ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ผู้ปรารถนาพุทธภูมิ ทรงประทับอยู่ ณ สวรรค์ชั้นดุสิต อันเป็นที่ประทับเดียวกับพระศรีอาริยเมตไตรย!!

รู้จริง... รู้แจ้ง... ทุกเรื่องราวพระอริยสงฆ์http://panyayan.tnews.co.th

ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ผู้ปรารถนาพุทธภูมิ ทรงประทับอยู่ ณ สวรรค์ชั้นดุสิต อันเป็นที่ประทับเดียวกับพระศรีอาริยเมตไตรย!!

ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ผู้ปรารถนาพุทธภูมิ ทรงประทับอยู่ ณ สวรรค์ชั้นดุสิต อันเป็นที่ประทับเดียวกับพระศรีอาริยเมตไตรย!!

หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ พระอริยสงฆ์ที่ทุกท่านนับถือ เคยกล่าวว่าถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ว่า  “พระองค์ทรงมีกระแสจิตแรงมาก ฉันเองยังสู้ท่านไม่ได้ เรื่องปรารถนาพุทธภูมินี่ พระองค์ (ในหลวงรัชกาลที่ ๙) ปรารถนามานาน แต่เวลานี้บารมีเป็น “ปรมัตถบารมี” เหลืออีก ๕ ชาติ และที่พระองค์ปฏิบัติมามันเลยแล้ว ไม่ใช่ไม่สำเร็จ พุทธภูมินี่ต้องบำเพ็ญกันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระองค์เป็น “วิริยาธิกะ” ต้องบำเพ็ญถึง ๑๖ อสงไขยกำไรแสนกัป นี่เกิน ๑๖ อสงไขยแล้ว “แสนกัป” อาจยังไม่ครบ จึงต้องเกิดอีก ๕ ชาติ" ซึ่งในหลังจากที่พระองค์(ในหลวง รัชกาลที่๙) เสด็จสวรรคต คงจะเสด็จไปประทับในที่เดียวกับพระศรีอาริยเมตไตรย ดังเช่นที่เคยเทศสอนไว้ในหนังสือชุด “ตายแล้วไปไหน จากคำสอนของพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)” คุณคณิตพร บุณยเกียรติ (เปี๊ยก) และคณะได้รวบรวมและจัดทำขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในวันคล้ายวันเกิดของหลวงพ่อฯ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม 2544  ดังนี้

 

ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ผู้ปรารถนาพุทธภูมิ ทรงประทับอยู่ ณ สวรรค์ชั้นดุสิต อันเป็นที่ประทับเดียวกับพระศรีอาริยเมตไตรย!!

“..พระศรีอาริยเมตไตรย ในสมัยพระพุทธเจ้าท่านบวชเป็นพระมีนามว่า อชิตะภิกขุ เดิมทีท่านเป็นลูกศิษย์ของพราหมณ์พาวรี ท่านไปบวชเพื่อสร้างเสริมบารมี ต่อมาเมื่อ พระนางกีสา โคตมีได้ทอจีวรด้วยมือของตนเองปรารถนาจะถวายพระพุทธเจ้า เมื่อเวลาพระนางไปถวาย พระพุทธเจ้าเรียกพระมาหมด นั่งเรียงแถวกันตามลำดับอาวุโสและคุณสมบัติ เมื่อพระนางกีสาโคตมีถวายผ้าแก่พระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็ส่งให้พระสารีบุตร ท่านพระสารีบุตรก็ส่งให้พระโมคคัลลาน์ ท่านพระโมคคัลลาน์ก็ส่งต่อๆ กันไปหมดจนถึงองค์สุดท้ายคือท่านอชิตะภิกขุ ท่านไม่รู้จะส่งให้ใครเพราะนั่งอยู่ท้ายสุด เป็นอันว่าท่านก็รับไว้ พระนางกีสา โคตมีก็เสียใจว่าอุตสาห์ทำเองเลือกด้ายชั้นดีมาทอกับมือเองเพื่อถวายพระพุทธเจ้า แต่พระองค์ไม่รับกลับไปให้กับพระที่ไม่ได้แม้แต่ฌานสมาบัติมากมายอะไรนัก คือว่ายังเป็นพระปุถุชนคนธรรมดา องค์สมเด็จพระบรมศาสดาทรงทราบอัธยาศัยจึงเทศนาโปรดว่า พระองค์สุดท้ายไม่ใช่พระธรรมดา ท่านอชิตะภิกขุผู้นี้ต่อไปข้างหน้าจะได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง มีพระนามว่า “สมเด็จพระศรีอริยเมตไตรย” หลวงพ่อเทศไว้

ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ผู้ปรารถนาพุทธภูมิ ทรงประทับอยู่ ณ สวรรค์ชั้นดุสิต อันเป็นที่ประทับเดียวกับพระศรีอาริยเมตไตรย!!

ปัจจุบันนี้ท่านมาเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นดุสิต วิมานท่านสวยสดงดงามมาก ท่านมีรัศมีกายสว่างมาก หน้าตาผ่องใสยิ้มระรื่นน่าชื่นใจ  ท่านได้บอกกับอาตมาเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๙ ว่า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป อีก ๑ ล้านกับ ๒ ปี ท่านจะลงมาเกิดในเมืองมนุษย์แล้วเป็นปุโรหิต หลังจากนั้นเกิดความเบื่อหน่ายก็ออกแสวงหาพระโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้า และหลวงพ่อยังย้ำไว้ว่า ผู้ที่มีสิทธิไปเกิดอยู่ชั้นดุสิตได้ ๓ พวกคือ

๑) พุทธบิดาพุทธมารดาของพระพุทธเจ้า

๒) พระโพธิสัตว์ที่มีบารมีเข้มแข็งแล้ว

๓) พระอริยเจ้าตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไปจึงจะอยู่ชั้นนี้ได้

ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ผู้ปรารถนาพุทธภูมิ ทรงประทับอยู่ ณ สวรรค์ชั้นดุสิต อันเป็นที่ประทับเดียวกับพระศรีอาริยเมตไตรย!!