อเมริกา???"เหนือคาดหมายที่จะคาดเดา"! โลกคืนยุค บ้านใคร-บ้านมัน  “ทรัมป์กับเศรษฐกิจพอเพียงของเปลว สีเงิน ”

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

เมื่อโลกคืนยุค บ้านใคร-บ้านมัน

 

       ดีใจ "ผมคาดหมายผิด"! บอก "นางคลินตัน" จะชนะเลือกตั้ง ๘ พฤศจิกา ๕๙ แต่ผล "ทรัมป์" ชนะ

สรุป ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ ๔๕ ต่อจากโอบามา ไม่ได้ชื่อ "ฮิลลารี คลินตัน" อย่างที่ ร้อยโพล-พันเกจิ ฟันธง แต่เป็น "โดนัลด์ จอห์น ทรัมป์" นักธุรกิจหนุ่มฉกาจ วัย ๗๐ ผู้มีเยื่อพรหมจรรย์ไม่เคยผ่านมือการเมืองมาก่อน จนชาวโลกหยัน ไอ้ขี้โม้...โวจะเป็นผู้นำโลก

แต่เมื่อเป็น.........."อเมริกันช็อก-น็อกโลก"!

       หุ้นตก ทองขึ้น ทุนนิยมพล่านเหมือนมดไต่กระทะบนเตาไฟ หลายคนที่ปรามาส ทรัมป์ชนะจะลาออกจากความเป็นพลเมืองสหรัฐฯ ต่างหาตูดหมาเอาหน้ามุด ซีกเดโมแครต ผ้าเช็ดหน้า ๗ ผืน แฉะชื้นไปด้วยน้ำตา ซีกรีพับลิกัน หัวเราะไป เขกหัวตัวเองไป...นี่ไม่ใช่ฝันใช่มั้ย ที่ทรัมป์ ชนะ?

       ทำไมโพลสหรัฐฯ จึงห่วยแตก เหมือนโพลอังกฤษตอน brexit? คำตอบที่น่าจะตรงตัวที่สุด คือ.....คนทำไม่ให้ค่า "คนแก่-คนชนบท" ยึดคำตอบคนเมืองกับคนชั้นกลาง-บน เป็นผลโพล ทุกสำนักจึงเสียหมา!

       สหรัฐฯ ตอนนี้ คนว่างงาน คนสูงอายุ คนชนบท มีมาก พวกทำโพลคงลงไปไม่ถึง เพราะไม่ให้ราคา โดยลืมไปว่า เขามีสิทธิ์ออกเสียง เมื่อผลออกเช่นนี้ "เผาสำนักทิ้ง" ควรทำ! การเมืองสหรัฐฯ เขาดูกันที่นโยบาย แล้วทรัมป์มีนโยบายอะไรที่ได้ใจอเมริกันชนส่วนใหญ่ จนพลิกประเทศ-พลิกโลก? เท่าที่ผมฟัง ทรัมป์มี "America First" นโยบาย "ปลุกกระแสรักชาติ" ชัดๆ! ถ้าผมเป็นคนชั้นล่าง คนสูงอายุ คนว่างงาน อดีตทหารผ่านศึก คนด้อยโอกาส คนเสียภาษีแพงๆ แต่ภาษีไม่สะท้อนกลับสู่พวกเขาเลย แค่ทรัมป์ประกาศ America First คะแนนใจ "เทให้ล่วงหน้า" เต็มหีบแล้ว! แต่คนรุ่นใหม่ คนระบบทุน ประเทศคู่ค้า-คู่ขาย แอนตี้ ยี้กันแต่แรก

       เพราะคำว่า America First แปลโดยคำ ก็อเมริกามาก่อน แต่ทางปฏิบัติ

       America First แปลว่า "ปิดประเทศ"!

ทรัมป์จะปิดประเทศ ถ้าได้เป็นประธานาธิบดี แน่นอนละ ผู้อยู่ในวงจรระบบธุรกิจทุนต้อง ค้าน-ต้านต่อ สุดลิ่มทิ่มดาก

แต่ "พลังเงียบ" อเมริกันชนผู้ได้รับผลกระทบและเจ็บปวดจากที่เอางบประมาณไปทุ่มนอกประเทศจนข้างในจนกรอบ

"ถูกใจมาก"

อเมริกา???"เหนือคาดหมายที่จะคาดเดา"! โลกคืนยุค บ้านใคร-บ้านมัน  “ทรัมป์กับเศรษฐกิจพอเพียงของเปลว สีเงิน ”

       ปิดประเทศ เท่ากับ เอางบประมาณกลับมาฟื้นฟู-ดูเลี้ยงชีวิตความเป็นอยู่คนอเมริกันให้อยู่ดี-มีสุขก่อน ไม่ใช่เอาไปก่อสงคราม ไปจ้างโจรปล้นโลก ไปยุยงส่งเสริมบ้านโน้น-เมืองนี้ให้ล้มชาติ ไปค้ำประกันความมั่นคงให้ประเทศไหนๆ ทั้งที่ "ประเทศตัวเอง" ตอนนี้ เหลือแต่ไข่ กับ หัวใจขาดเลือด! ก็ยังมีอีกคำถาม ทำไมโลกตกใจกลัว เมื่อทรัมป์เป็นประธานาธิบดี?

