จบด้วยเงิน!!! คลินิกดังยอมจ่าย 7 แสนสาววัย 22 หลังผ่าศัลยกรรมเกิดปากเบี้ยว อ้างเป็นผลติดเชื้อเกิดขึ้นได้ไม่ใช่แพทย์ผิดพลาด

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

     จากกรณีที่ นางวิดารา ปาร์ค อายุ 22 ปี เจ้าของกิจการร้านกาแฟย่านพัทยากลาง จ.ชลบุรี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา โดยระบุว่า หลังเข้าไปทำศัลยกรรมปากที่คลินิกแห่งหนึ่งย่านพัทยากลาง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ทำให้ปากมีอาการติดเชื้อและทำปากเสียรูป  ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เข้าเจรจากับทางแพทย์ที่ทำการรักษาและคลินิก เพื่อร้องขอให้ชดใช้ค่าใช้จ่ายเพื่อไปทำศัลยกรรมแก้รูปปากที่ประเทศเกาหลี แต่ทางแพทย์กับคลินิกกลับไม่ยอมเจรจา โดยให้ไปพูดคุยกับทนายความแทน จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไปเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมานั้น

 

     ล่าสุด เภสัชกร ปิยะภัณฑ์ โหวิไลลักษณ์ เจ้าของกิจการ คลีนิกเสริมความงามชื่อดังในเมืองพัทยา เปิดเผยถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ทางคลินิกได้รับทำศัลยกรรมรูปปากให้เป็นกระจับในกรณีของหญิงสาวคนดังกล่าวจริง โดยได้มอบหมายให้แพทย์ผู้ชำนาญการ ที่มีใบอนุญาตและใบประกอบอาชีพทางเวชกรรมอย่างถูกต้องเป็นผู้ผ่าตัด ซึ่งทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี พร้อมกับยืนยันว่า แผลที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากความผิดพลาดจากการผ่าตัดถูกเส้นเลือดใหญ่ หรือ ปัญหาเลเซอร์ห้ามเลือดแต่อย่างใด แต่เป็นกรณีของแผลติดเชื้อซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้สำหรับการผ่าตัดในทุกระดับ

 

     แต่เมื่อเกิดอาการแพทย์ของคลินิกก็ได้แนะนำวิธีการปฏิบัติตัวของผู้ป่วย และ นัดหมายให้มาพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ แต่ผู้เสียหายกลับไม่มาพบแพทย์ตามนัด 4-5 ครั้ง แต่แพทย์ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและพยายามคิดตามดูอาการอย่างใกล้ชิดโดยไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายใดๆ

     โดยทางคลินิกได้ทำสัญญาส่งมอบเงินสดจำนวน 765,000 บาท ให้กับผู้เสียหาย และ ทำหนังสือยินยอมพร้อมขออภัยกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว สำหรับกรณีที่ทางคลินิกต้องออกมาแถลงข่าวครั้งนี้ เพราะต้องการให้สังคมรับรู้ข้อเท็จจริง ดังนั้นการจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวไม่ใช่เป็นการรับผิดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เป็นการแสดงออกถึงเจตนารมณ์ของจรรยาบรรณในวิชาชีพที่มีความรับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกกรณี

 

     ขณะที่ทางผู้เสียหายก็ได้มีการขอโทษ เรื่องการนำเรื่องราวจากความเข้าใจผิดครั้งนี้ ไปโพสต์ลงสังคมออนไลน์ พร้อมกับแจ้งกับทางตำรวจด้วยตัวเองว่า ไม่ติดใจเอาความใดๆ กับทางคลีนิกอีก