เพราะถูกความยึดมั่นพันธนาการไว้อย่างเหนียวแน่น...หลวงปู่มั่นจึงต้องใช้เวลาอยู่ในถ้ำถึง 9 วัน 9 คืน เพื่อเทศน์คืนสติให้วิญญาณสองพี่น้อง!!

รู้จริง... รู้แจ้ง... ทุกเรื่องราวพระอริยสงฆ์ http://panyayan.tnews.co.th

เพราะถูกความยึดมั่นพันธนาการไว้อย่างเหนียวแน่น...หลวงปู่มั่นจึงต้องใช้เวลาอยู่ในถ้ำถึง 9 วัน 9 คืน เพื่อเทศน์คืนสติให้วิญญาณสองพี่น้อง!!

หลวงปู่มั่นไม่ออกจากถ้ำ ๙ วัน ๙ คืน หลวงปู่แหวน ได้เล่าถึงหลวงปู่มั่นว่า..

...เมื่อออกพรรษาแล้ว ท่านอาจารย์ใหญ่ ให้โยมนำไม้เข้าไปทำแคร่ให้ท่านอีกแห่งที่ถ้ำเจดีย์ อยู่ลึกเข้าไปข้างในถ้ำหลวง แล้วท่านก็เข้าไปอยู่ภายในถ้ำนั้น ๙ วัน ๙ คืน โดยไม่ออกมาเลย

ในวันที่ ๑๐ หลวงปู่มั่น จึงออกมา หลังจากกลับจากบิณฑบาตและฉันเสร็จแล้ว ท่านจึงเล่าให้คณะศิษย์ฟังว่า ท่านเข้าไปช่วยเจ้าของผู้สร้างเจดีย์ เขาห่วงเจดีย์ของเขา เขาไปไหนไม่ได้ ท่านจึงไปช่วยแนะนำเขา เวลานี้เขาไปแล้ว

หลวงปู่แหวนบอกว่า ที่พระอาจารย์ใหญ่พูดว่า เขาไปแล้วนั้น ท่านเองก็ไม่รู้ว่าใครไปไหน ได้กราบเรียนถาม แต่ท่านก็ไม่ได้อธิบาย หยุดไว้แค่นั้น

เพราะถูกความยึดมั่นพันธนาการไว้อย่างเหนียวแน่น...หลวงปู่มั่นจึงต้องใช้เวลาอยู่ในถ้ำถึง 9 วัน 9 คืน เพื่อเทศน์คืนสติให้วิญญาณสองพี่น้อง!!

เพราะถูกความยึดมั่นพันธนาการไว้อย่างเหนียวแน่น...หลวงปู่มั่นจึงต้องใช้เวลาอยู่ในถ้ำถึง 9 วัน 9 คืน เพื่อเทศน์คืนสติให้วิญญาณสองพี่น้อง!!

..จากคำบอกเล่าของครูบาอาจารย์องค์อื่น ความว่า ได้มีวิญญาณหญิงสาวกับสามเณร ที่เป็น น้องชาย มาวนเวียนอยู่บริเวณที่หลวงปู่มั่น พักนั้นหลายคืน ท่านจึงถามว่า มาเดินอยู่ทำไม วิญญาณก็เล่าให้ฟังว่า พวกเราสร้างเจดีย์ไว้ยังไม่เสร็จ ก็ต้องมาตายเสียก่อน เขาจึงกังวลกับเรื่องนี้ ยังไปไหนไม่ได้

หลวงปู่มั่น จึงเทศน์ให้สติวิญญาณสองพี่น้อง ใจความว่า..

“...สิ่งที่ล่วงไปแล้ว ไม่ควรทำความผูกพัน เพราะไม่สามารถเอากลับมาให้เป็นปัจจุบันได้ มีแต่ จะทำให้กังวลและเป็นทุกข์ ส่วนอนาคตก็ไม่ควรไปห่วง ไปเกี่ยวข้อง อดีตควรปล่อยไว้ตามอดีต อนาคตก็ควรปล่อยไว้ตามกาลของมัน ปัจจุบันเท่านั้น จึงจะทำให้สำเร็จประโยชน์ได้ เพราะอยู่ในฐานะที่เขาสามารถทำได้

การสร้างพระเจดีย์ เราสร้างด้วยหวังบุญ หวังกุศล ไม่ได้สร้างเพื่อหวังเอาก้อนอิฐ ก้อนหิน ปูนทราย ในองค์พระเจดีย์ติดตัวไปด้วย สิ่งที่เป็นสมบัติของเราในการสร้างพระเจดีย์ ก็คือบุญที่เราจะเอาติดตัวไปได้ เราไม่ได้เอาสิ่งก่อสร้าง วัตถุทานต่างๆ ที่สละแล้วนั้น เอาติดตัวไปด้วย เราเอาไปได้ เฉพาะส่วนนามธรรม ที่เกิดจากการสละวัตถุทานเหล่านั้น นั่นคือตัวบุญกุศล

เจ้าของผู้คิดเป็นกุศลเจตนาขึ้นมา ให้สำเร็จเป็นวัตถุไทยทานต่างๆ นั้นคือ ใจ ใจนี่แหละเป็น ผู้ทรงบุญ ทรงกุศล ทรงมรรค ทรงผล ทรงสวรรค์ นิพพาน และใจนี่แล เป็นผู้ไปสู่สวรรค์นิพพาน นอกจากใจไม่มีอะไรไป

ถ้าคุณทั้งสองยินดีเฉพาะกุศลผลบุญ ที่ทำได้จากการสร้างพระเจดีย์ไปเท่านั้น ไม่มุ่งจะแบกหามพระเจดีย์ไปสวรรค์ นิพพานด้วย คุณทั้งสองก็ไปอย่าง สุคโต หายห่วงไปนานแล้ว เพราะบุญเป็นเครื่องสนับสนุน บุญจึงไม่เปลี่ยนแปลงเป็นบาปตลอดกาล

คุณทั้งสองสร้างบุญญาภิสมภารมา เพื่อยังตนไปสู่สุคติ แต่กลับมาติดกังวลในอิฐ ในปูนเพียงเท่านั้น จนเป็นอุปสรรคต่อทางเดินของตน ซึ่งทำให้เสียเวลาไปนาน

ถ้าคุณทั้งสอง พยายามตัดความขัดข้องห่วงใยที่กำลังเป็นอยู่ ออกจากใจ ชั่วเวลาไม่นาน จะเป็นผู้หมดภาระผูกพัน คุณมีจิตมุ่งมั่นในภพใด จะสมหวังในภพนั้น เพราะแรงกุศลที่ได้พากันสร้างมาพร้อมอยู่แล้ว...”

เพราะถูกความยึดมั่นพันธนาการไว้อย่างเหนียวแน่น...หลวงปู่มั่นจึงต้องใช้เวลาอยู่ในถ้ำถึง 9 วัน 9 คืน เพื่อเทศน์คืนสติให้วิญญาณสองพี่น้อง!!

หลังจากนั้น หลวงปู่มั่น ก็สอนดวงวิญญาณ ให้รักษาศีลห้า สอนอานิสงส์ของทาน ศีล ภาวนา และหลักธรรมอื่นๆ จนดวงวิญญาณคลายการติดยึด แล้วไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์พิภพ ในลำดับต่อมา

ที่มา : หนังสือโครงการหนังสือบูรพาจารย์ เล่ม ๓

เรียบเรียงโดย รศ.ดร.ปฐม -รศ.ภัทรา นิคมานนท์

มีนาคม ๒๕๔๘