ตรงนี้ต้องดูว่า........ America First นั้น บริบทเป็นแบบไหน โดยเฉพาะด้านต่างประเทศ? จากที่หาเสียง และที่ทรัมป์เคยให้สัมภาษณ์ New York Times หลักๆ มีว่า ถ้าเขาเป็นประธานาธิบดี

-จะตัดงบความมั่นคงโลก รวมทั้งงบนาโต

-ประเทศพันธมิตร ต้องจ่ายค่าดูแลกันเอง

-เนรเทศคนเข้าเมืองผิด กม. ไม่รับมุสลิมอพยพ

-หนุน กม.การมีอาวุธปืน ที่เดโมแครตควบคุม

-เพิ่มภาษีคนรวย ลดชั้นกลางและภาคธุรกิจ

-จะเลิก NAFTA, TPP ขึ้นภาษีสกัดสินค้าจีน

       ดูแล้ว "เอเชีย-ตะวันออก" มีผลกระทบจากนโยบายทรัมป์มาก ทั้งจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รวมถึงซาอุฯ

นักข่าวถาม..........."จะสั่งถอนทหารออกจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้มั้ย ถ้าสองประเทศนี้ไม่เพิ่มงบประมาณตัวเองเพื่อดูแลค่าใช้จ่ายทางการทหาร?"  ทรัมป์ตอบทันที

       "ใช่เลย ผมจะถอนทหาร แม้ทำแล้วไม่สบายใจ แต่ก็ต้องทำ ผมพร้อมจะทำ เราไม่สามารถเสียเงินเป็นพันๆ ล้านเหรียญในสิ่งเหล่านี้อีก และผมมีความรู้สึก เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น ก็จะเพิ่มเดิมพันในการต่อรองกับเรา แต่ถ้าพวกเขาไม่ยอมควักกระเป๋ามากขึ้น ผมก็จะต้องถอนทหาร"

กับติ่งสหรัฐฯ "ซาอุฯ" ทรัมป์บอก

       "ถ้าผมได้เป็นประธานาธิบดี ผมจะหยุดซื้อน้ำมันจากซาอุฯ และประเทศอาหรับที่เป็นพันธมิตรอื่นๆ ยกเว้นเสียแต่ว่า พวกเขายอมส่งทหารภาคพื้นดินเข้าไปสู้รบกับกลุ่มรัฐอิสลาม หรือชดเชยเงินทองให้สหรัฐฯ ที่ต่อสู้กับกลุ่มหัวรุนแรงที่คุกคามความมั่นคงพวกเขา"

 

กับ "จีน" คู่กัดแห่งยุค นักข่าวถาม จะทำยังไง?

ใครว่าทรัมป์ไม่เป็นประสา ดูบทพลิ้วซะก่อน............

       "เรามีพลังเศรษฐกิจมาก แต่คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจข้อนี้ เรามีพลังทางเศรษฐกิจเหนือจีนมาก นั่นคือพลังทางการค้า เพราะจีนใช้เราเป็นธนาคาร พวกเขาใช้เรา แต่ไม่ยอมจ่ายเรา เราเป็นยิ่งกว่าธนาคาร เพราะพวกเขาเอาเงินออกไป แต่ไม่ต้องจ่ายคืนให้เรา"

ก็สมแล้ว ที่ทรัมป์บอก unpredictability คือหัวใจนโยบายต่างประเทศของเขา

unpredictability ก็คือ "เหนือคาดหมายที่ใครจะคาดเดา"!

       ถึงอย่างไรก็ต้องชม "มาตรฐานการเมือง" ของสหรัฐฯ นักการเมืองไทยจำไปใช้ก็ไม่เสียหลาย นางคลินตัน เมื่อเห็นคะแนน รู้ว่า.....ประชาชนไม่เลือกเรา เธอโทร.ไปยอมรับความพ่ายแพ้ พร้อมแสดงความยินดีกับทรัมป์ ทั้งที่ตอนขับเคี่ยว มองไม่เห็นเลยว่า "สปิริตทางการเมือง" จะมีกับนางขนาดนี้!

