เมื่อ ลูกศิษย์คิดนิมนต์"หลวงปู่สรวง"ให้อยู่นานๆ เลยล็อคประตูหนาถึง2ชั้น แต่ก็ต้องอึ้ง! เมื่อหลวงปู่เดินออกได้ สบายๆ

ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://panyayan.tnews.co.th

            เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ต้นเรื่องอยู่ที่ อำเภออำนาจเจริญ ซึ่งสมัยนี้ได้ยกระดับเป็นจังหวัดอำนาจเจริญแล้ว เรื่องราวของหลวงปู่สรวงและคุณลุงบุญเลิศผู้คอยดูแลและติดตามหลวงปู่ดังเงาตามตัว ได้เล่าว่า...หาก “หลวงปู่สรวง” อยากไปที่ไหนสักแห่งแล้วล่ะก็ เดี๋ยวท่านก็ชี้ชวนให้ไปเอง ไม่มีใครสามารถที่จะไปบังคับท่านได้

         กระทั่งวันหนึ่งหลังจากเสร็จธุรกิจนิมนต์แล้ว กำลังขับรถจะกลับกระท่อมที่หลวงสรวงปู่ใช้พำนักเป็นประจำนั้น จู่ๆหลวงปู่สรวงก็ชี้ทางให้ลุงบุญเลิศเลี้ยวรถไปตามที่หลวงปู่สรวงคอยชี้บอก

           คุณลุงบุญเลิศยังเล่าต่ออีกว่า ทุกครั้งที่หลวงปู่สรวงชี้บอกทางมักจะมีเรื่องแปลกๆรออยู่เสมอ เหมือนอย่างตอนที่หลวงปู่โยนเงินออกนอกรถที่เคยเล่าไว้นั่นแหละ ครั้งนั้นหลวงปู่สรวงก็เป็นผู้ชี้บอกทางให้รถเลี้ยวตลอดระยะทางที่จะไป ครั้งนี้จู่ๆหลวงปู่ก็ชี้บอกทางให้ไปคุณลุงบุญเลิศแกเข้าใจเอาเองว่า

น่าจะมีเรื่องเร้าใจรออยู่อีกเป็นแน่แท้

             ขับรถไปตามทางที่หลวงปู่ชี้นำสักพักก็เริ่มแน่ใจแล้วว่า น่าจะมุ่งหน้าไปที่บ้านลูกศิษย์ของหลวงปู่ที่ อ.อำนาจเจริญอย่างแน่นอน จะแปลกใจอยู่หน่อยก็ตรงที่ไม่รู้ว่าหลวงปู่สรวงจะไปทำไม เพราะตัวของคุณลุงบุญเลิศเอง ท่านก็ไม่ได้บอกหลวงปู่ว่าลูกศิษย์ของหลวงปู่คนนี้ ได้เคยติดต่อมาให้คุณลุงบุญเลิศพาหลวงปู่ไปหาเขาบ้าง

               จนกระทั่งรถไปถึงบ้านของลูกศิษย์คนนั้นแล้ว และหลวงปู่สรวงก็ได้ทำการรักษาอาการป่วยให้ลูกศิษย์คนนั้นทันที

หลังจากนั้นก็รับนิมนต์จากลูกศิษย์อีกคนหนึ่งที่อยู่ อ.อำนาจเจริญเช่นกันไปที่บ้าน

              ลูกศิษย์ของหลวงปู่สรวงคนนี้เป็นคนชอบเล่นการพนัน หลวงปู่สรวงท่านก็ไม่ขัดศรัทธาลูกศิษย์เช่นกัน เมื่อไปส่งหลวงปู่สรวงถึงบ้านของลูกศิษย์คนที่ชอบเล่นการพนันแล้ว ก็พากันเข้าไปนั่งพักในบ้าน

                     คุณลุงบุญเลิศเล่าต่อไปว่า บ้านของลูกศิษย์คนนี้หลังใหญ่มาก หน้าบ้านติดถนนเส้นหนึ่ง ส่วนหลังบ้านก็ไปจรดถนนอีกเส้นหนึ่ง เมื่อเข้าไปแล้วก็จัดการล็อกบ้านทันที เนื่องจากว่าบ้านหลังใหญ่มาก เมื่อเข้าด้านหน้าบ้านแล้วก็ต้องล็อกกุญแจหน้าบ้านเสียก่อน เพื่อจะเดินไปหลังบ้าน ทีนี้ด้วยความที่บ้านของลูกศิษย์คนนี้มีอาชีพในทางผิดกฎหมาย ก็คือการเล่นการพนันด้วยก็ต้องป้องกันให้เต็มที่ และแข็งแรงเสียหน่อย กุญแจที่ใช้ก็เป็นกุญแจที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องความคงทนต่อการงัดแงะ หรือแม้แต่เลื่อยตัดเหล็กก็ไม่ละคายผิวนั่นแหละ จึงจะเป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจของลูกค้า ตัวเดียวไม่พอ จะให้มั่นใจยิ่งขึ้น มันต้องสองตัว

