- 02 พ.ย. 2559
ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th
ตลาดหุ้นไทยภาคเช้าร่วงกว่า 10 จุด กังวลปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งกดดันตลาดหุ้นเอเชียให้อ่อนตัวลงในวันนี้
เมื่อเวลา 11.54 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,494.44 จุด ลดลง 10.08 จุด (-0.67%)
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงกว่า 10 จุด จากความกังวลความไม่แน่นอนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ หลังจากผลโพลล์ล่าสุดคะแนนความนิยมของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน ไล่ตามนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต ขึ้นมา ซึ่งก็ทำให้ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็ปรับตัวลงกันถ้วนหน้า
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงต่อในการซื้อขายภาคบ่ายวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียเปิดวันนี้ที่ 27,679.32 จุด ลดลง 197.29 จุด, -0.71% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 22,837.88 จุด ลดลง 309.19 จุด, -1.34% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,663.72 จุด ลดลง 7.21 จุด, -0.43%
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างจับตาศึกการเลือกตั้งภายหลังจากที่ผลการสำรวจความคิดเห็นหลายสำนักบ่งชี้ว่า นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต มีคะแนนสูสีกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ภายหลังจากที่สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ (FBI) พบว่ามีอีเมลใหม่ของนางฮิลลารี พัวพันกับคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมลส่วนตัว ซึ่งผลการสำรวจความคิดเห็นที่สูสีกันและการเปิดการสอบสวนกรณีการใช้อีเมลดังกล่าวยิ่งจุดชนวนให้เกิดความไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้น ขณะที่การเลือกตั้งครั้งสำคัญกำลังคืบคลานเข้ามา
โพลล์สำรวจล่าสุดโดยเอบีซี นิวส์/วอชิงตัน โพสต์ ชี้ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน มีคะแนนพลิกนำหน้านางฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต อยู่ 1 จุด ขณะที่ผลสำรวจจากเรียลเคลียร์โพลิติกส์ ระบุว่า คะแนนของผู้สมัครทั้งสองกลับมาเบียดคู่คี่สูสี นางฮิลลารีมีคะแนนนิยมนำหน้านายทรัมป์อยู่เพียง 2.2 จุด จากเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนที่มีคะแนนนำอยู่กว่า 7 จุด ขณะที่เหลือเวลาอีกเพียงไม่ถึง 1 สัปดาห์จะถึงวันเลือกตั้งใหญ่
โพลล์ล่าสุดจัดทำขึ้นภายหลังนายเจมส์ โคมีย์ ผู้อำนวยการ FBI ส่งหนังสือไปยังสภาคองเกรสเมื่อวันศุกร์ โดยระบุว่า FBI พบว่ามีอีเมลใหม่ของนางฮิลลารี พัวพันกับคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมลส่วนตัว แม้ว่า FBI ประกาศปิดคดีดังกล่าวไปในเดือนก.ค.ก็ตาม
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์มองว่า ผลโพลล์ที่บ่งชี้ว่า ทรัมป์สามารถทำคะแนนตีตื้นขึ้นมาจนสูสีและนำนางฮิลลารีได้นั้น ยิ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลมากยิ่งขึ้น
นายไซมอน จอห์นสัน นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสซาชูเซตส์ (MIT) ระบุว่า หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งวันที่ 8 พ.ย. ตลาดหุ้นก็จะดิ่งลงอย่างหนัก ขณะที่เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย
นายจอห์นสันกล่าวว่า นโยบายต่อต้านการค้าเสรีของนายทรัมป์จะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวอย่างหนัก เหมือนกับที่อังกฤษกำลังเผชิญอยู่ หลังจากการลงประชามติแยกตัวจากสหภาพยุโรป
นายจอห์นสันเขียนในรายงานว่า เศรษฐกิจยุโรปมีความเปราะบางมาก และภาวะถดถอยที่เกิดจากนโยบายต่อต้านการค้าของนายทรัมป์จะกระทบให้ยุโรปเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างเต็มรูปแบบ และจะส่งผลให้เกิดวิกฤตการณ์ในภาคธนาคาร และหากความเสี่ยงดังกล่าวไม่สามารถควบคุมได้ ก็จะทำให้เกิดวัฏจักรในเชิงลบ ขณะที่ผลกระทบต่อตลาดเกิดใหม่ และประเทศที่มีรายได้น้อยจะมีความรุนแรงมาก
เรียบเรียง บุญชัย ธนะไพรินทร์