เช่นเดียวกัน เมื่อทรัมป์ขึ้นขอบคุณประชาชน "ว่าที่ประธานาธิบดี" ทรัมป์

เป็นคนละคนกับ "ทรัมป์-คนปากเสีย" ตอนหาเสียง! มาดละเมียด ย่างก้าวสุขุม ผมทรงกวนใจวัยรุ่นจัดแต่งทรงภูมิ ท่วงทีพูดจา ช้า...เนิบ นวล และนุ่ม  คิด...ใคร่ครวญ ก่อนหลุดแต่ละคำ พอเหมาะ-พอควร กับสถานะ และกาลเวลา

เรียกว่า "มาดประธานาธิบดี" มาเต็ม!

       คนตาแหลม "มองขาด" ที่สุดในโลก ต้องยกให้ประธานาธิบดี "ปูติน" แห่งรัสเซีย เวลคัม กับ ทรัมป์ ตั้งแต่วันแรกที่ทรัมป์ประกาศลงสนาม! อีกคนก็ต้องยกให้ "ดูเตร์เต" ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ พลันทรัมป์ประกาศชัย ดูเตร์เตก็ประกาศหามิตร "เราคบกันได้กับทรัมป์"!

อเมริกา???"เหนือคาดหมายที่จะคาดเดา"! โลกคืนยุค บ้านใคร-บ้านมัน  “ทรัมป์กับเศรษฐกิจพอเพียงของเปลว สีเงิน ”

       สำหรับบ้านเล็ก-เมืองน้อยอย่างไทยเรา.......เห็นว่า "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" แสดงความยินดีต่อประธานาธิบดีคนใหม่ไปแล้ว! มองภาพรวม การมาของทรัมป์ "ภาคเศรษฐกิจ-การค้า" ทั้งโลกผวา เพราะนโยบาย "รักษาผลประโยชน์ประเทศชาติและอเมริกันชนก่อน" ของทรัมป์ ตีโจทย์กันออกมาว่า ประเทศ "คู่ค้า" กระอัก ด้วยกำแพงภาษีและการกีดกัน ข้อตกลงต่างๆ ที่เอื้อ จะถูกรื้อฟื้น-ทบทวน

       "เงินลงทุน" และ "เงินเทา" ของสหรัฐฯ ที่กระจายตาม ตลาดหุ้น ตลาดทุน ตลาดพันธบัตร จะไหลกลับ เพราะภาษีถูก และไม่มีการรื้อฟื้น-ทบทวนเบื้องหลังเอาความ! ประเทศที่เคยได้ประโยชน์จะสะเทือนหมด โดยเฉพาะสินค้าจีน

       เมื่อ จีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ สะเทือน..........แน่นอน ด้านเศรษฐกิจ-การเงิน-การลงทุน จะสะท้านเป็นลูกโซ่ทั้งโลก!

การเงินโลก จะผันผวนหนัก สงครามอาวุธกับสงครามเศรษฐกิจ ตอบไม่ถูกว่า โลกยุคผู้คุมอำนาจชื่อทรัมป์ อย่างไหนจะน่ากลัวกว่ากัน

       สำหรับไทย ถึงตอนนี้ ต้องขอบคุณ ที่ไทยมี "รัฐบาลเผด็จการ"!

เพราะเผด็จการ ทำให้ไทยถูกสหรัฐฯ "ตัดความช่วยเหลือ" ไปเกือบหมดทุกด้าน ๒ ปีกว่าไทยเรา "ยืนบนขาตัวเอง" ทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองโลก ทำให้เรารู้น้ำหนัก และทางไป-ทางอยู่ของประเทศ เหมือน "ต้มยำกุ้ง" เป็นประสบการณ์ ทำให้การเงิน-การคลังเราแข็งโป๊ก เสถียรที่สุดแห่งหนึ่งของโลกวันนี้

       ตรองและพินิจให้ดี จะเห็นว่า........ในความโฉ่งฉ่างของทรัมป์ ล้ำลึกอยู่ที่นโยบาย "ปิดประเทศ" ฟื้นฟู-ซ่อมแซมบ้านตัวเองให้รอดและเข้มแข็ง ก่อนที่จะไปอุ้มโลก นี่คือหลัก "เศรษฐกิจพอเพียง" ทำให้มีกิน-มีใช้ก่อน เหลือจึงค่อยนำไปขาย

ขายแล้ว "กำไร" นำไป "ต่อยอดรวย"

 

 

 

 

เรียบเรียงโดย : ศิริพงศ์ สำนักข่าวทีนิวส์

ขอบคุณข้อมูล : เปลว สีเงิน นสพ.ไทยโพสต์