                หมายความว่าหน้าบ้านล็อกด้วยกุญแจราคาแพง 2 ตัว ด้านหลังบ้านก็ต้อง 2 ตัวเช่นกัน นี่ยังไม่นับประตูเลื่อนซึ่งเป็นประตูเหล็กและมีล็อกในตัวอีกชั้นหนึ่งต่างหากด้วย เอาใจลูกค้าอย่างเต็มที่

            ทีนี้เมื่อหลวงปู่สรวงและคุณลุงบุญเลิศเข้าไปนั่งพักในบ้านแล้ว ก็ไม่ต่างอะไรกับการถูกขัง เพราะประตูได้ถูกล็อกป้องกันการเข้าออกอย่างแน่นหนา ทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน คุณลุงบุญเลิศยังบอกอีกว่า ขณะนั้นทั้งหลวงปู่และคุณลุงบุญเลิศเอง ต่างก็ยังไม่รู้ว่า ตนเองได้ตกอยู่ในสภาพถูกขัง

             จนกระทั่งมีเสียงเสียงหนึ่งแว่วเข้ามากระทบโสตประสาทเข้า และก็เป็นเสียงที่คุ้นเคยกันดีในชนบท ที่สำคัญยังเป็นเสียงที่หลวงสรวงท่านชอบฟังมากเป็นพิเศษอีกด้วย “เสียงว่าวธนู”

เมื่อได้ยินเสียงของว่าวธนู หลวงปู่สรวง ท่านก็ผุดลุกขึ้นฉุดแขนของคุณลุงบุญเลิศวิ่งออกไปดูว่าวธนูตัวต้นเสียงทันที

              เมื่อวิ่งไปถึงประตูด้านหลังบ้าน คุณลุงบุญเลิศก็ชะงักเมื่อมองเห็นแม่กุญแจยี่ห้อดังตัวเขื่อง ล็อกประตูหลังบ้านเอาไว้ถึง 2 ตัว แต่หลวงปู่สรวงไม่หยุด หลวงปู่สรวง ท่านเอื้อมมือไปคว้าแม่กุญแจทั้งสองตัวที่ล็อกประตูนั้นออกมาได้อย่างไรไม่ทราบ มองไม่ทัน เห็นแต่ว่าท่านเอื้อมมือไปดึงออกมาเฉยๆไม่ได้มีลูกกุญแจไปไขแต่อย่างใด แล้วยังเลื่อนประตูเหล็กด้านนอกสุดอีกตัวออกง่ายดายโดยไม่ติดขัดอีกด้วย เมื่อประตูเปิดออกหมดแล้วหลวงปู่สรวงก็ดึงแขนคุณลุงบุญเลิศออกไปดูว่าวธนูตัวนั้น เป็นที่สนุกของหลวงปู่สรวงไป

               เมื่อยืนดูและยืนฟังจนเป็นที่พอใจแล้ว หลวงปู่ก็จูงแขนคุณลุงบุญเลิศกลับเข้าบ้านดังเดิม โดยไม่ลืมล็อกบ้านเอาไว้เหมือนเดิมด้วยอีกต่างหาก

              คุณลุงบุญเลิศท่านว่า ท่านเห็นอย่างนั้นแล้วอดนึกไม่ได้ว่า ตนเองและหลวงปู่เหมือนถูกเพื่อนคนนี้นำมากักมาขังไว้อย่างไรอย่างนั้น เพราะเท่าที่เห็นประตูถูกล็อกเอาไว้อย่างแน่นหนาทั้งหน้าและหลังบ้าน ไม่ต่างอะไรกับคุก คิดได้ดังนั้นจึงได้เรียกเพื่อนเจ้าของบ้านออกมาถามไถ่เอาความจริง ว่าทำอย่างนี้ทำไม มันดูไม่ดี มันแลไม่เหมาะไม่ควรเป็นอย่างยิ่ง คำตอบที่ได้นั้นคุณลุงบุญเลิศท่านบอกว่าไม่สมเหตุสมผลเป็นอย่างยิ่ง

           เพื่อนตอบมาว่า เขากลัวหลวงปู่สรวงจะหนีกลับ กลัวว่าท่านจะไม่อยู่คอยในขณะที่ตัวแอบเข้าไปเล่นการพนันในบ้านของตัวเอง จากการที่หลวงปู่ได้แสดงให้เห็นนั้นก็เป็นการบอกให้รู้เป็นนัยๆแล้วว่า หากหลวงปู่สรวงท่านต้องการจะไปจริงๆ ท่านไปได้ตลอดเวลาแม้จะถูกกักอยู่ก็ตาม

          หลังจากตัดพ้อต่อว่าเพื่อนเจ้าของบ่อนแล้ว คราวนี้เจ้าของบ้านไม่กล้าปล่อยให้คุณลุงบุญเลิศนั่งพักอยู่กับหลวงปู่ตามลำพังอีก หลวงปู่สรวงท่านก็ยังนั่งยิ้มฟังเสียงว่าวธนูอยู่ในบ้านนั้นต่อ สักพักหลวงปู่ก็สรวงก็ชวนคุณลุงบุญเลิศไปต่อ บอกว่าไม่อยากอยู่ที่บ้านนี้แล้ว...