- 14 ต.ค. 2559
รู้จริง...รู้แจ้ง...ทุกเรื่องราวแห่งพระอริยสงฆ์ http://panyayan.tnews.co.th
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๘ คุณอัครวัฒน์ โอสถานุเคราะห์ ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าสมเด็จพระญาณสังวรฯ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร และได้ขอความกรุณาจากท่านเพื่อให้ท่านเล่าถึงพระราชกรณียกิจเมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศทรงพระผนวชและประทับที่วัดแห่งนี้ ซึ่งข้อมูลจากการสัมภาษณ์ดังกล่าวได้นำมาลงพิมพ์ในหนังสือ "สองธรรมราชา" โดยมีรายละเอียดดังนี้
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศทรงพอพระราชหฤทัยในการฟังเทศน์มาตั้งแต่พระชนมพรรษายังน้อย
"พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศทรงปฏิบัติพระราชกิจทางพระพุทธศาสนาอย่างสมบูรณ์มาตั้งแต่พระชนมพรรษายังน้อย ดังที่ได้เคยทราบว่า ทรงพอพระราชหฤทัยในการฟังเทศน์ที่มีอยู่เป็นประจำ ในคราวบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพรัชกาลที่ ๘ แม้จะเป็นการเทศน์กัณฑ์ยาวก็ทรงพอพระราชหฤทัยฟัง ทรงเริ่มสนพระราชหฤทัยในพระพุทธศาสนา เมื่อได้ทรงพบปะกับพระมหาเถระผู้ใหญ่ก็มีพระราชปุจฉาและทรงสดับข้อธรรมนั้น ๆ อยู่เนือง ๆ โดยเฉพาะได้ทรงมีโอกาสเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชเจ้า วัดบวรนิเวศวิหาร และได้ทรงสดับฟังธรรมเป็นครั้งคราวตลอดมา ทำให้ทรงเข้าพระราชหฤทัยในธรรมและสนพระราชหฤทัยในพระพุทธศาสนามากขึ้น"
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศกับสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์
แรงดลพระราชหฤทัยให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศทรงพระผนวช
"เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศทรงใกล้ชิดสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ทำให้ทรงมีความรู้และทรงมีพระราชศรัทธาในพระพุทธศาสนามากขึ้น จึงเป็นแรงหนึ่งที่ดลพระราชหฤทัยให้เกิดพระราชศรัทธาปสาทะแน่วแน่ที่จะทรงพระผนวชในสำนักสมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ"
พระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศกับสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์
เหตุใดการทรงพระผนวชของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศจึงมีความแตกต่างจากพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีในอดีตโดยมาก?
"พระมหากษัตริย์แห่งพระราชวงศ์จักรีในอดีตโดยมากได้เสด็จฯ ออกทรงพระผนวชก่อนเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เว้นแต่รัชกาลที่ ๕ ซึ่งเสด็จฯ ออกทรงพระผนวชภายหลังเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติแล้ว เพราะว่าได้เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อพระชนมพรรษายังน้อย มาถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศก็ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเมื่อพระชนมพรรษายังน้อย และทรงพระผนวชในภายหลังเช่นเดียวกัน"
ใครคือพระราชอุปัชฌาย์และพระพี่เลี้ยงของพระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ?
"พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศทรงพระผนวชที่พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามเมื่อวันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๔๙๙ โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ทรงเป็นพระราชอุปัชฌาย์ แล้วเสด็จฯ มาทรงปฏิบัติสมณวัตรในสำนักสมเด็จพระราชอุปัชฌาย์ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร จนถึงวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๔๙๙ จึงทรงลาผนวช อยู่ ๑๕ วัน
สมเด็จพระสังฆราชเจ้าได้ทรงมอบหมายให้เป็นพระพี่เลี้ยงก็ได้ปฏิบัติหน้าที่ซึ่งได้มอบหมายให้สนองพระเดชพระคุณ จากการที่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวได้มีความรู้สึกว่า พระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศจะทรงผนวชตามราชประเพณีอย่างเดียวเท่านั้นก็หามิได้ แต่ทรงพระผนวชด้วยพระราชศรัทธาที่ตั้งมั่นในพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง มิได้ทรงเป็นบุคคลจำพวกที่เรียกว่า 'หัวใหม่' ไม่เห็นศาสนาเป็นสำคัญ แต่ได้ทรงเห็นคุณค่าของพระศาสนา
ฉะนั้น ถ้าเป็นบุคคลธรรมดาสามัญก็กล่าวได้ว่า 'บวชด้วยศรัทธา' เพราะทรงพระผนวชด้วยพระราชศรัทธา ประกอบด้วยพระปัญญา และได้ทรงปฏิบัติพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด"
พระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศกับพระอภิบาล (พระพี่เลี้ยง - สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
สมัยทรงพระผนวช พระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศเสด็จฯ ด้วยพระบาทเปล่าไปทุกหนแห่ง และทรงรักษาเวลาลงโบสถ์อย่างเคร่งครัด
"ตัวอย่างเช่น เมื่อเสด็จฯ ไปทั้งในวัดและนอกวัด ไม่ทรงสวมฉลองพระบาท แต่จะเสด็จฯ ไปด้วยพระบาทเปล่าทุกแห่ง ทรงปฏิบัติกิจวัตรต่าง ๆ อย่างสมบูรณ์ และทรงรักษาเวลา เมื่อตีระฆังลงโบสถ์ในวันปกติทุกเช้าเย็น เวลา ๘.๐๐ น. และเวลา ๑๗.๐๐ น. ก็จะเสด็จฯ ลงโบสถ์ทันที ทำให้พระภิกษุสามเณรทั้งวัดพากันรักษาเวลาอย่างเคร่งครัด โดยได้ไปประชุมกันในโบสถ์ก่อนเวลาที่จะเสด็จฯ ถึง และได้มีประชาชนมาคอยเฝ้าฯ เวลาเสด็จฯ ลงโบสถ์ทุกเช้าเย็นทุกวัน เป็นจำนวนมาก"
ที่มา : หนังสือ "สองธรรมราชา", อัครวัฒน์ โอสถานุเคราะห์