"มาร์ก" เชื่อ "ทรัมป์" นั่งเบอร์ 1 ทำเนียบขาว เป็นบวกกับไทย เพราะไม่ติดกรอบเดิม

ติดตามข่าวสารที่ www.Tnew.co.th

 

มาร์ก" เชื่อ "ทรัมป์" นั่งเบอร์ 1 ทำเนียบขาว เป็นบวกกับไทย เพราะไม่ติดกรอบเดิม แต่อาจจะเจอปัญหากีดกันทางการค้า ซึ่งต้องดูต่อไปว่าเขาจะไปแนวไหน

 

วันนี้ (10 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้วิเคราะห์กรณีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ที่อาจส่งผลต่อประเทศไทยว่า แสดงให้เห็นว่าในที่สุดคนอเมริกันจำนวนมากมีความรู้สึกว่าไม่ได้รับประโยชน์อะไรจากความก้าวหน้า และมีความรู้สึกสูญเสียสิ่งที่เคยมีบางสิ่งบางอย่าง ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาสามัญ เช่นมีความรู้สึกว่าเมืองนี้เคยเป็นเมืองอุตสาหกรรม เคยมีสถานที่ประกอบการที่จ้างงานที่อะไรต่างๆ แต่สูญเสียไปให้ต่างชาติ แต่นายทรัมป์มาเล่นกับความรู้สึกตรงนี้ว่าเขาจะหาทางดึงงานกลับเข้ามา แต่อีกส่วนหนึ่งที่สูญเสียไป คือความรู้สึกว่าตัวเองเป็นเจ้าของประเทศ ตรงนี้ต้องพูดถึงคนผิวขาว ที่ยังมีลักษณะทั้งเหยียดผิว เหยียดเพศอยู่จำนวนหนึ่ง ปฏิเสธไม่ได้ว่านายทรัมป์เล่นกับกระแสความรู้สึกแบบนี้ ซึ่งคนจำนวนมากคิดว่า ความรู้สึกแบบนี้เหลือน้อยแล้ว ล้าสมัย ตกยุคไปแล้ว ก็ต้องมาทบทวนใหม่ แต่อย่าลืมว่าจนถึงนาทีสุดท้าย นายทรัมป์ซึ่งใครๆ บอกว่า ตอนเริ่มต้นมาไปพูดพาดพิงในเชิงดูถูกไม่น่าเป็นที่ยอมรับ จนเกือบวันสุดท้ายกระแสก็ไม่เปลี่ยน แต่เขาก็รักษากระแส และคะแนนเสียงของตัวเองไว้ได้ แต่เมื่อนายทรัมป์เป็นประธานาธิบดีแล้วก็ต้องติดตามต่อว่าจะปรับท่าทีที่ดุดันหรือไม่ เพราะเท่าที่ฟังการปราศรัยครั้งแรกหลังชนะ ก็พยายามจะลดโทนตรงนี้อยู่ ฉะนั้นก็ต้องดูว่ากระแสทั้งหลายที่คิดว่าเป็นเรื่องที่ดีในสังคม ถ้าคนส่วนใหญ่ยังไม่สามารถรู้สึกได้ว่าเขาได้ประโยชน์ด้วยในที่สุดก็จะมีปฏิกิริยาโต้กลับ

ส่วนว่าเมื่อนายทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีแล้วจะมีผลต่อโลกอย่างไรบ้างนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงต้องขึ้นอยู่กับนโยบายเมื่อเข้าไปทำงานเหมือนกัน เพราะในที่สุดก็ต้องมีเรื่องของผลประโยชน์ที่สอดคล้องกันบ้าง ขัดแย้งกันบ้าง ถ้าจะมองว่าเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทุกครั้งก็เป็นโอกาส แต่ประสบการณ์ที่น้อยของนายทรัมป์ เป็นทั้งจุดแข็งก็ได้ จุดอ่อนก็ได้สำหรับอเมริกา ขึ้นอยู่ว่าจะเล่นกับมันอย่างไร ส่วนจะมีผลกับเอเชีย หรือกับประเทศไทยอย่างไรนั้น

 

"ตนคิดว่าอาจจะบวกขึ้น คือนายทรัมป์อาจจะไม่ค่อยยึดติดกับเรื่องของกรอบเดิมๆ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเมืองไทยในสายตาของตะวันตก ซึ่งหลุดไปจากกรอบของเขา คือมีปฏิวัติ มีการเดินขบวน บอยคอตเลือกตั้ง แล้วเขาก็ไม่ได้มารู้รายละเอียดทั้งหมด ตนจึงคิดว่านายทรัมป์จะไม่ค่อยติดกรอบตรงนี้ จึงอาจจะมาสร้างความสัมพันธ์โดยไม่ต้องสนใจการเมืองไทยเท่าไหร่ แต่อีกด้านถ้านายทรัมป์มีความเชื่ออย่างที่เคยพูดว่าสหรัฐฯ เสียเปรียบเพราะว่าประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลายเอาเปรียบ อย่างนั้นก็น่าจะเจอกับปัญหาการกีดกันทางการค้า ซึ่งต้องดูต่อไปว่าเขาจะไปแนวไหน" หัวหน้า ปชป. ระบุ