ศาลปมพิรุธ ใช้ ม.44 เร่งคดี

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

“บุญทรง” ลั่น จะเอา "พล.อ.ประยุทธ์" มาขึ้นศาลให้ได้ ชี้พิรุธ รัฐใช้มาตรา 44 เร่งคดีจำนำข้าว หวังป้องคนลงนามหนังสือบังคับทางปกครอง เผย “ยิ่งลักษณ์” ให้กำลังใจต่อสู้ แสดงความบริสุทธิ์ให้ถึงที่สุด บอกมั่นใจศาลไทยไม่ร้ององค์กรระหว่างประเทศ
         
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี รมว.พาณิชย์ และปลัดกระทรวงพาณิชย์ ลงนามในหนังสือบังคับทางปกครอง เรียกร้องค่าเสียหายจากการขายข้าวแบบจีทูจี ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสืออย่างเป็นทางการ หากได้รับแล้วจะให้ฝ่ายทนายศึกษารายละเอียด และดูเงื่อนไขต่าง ๆ ว่าเป็นอย่างไร โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการอ่าน 2-3 วัน  "สิ่งที่เตรียมการไว้คือต้องปกป้องสิทธิของเรา เพราะตามกฎหมายสามารถยื่นคำร้องต่อศาลปกครองเพื่อคัดค้าน อุทธรณ์คำสั่งได้ หลังจากนั้นจะเตรียมการไปยื่นศาลปกครอง และหากในเอกสารคำสั่งระบุว่าให้อุทธรณ์คำสั่งไปที่กระทรวงพาณิชย์ ก็คงจะอุทธรณ์คำสั่งไปที่กระทรวงพาณิชย์อีกทางหนึ่ง" นายบุญทรง กล่าว
         

 

เมื่อถามถึงการต่อสู้ทางคดีนอกจากเรื่องที่รัฐใช้มาตรา 44 เร่งรัดขั้นตอน และประเด็นที่นายกรัฐมนตรี ไม่ลงนามคำสั่งทางปกครองเอง จะมีประเด็นใดต่อสู้อีกหรือไม่ นายบุญทรง กล่าวว่า เรามีประเด็นในการต่อสู้อีก แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นหนังสืออย่างเป็นทางการ จึงยังไม่อยากจะสรุปไปก่อน แต่ในภาพใหญ่ที่มองคือ เหตุที่ใช้มาตรา 44 และอ้างว่า ไม่ใช่การรวบรัด แต่เป็นการเตรียมการเอาไว้ก่อนนั้น ตนคิดว่าการเตรียมการไม่จำเป็นต้องใช้มาตรา 44 ด้วยซ้ำ เพราะกรณีที่ศาลฎีกากำลังพิจารณา เมื่อพิพากษาให้เราเป็นฝ่ายผิดจริง กระบวนการก็จะไปสู่กรมบังคับคดีอยู่ดี ไม่มีเหตุอะไรที่จะต้องใช้มาตรา 44 ในขณะนี้
         
“ผมเข้าใจไปเองหรือเปล่าไม่รู้ ว่าการใช้มาตรา 44 ครั้งนี้ เพื่อจะมาปกป้องคนที่ลงนามมากกว่าหรือไม่ ผมเดาว่าหลายท่านคงคิดละเอียดแล้วว่า สิ่งที่จะดำเนินการต่างๆ จะทำได้หรือไม่ มันมีข้อโต้แย้งทางกฎหมายมากอยู่แล้ว ถ้าไม่เช่นนั้นเอกสารในการคำนวณเรียกความเสียหายจากกระทรวงการคลัง เท่าที่ทราบก็ดำเนินการเรียบร้อยมานานพอสมควร แต่ไม่มีการออกคำสั่งใดๆ อาจเป็นเพราะยังไม่มีมาตรา 44 หรือไม่ พอมีก็ทำเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งถือเป็นข้อพิรุธ และข้อสังเกตที่คิดว่าน่าจะมีมูลว่า การออกมาตรา 44 เพื่อเอามานิรโทษกรรมไว้ก่อน ซึ่งการใช้มาตรา 44 ตามการอธิบายของท่าน มันเป็นจิตวิทยาหนึ่ง คือคนที่เซ็นชื่อก็สบายใจมากขึ้น ผมเข้าใจอย่างนั้น ถึงจะอธิบายอ้อมไปอ้อมมาอย่างไรก็แล้วแต่ ผมคิดว่าคนที่เขาดูอยู่ เขาคงเห็นภาพ ถ้าไม่มีมาตรา 44 ออกมาก็คงไม่มีใครกล้าเซ็น” นายบุญทรง กล่าว

เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บ้างหรือไม่ นายบุญทรง กล่าวว่า อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ โทรมาให้กำลังใจ และได้แนะนำให้ตนต่อสู้ อย่าท้อถอย เพื่อแสดงให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ มีความมั่นใจว่าสิ่งที่ทำไปไม่มีอะไรเสียหาย ส่วนฝ่ายผู้ออกคำสั่ง ทางปกครองจะมองเป็นอย่างอื่นไปก็คงต้องไปพิสูจน์กัน
         
"ตอนนี้ผมก็นอนหลับสบายตลอด คงไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ ส่วนข้าราชการที่โดนคดีด้วยกันทุกคนก็ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ทุกคนมั่นใจในความบริสุทธิ์ ไม่มีอะไรต้องเกรงกลัว เอาข้อเท็จจริงมาว่ากัน ยืนยันจะสู้ให้ถึงที่สุด ต้องเอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาขึ้นในชั้นศาลให้ได้" นายบุญทรง กล่าว เมื่อถามว่าจะมีการยื่นร้องขอความช่วยเหลือจากองค์กรระหว่างประเทศบ้างหรือไม่ นายบุญทรง กล่าวว่า ยังไม่ได้มองไปขนาดนั้น ในเบื้องต้นกระบวนการศาลไทยน่าจะเพียงพอ