"ฉันเดินตามรอยเท้าอันรวดเร็วของพ่อโดยไม่หยุด"...เรียนรู้ตามพระยุคลบาทโดยสมเด็จพระเทพฯ ...ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://panyayan.tnews.co.th

วันนี้เชิญชวนท่านผู้อ่านที่เคารพทุกท่านร่วมเรียนรู้ตามรอยพระยุคลบาทในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากพระราชดำรัสการบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทย โดยได้รับความสนับสนุนด้านข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ดังนี้ครับ
ขอเริ่มต้นด้วยการอัญเชิญพระราชปณิธานจากพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากหนังสือ “มณีพลอยร้อยแสง” จัดพิมพ์โดยโรงเรียนจิตรลดาเมื่อปี ๒๕๑๙ ความตอนหนึ่งว่า

“... ฉันเดินตามรอยเท้าอันรวดเร็วของพ่อโดยไม่หยุด ผ่านเข้าไปในป่าใหญ่ น่ากลัว ทึบ แผ่ไปโดยไม่มีที่สิ้นสุด มืดและกว้าง มีต้นไม้ใหญ่เหมือนหอคอยที่เข้มแข็ง
พ่อจ๋า... ลูกหิวจะตายและเหนื่อยด้วย  ดูซิจ๊ะ... เลือดไหลออกมาจากเท้าทั้งสองที่บาดเจ็บของลูก  ลูกกลัวงู เสือ และหมาป่า  พ่อจ๋า... เราจะถึงจุดหมายปลายทางไหม?
ลูกเอ๋ย... ในโลกนี้ไม่มีที่ไหนดอกที่มีความรื่นรมย์และความสบายสำหรับเจ้า ทางของเรามิได้ปูด้วยดอกไม้สวยๆ
จงไปเถิด... แม้มันจะเป็นสิ่งบีบคั้นหัวใจเจ้า  พ่อเห็นแล้วว่า หนามตำเนื้ออ่อนๆ ของเจ้า  เลือดของเจ้าเปรียบดั่งทับทิมบนใบหญ้าใกล้น้ำ  น้ำตาของเจ้าที่ไหลต้องพุ่มไม้สีเขียวเปรียบดั่งเพชรบนมรกตที่แสดงความงดงามเต็มที่
เพื่อมนุษยชาติ จงอย่าละความกล้า  เมื่อเผชิญกับความทุกข์ให้อดทนและสุขุม  และจงมีความสุขที่ได้ยึดอุดมการณ์ที่มีค่า
ไปเถิด... ถ้าเจ้าต้องการเดินตามรอยเท้าพ่อ ...”

"ฉันเดินตามรอยเท้าอันรวดเร็วของพ่อโดยไม่หยุด"...เรียนรู้ตามพระยุคลบาทโดยสมเด็จพระเทพฯ ...ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
 

พระราชดำรัสในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อัญเชิญมาจากหนังสือสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงบรรยายเรื่องการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ความตอนหนึ่งว่า
“... นอกจากความเจริญในทางด้านวัตถุสมัยใหม่แล้ว สิ่งที่มีความสำคัญควบคู่กันไป จะละลืมเสียมิได้ คือ ขนบธรรมเนียมประเพณีและศิลปวัฒนธรรมของชาติอันเป็นเครื่องหมายของความเจริญที่มีมาแต่ปู่ย่าตายาย อันเป็นหน้าที่ของเราผู้เป็นลูกหลานในชั้นหลังจะต้องช่วยกันรักษาและส่งเสริมไว้ให้มีความเจริญสืบไป ...”
พระราชดำรัสในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานในพิธีพระราชทานรางวัลเกียรติคุณแก่บุคคล หน่วยงาน และโครงการดีเด่นของชาติ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๕๖ ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๗ ความตอนหนึ่งว่า
“... การประพฤติดีปฏิบัติชอบนั้นเกิดจากการที่บุคคลได้พิจารณาด้วยปัญญาจนเห็นกระจ่างว่า การกระทำนั้นๆ ก่อให้เกิดผลดี เป็นประโยชน์แท้ทั้งแก่ตน แก่ส่วนรวม  เมื่อคิดเห็นดังนี้ จิตใจก็จะตั้งมั่นในความดี ก่อเกิดเป็นศรัทธาอันมั่นคงในอันที่จะปฏิบัติบำเพ็ญความดีให้ยิ่งเพิ่มพูนขึ้น ...”
พระราชดำรัสในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อัญเชิญมาจากหนังสือพระราชนิพนธ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เกี่ยวกับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ความว่า
“... เราต้องการช่วยให้นักเรียนในโรงเรียนมีสุขภาพอนามัยบริบูรณ์แข็งแรง รับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะและถูกตามส่วนประกอบที่จะบำรุงร่างกาย ... อยากให้เป็นพืชผักหรืออุปกรณ์แล้วให้นักเรียนมาทำการเกษตร ซึ่งเป็นวิธีที่อ้อมและยากขึ้นมาอีกทางหนึ่ง
อาหารที่จะให้รับประทานนั้นเป็นอาหารที่ได้มาจากผลิตผลของนักเรียนผู้รับประทานเอง ซึ่งอาจจะได้ผลช้า แต่ก็เป็นวิธีหนึ่งซึ่งจะได้รับอาหาร  และคิดว่าจะได้รับประโยชน์เป็นผลพลอยได้ที่สำคัญ คือ ความรู้ทางด้านการเกษตรและด้านโภชนาการ ซึ่งจะเป็นวิชาติดตัวไปจนนักเรียนเหล่านั้นเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่และได้ประกอบอาชีพทางด้านการเกษตรกรรม  วิชาการใหม่ๆ เหล่านั้นอาจจะนำมาช่วยในการครองชีพได้มากทีเดียว ...”
พระราชดำรัสในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานเมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ ในโอกาสทรงได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล “อินทิรา คานธี” ประจำปี ๒๕๔๗ สาขาสันติภาพ การลดอาวุธ และการพัฒนา จากประเทศสาธารณรัฐอินเดีย ความตอนหนึ่งว่า
“... งานพัฒนาเป็นงานที่ยากและใช้เวลานานกว่าจะประสบผลสำเร็จ  ดังนั้น ผู้ที่ทำงานด้านการพัฒนาทั้งหลายจึงต้องอดทน มีความเชื่อที่หนักแน่นในธรรมะและคุณธรรม อีกทั้งต้องซื่อตรงและจริงใจ เพื่อให้ผู้อื่นนิยมและศรัทธา ...
รางวัลอันได้รับในวันนี้จะเป็นกำลังใจให้มุ่งมั่นปฏิบัติงานพัฒนาต่อไป เพื่อสร้างความอยู่ดีกินดีแก่ประชาชนชาวไทย ประชาชนชาวเอเชีย และประชาชนโลก เพื่อจักนำมาซึ่งสันติภาพและความสมบูรณ์พูนสุขของโลก ...”
พระราชดำรัสในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อัญเชิญมาจากคำนำในพระราชนิพนธ์ “ถ้าเดินเรื่อยไปย่อมถึงปลายทาง” ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ความตอนหนึ่งว่า

"ฉันเดินตามรอยเท้าอันรวดเร็วของพ่อโดยไม่หยุด"...เรียนรู้ตามพระยุคลบาทโดยสมเด็จพระเทพฯ ...ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

“... พักนี้ข้าพเจ้าต้องไปที่โน่นที่นี่มากกว่าแต่ก่อน ทั้งในและนอกประเทศ  บางทีวันๆ หนึ่ง ไปได้ไม่ครบทุกที่ที่เตรียมไว้  บางวันดินฟ้าอากาศไม่อำนวย รถเสีย หรือมีอุปสรรคอื่นๆ ทำให้ไปไม่ถึงจุดหมายปลายทาง
อุปสรรคเหล่านี้เป็นเรื่องช่วยไม่ได้จริงๆ  ได้แต่คิดว่า ถ้าเดินไปเรื่อยๆ ไม่ย่อท้อ ก็ย่อมไปถึงที่ที่เราอยากไป  นี่เป็นเรื่องรูปธรรม
ในทางนามธรรม คือ ความมุ่งหวัง ความสำเร็จ  ถ้าเราก้าวเดินตามทิศทางที่ถูกต้องย่อมถึงปลายทางเข้าสักวัน จะช้าหรือเร็วก็ไม่ต้องเครียด ...”
ท่านผู้อ่านที่เคารพครับ  กระผมขอเชิญชวนให้ทุกท่านน้อมนำพระราชดำรัสในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติตนเพื่อให้ก้าวพ้นจากความทุกข์โศก และมีกำลังใจที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด หนักแน่นในธรรมะและคุณธรรม อีกทั้งต้องซื่อตรงและจริงใจ มีจิตที่มุ่งมั่นในการปฏิบัติงาน ก้าวเดินไปตามทิศทางที่ถูกต้อง ให้สามารถบำเพ็ญความดีให้ยิ่งเพิ่มพูนขึ้น ซึ่งนับเป็นหน้าที่ของเรารุ่นลูกหลานในชั้นหลังที่ต้องช่วยกันรักษาและส่งเสริมวัฒนธรรมและความเจริญสืบไป

"ฉันเดินตามรอยเท้าอันรวดเร็วของพ่อโดยไม่หยุด"...เรียนรู้ตามพระยุคลบาทโดยสมเด็จพระเทพฯ ...ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
เรียนรู้ตามรอยพระยุคลบาทสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
โดย... ดร.สุทิน ลี้ปิยะชาติ
ที่มา : สยามรัฐ

"ฉันเดินตามรอยเท้าอันรวดเร็วของพ่อโดยไม่หยุด"...เรียนรู้ตามพระยุคลบาทโดยสมเด็จพระเทพฯ ...ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

จากหนังสือ ร้อบเรียงเรื่องประทับใจ ในสมเด็จพระเทพฯ