- 08 พ.ย. 2559
ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th
กลายเป็นกระแสที่หลุดรอดผ่านออกมาในโลกโซเชียลอีกหนึ่งประเด็นสำหรับนายทักษิณ ชินวัตร ผ่านลูกสาวคนเล็กอย่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ “อุ๊งอิ๊ง” สำหรับข่าวลือเรื่องการเสียชีวิต ซึ่งท้ายสุดก็เป็นไปตามคาดการณ์ว่าเป็นเพียงข่าวลวงชิ้นหนึ่งทางสังคมออนไลน์ อย่างไรก็ตามกับประเด็นนี้ทางด้าน นายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรีของ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว@Paisal Puechmongkol แสดงความเห็นประวัติศาสตร์ทางการเมืองที่เกี่ยวโยงไว้อย่างน่าสนใจ ตามรายละเอียดดังนี้
“ ทักสินตายแล้ว ... เห็นข่าวทักษินตายแล้วก็รู้สึกใจหาย เพราะเคยรู้จักกันมานาน แต่แวบเดียวก็คิดว่าน่าจะเป็นข่าวเท็จ เพราะพอจะรู้อยู่บ้างว่าคนแบบทักษินนั้นไม่มีโอกาสตายในช่วงเดือนนี้หรอก พักเดียวก็มีการแก้ข่าวว่าไม่จริงดังที่คาดแวบแรกที่ได้อ่านข่าวว่าทักษินตายก็คิดว่าจะต้องเขียนคำไว้อาลัยให้ในฐานคนมีไมตรีต่อกันและคิดว่าจะเขียนในจุดที่มีความหักเหสำคัญ
คือการทำบุญประเทศเพราะใกล้เวลารอบ๑๒ ปีสุดท้ายของรอบการเปลี่ยนแปลงใหญ่๘๔ ปี รอบต่อจาก ๒๔๗๕ ซึ่งจะครบรอบเมื่อดาวมฤตยูเข้าราศรีเมษในปี ๒๕๕๙ ที่เดิมทีรองนายกลุงจิ๋วเป็นประธาน กำหนดแผนการทำบุญประเทศเป็น ๒ พิธีคือพิธีหลวงทำในวัดพระเก้ว จะกราบบังคมทูลพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ทรงเป็นประธาน และพิธีราษฎร์ทำที่สนามหลวงและทุกจังหวัดพร้อมกัน พิธีหลวงจะใช้บทสวดมหาราชปริตรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่แผ่นดินแลราษฎรทั้งปวง
ช่วงนั้นต้องถือว่ารัฐบาลทักษินมีขุนพลใหญ่ ๒ คนคือลุงจิ๋วดูแลทางบู๊ ป๋าเหนาะดูแลทางบุ๋นและคุมเกมในสภาเป็นประธานวิป จู่ๆทักษินก็ปลด ๒ ขุนพลเฉยเลย
ผมเขียนบทความในช่วงนั้นนั้นว่าแต่นี้ไปทักษินก็เหมือนทหารออกรบไม่ใส่เสื้อเกราะ ถูกตีก็ตาย ถูกดาบถูกทวนก็ตาย ถูกเกาฑัณฑ์ก็ตาย และในที่สุดก็ตกเก้าอี้เพราะ ๑๙ กันยา ๔๙ จนบัดนี้ ย่างปีที่ ๑๑ แล้ว
เมื่อปลด ๒ ขุนพล ก็ให้เสี่ยเพ้งคุมสภา และให้รองนายกอีกคนหนึ่งเป็นประธานกรรมการเตรียมการทำบุญประเทศแทนลุงจิ๋วโดยมีแก๊งร่วมทีมเข้ามาเป็นพรวนเท่านั้นแหละได้เรื่อง มีการรื้อแผนทำบุญประเทศเดิมทั้งหมด ให้เหลือพิธีราษฎร์เพียงพิธีเดียวแต่ดันไปทำในโบสถ์วัดพระแก้วและทักษินใส่เสื้อโปโลไปนั่งเป็นประธานพิธีเสียเอง
ใครๆก็รู้ว่าโบสถ์วัดพระแก้วนั้นเป็นสถานที่สำคัญและศักดิ์สิทธิ์ของประเทศ เป็นพุทธาวาสของพระเจ้าแผ่นดินสำหรับการพระราชพิธีของพระเจ้าแผ่นดิน ไม่ใช่ที่ซึ่งรัฐบาลหรือราษฎรจะใช้ทำอะไรได้ตามใจชอบ และตรงที่ทักษินไปนั่งนั้นก็เป็นบริเวณที่พระเจ้าแผ่นดินท่านเคยประทับนับแต่นั้นมาอัปมงคลทั้งหลายและวิบัติวินาสทั้งหลายก็ประดังเข้าใส่จนรัฐบาลนั้นล้มลงและชะตากรรมทักษินก็เป็นดังที่รู้เห็นกันอยู่
คนเราทุกคนเกิดมาแล้วย่อมต้องตาย ไม่มีใครพ้นจากความตายไปได้ เหลือไว้ก็แต่ดีชั่วประดับไว้ในโลกา คนเราทั่วไปนั้นชีวิตหนึ่งย่อมเคยทำถูกทำผิด ทำดีทำไม่ดีด้วยกันทั้งนั้น จะต่างกันที่ความสำนึกรู้จักผิดชอบชั่วดี รู้ผิดรู้ชั่วก็ละเลิกทำผิดทำชั่วเสีย รู้ดีรู้ชอบก็เร่งทำดีทำชอบนั้นให้มาก ก็ย่อมมีชีวิตประเสริฐได้ หากทำผิดทำชั่วแล้วไม่รู้ไม่ละเลิกก็ย่อมมีอนาคตอย่างเดียวกับเทวทัตนั่นแล”
เรียบเรียงโดย : ชัชรินทร์ สำนักข่าวทีนิวส์