เมื่อประเพณีขบวนแห่ต้อนรับพระผู้ใหญ่ผิดวินัยสงฆ์... หลวงปู่มั่นจึงต้องตักเตือนก่อนจะพากันเข้ารกเข้าพงทั้งโยมทั้งพระ!!

รู้จริง... รู้แจ้ง... ทุกเรื่องราวพระอริยสงฆ์ http://panyayan.tnews.co.th

เมื่อประเพณีขบวนแห่ต้อนรับพระผู้ใหญ่ผิดวินัยสงฆ์... หลวงปู่มั่นจึงต้องตักเตือนก่อนจะพากันเข้ารกเข้าพงทั้งโยมทั้งพระ!!

ครั้งหนึ่ง มีท่านเจ้าคุณพระราชาคณะชั้นผู้ใหญ่รูปหนึ่ง อยากจะเข้ากราบนมัสการหลวงปู่มั่น ที่วัดป่าบ้านหนองผือ ข่าวคราวนี้เป็นงานที่ใหญ่โตอย่างยิ่ง เพราะนานๆจะได้มีงานต้อนรับพระราชาคณะชั้นสูงจากกรุงเทพ บรรดาข้าราชการครู กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและลูกบ้านจึงได้ตระเตรียมจัดการต้อนรับท่านอย่างเป็นทางการ และชาวบ้านหนองผือและหมู่บ้านใกล้เคียงก็ได้จัดขบวนต้อนรับอย่างสมเกียรติ มีประชาชนคนเก่าคนแก่และหนุ่มสาวตลอดจนเด็กๆไปรอต้อนรับกันที่ทางเข้า ณ บ้านห้วยปุ่น เป็นระยะทางกว่า ๔ กิโลเมตร

เมื่อคณะของท่านเจ้าคุณมาถึง ได้เปลี่ยนจากนั่งเกวียนมาขึ้นแคร่หาม โดยมีประชาชนที่ไปต้อนรับแห่ขบวนตามหลัง มีฆ้องตีแห่ไปด้วย อันเป็นประเพณีสนุกสนานตามประสาชาวบ้าน

 

เมื่อประเพณีขบวนแห่ต้อนรับพระผู้ใหญ่ผิดวินัยสงฆ์... หลวงปู่มั่นจึงต้องตักเตือนก่อนจะพากันเข้ารกเข้าพงทั้งโยมทั้งพระ!!

เมื่อขบวนแห่เคลื่อนมาถึงศาลาที่เตรียมต้อนรับภายในวัดป่าบ้านหนองผือ ก็คิดที่จะหามแห่เวียนรอบศาลาสามรอบ ทันใดนั้น เสียงของหลวงปู่มั่นก็ดังขึ้นจากภายในศาลา

"เอาบุญหยังฮึ พ่อออก ? พ่อออกเอาบุญหยัง? บุญเดือนสามกะบ่แม่น เดือนหกกะบ่แม่น เอาบุญหยังล่ะ พ่อออก?"

ท่านพูดเน้นและย้ำอยู่อย่างนั้น จนทำให้พวกขบวนหามแห่ พวกตีฆ้องตีกลอง แปลกใจและตกใจกลัวเสียงของท่านมาก และพากันหลบหายไปกับฝูงชน ส่วนพวกที่กำลังหามพระราชาคณะรูปนั้นก็กลัวท่านเหมือนกัน แต่จะทำอย่างไรได้ จึงหามท่านเข้าไปจนถึงระเบียงศาลา โดยหามเอาขอบของแคร่เข้าไปชิดกับขอบระเบียงศาลา แล้วท่านเจ้าคุณก็ลุกขึ้น ก้าวเท้าเหยียบขอบระเบียงศาลา เดินเข้าไปภายใน ยืนลดผ้าห่มเฉวียงบ่า จึงเดินเข้าไปยังอาสน์สงฆ์ กราบนมัสการพระประธาน แล้วจึงนั่งบนอาสนะที่จัดไว้

ในขณะที่ผู้คนกำลังวุ่นวายอยู่นั้น หลวงปู่มั่นท่านก็ยังพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า คล้ายจะให้รู้ว่างานขบวนหามขบวนแห่พระในครั้งนี้มีความผิด ท่านจึงพูดเสียงดังผิดปกติ จากนั้นท่านก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ท่านได้เข้าไปพูดจาปราศรัยกับท่านเจ้าคุณ

คืนวันนั้นท่านได้ประชุมพระเณร ถึงเรื่องการปฏิบัติพระวินัยของพระภิกษุสามเณร ตลอดทั้งกิริยามารยาทอย่างอื่นที่ยังไม่เหมาะสมกับสมณสารูป ท่านได้เทศน์อบรมพระเณรในคืนนั้นเป็นพิเศษจนดึก ล้วนแต่เป็นเรื่องราวที่เข้มข้น ถึงความผิดของพระเณร แล้วก็โยงมาถึงความผิดของญาติโยม เพราะไม่มีใครสอนให้เข้าใจ ก็เลยพากันผิดมาเรื่อยๆ จนบางเรื่องก็แก้ไขไม่ได้ ติดเป็นประเพณีนิยมสืบต่อกันมา แต่เหตุการณ์ไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น ท่านได้เริ่มจุดที่จะสอนญาติโยมชาวบ้านหนองผือต่อไป

 

 

เมื่อประเพณีขบวนแห่ต้อนรับพระผู้ใหญ่ผิดวินัยสงฆ์... หลวงปู่มั่นจึงต้องตักเตือนก่อนจะพากันเข้ารกเข้าพงทั้งโยมทั้งพระ!!

ตอนเช้า หลวงปู่มั่นพร้อมทั้งพระเณรทุกรูป เข้าไปบิณฑบาตภายในหมู่บ้านหนองผือ พอไปถึงชาวบ้านกลุ่มแรก หลวงปู่มั่นก็พูดเสียงดังชัดเจน

"สาละแวก ปลาแดกใส่ตุ้ม ปลาเก่ากะบ่ได้ ปลาใหม่กะบ่ได้ เอาบุญหยังฮึ พ่อออกแม่ออกมื้อวานนี้ สาละแวก ปลาแดกใส่ตุ้ม"

ท่านพูดอย่างนั้นไปเรื่อยๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า พูดกับญาติโยมทุกกลุ่มที่รอใส่บาตรจนตลอดสาย

เรื่องนี้มีความหมายว่า การที่ญาติโยมตั้งขบวนหามขบวนแห่พระอย่างนั้น เป็นการอันไม่สมควร ไม่ถูกต้อง ไม่เคารพสถานที่และครูบาอาจารย์ เป็นความผิดแผกแหวกแนวประเพณีของนักปฏิบัติ ผิดทั้งฝ่ายโยมและฝ่ายพระ พระผู้ถูกหามไม่ป่วยไม่ชราอาพาธ ก็ผิดพระวินัย พระก็เป็นโทษ เป็นอาบัติ เป็นบาปเป็นกรรม

ฝ่ายญาติโยมเป็นผู้ส่งเสริมความผิด ทำให้พระผิดพระวินัย ญาติโยมก็พลอยได้รับโทษไปด้วยเช่นกัน ฉะนั้น การที่ญาติโยมคิดว่าเป็นการทำเอาบุญเอากุศลในครั้งนี้นั้น ก็เลยไม่ได้อะไร บุญเก่าก็หดหาย บุญใหม่ก็ไม่ได้ เป็นการกระทำอันเปล่าประโยชน์

ภายหลังชาวบ้านจึงพากันจำใส่ใจตลอดมา และไม่กล้าทำประเพณีอย่างนี้อีกเลย จึงได้พากันเล่าสืบต่อมาจนถึงทุกวันนี้้