น้ำตาตกใน!! ชาวนาทุกข์ระทม น้ำป่าทะลักท่วมไร่-นาเสียหายหนัก จนต้องใช้เรือช่วยเกี่ยวข้าว!!

วันนี้ (11 พ.ย) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชัยวัฒน์ พราหมณ์ชูเอม ปลัดอาวุโส รรท.นายอำเภอบ้านผือ จ.อุดรธานี พร้อมด้วย นายสมควร บุญประคม ส.อบจ.อุดรธานี  และ นายกิตติคุณ คนบุญ นายกอบต.จำปาโมง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ออกตรวจพื้นที่ ต.จำปาโมง หลังมีน้ำป่าจากเทือกเขาภูพาน อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ไหลลงลำห้วยโมงและห้วยม่วง เอ่อล้นท่วมถนนบ้านเรือนและไร่นาพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้านเสียหาย 15 หมู่บ้าน ทำให้ข้าวในนาที่สุกเต็มที่ รอการเก็บเกี่ยวถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย

 

 

โดยที่บ้านลาน หมู่ 10 ต.จำปาโมง น้ำจากลำห้วยโมงได้ไหลทะลักข้ามถนน เข้าท่วมบ้านเรือนสูงประมาณ 30-50 ซม. ชาวบ้านต้องเก็บสิ่งของขึ้นบนที่สูง เด็กๆพากันเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน แต่ชาวบ้านต้องยืนมองน้ำที่ไหลเข้าท่วมนา ท่วมต้นข้าวที่สุกเต็มที่รอเก็บเกี่ยว บางรายยังไม่ถึงเวลาเก็บเกี่ยวเพราะข้าวยังไม่สุกเต็มที่แต่ต้องยืนต้นแช่น้ำรอให้น้ำลด ซึ่งไม่รูว่าจะลดวันไหน บางรายข้าวในนาสุกเต็มที่ ต้องมีการระดมชาวบ้านลุยน้ำเกี่ยวข้าว เพื่อนำขึ้นไปตากแดด เพื่อให้เสียหายน้อยที่สุด โดยได้ระดมลงแขกช่วยกันเกี่ยวข้าวที่แช่น้ำสูง 1-1.50 เมตร และเกี่ยวข้าวใส่เรือท้องแบน กะละมังพลาสติกเพื่อนำขึ้นไปตากให้แห้ง

นางสมจิต ศรีภูธร อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96 หมู่ 15 บ้านม่วง ต.จำปาโมง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี  ชาวนาที่ถูกน้ำท่วม เปิดเผยว่า ตนทำนาปลูกข้าวเหนียว กข 6 จำนวน 14 ไร่ อยู่ติดกับลำห้วยโมง เวลา 03.00 น. วันที่ 9 พฤศจิกายน น้ำป่าจากลำห้วยโมงได้ไหลทะลักเอ่อท่วมบ้านตนที่อยู่ติดกับลำห้วยแบบตั้งตัวไม่ทัน ตนต้องเรียบเก็บสิ่งของพาลูกออกมาอยู่บนที่สูง ซึ่งขณะนี้น้ำได้ท่วมบ้านสูงประมาณ 1 เมตร และยังท่วมที่นาของตนจนมิด ไม่เห็นแม้แต่ยอดต้นข้าว มองไปเห็นแต่พื้นน้ำ ได้แต่ยืนมองรอให้น้ำลด “น้ำจากลำห้วยโมงเคยท่วมใหญ่เมื่อปี 2538 และท่วมเรื่อยมาแต่ไม่มากเมื่อ 3 ปีก่อนมีการลอกลำห้วย ทำให้น้ำท่วมอีกเลย แต่มาปีนี้น้ำมาเร็วมาก แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย และท่วมหนักมาก ในรอบ 30 ปี”

 

 

นายชัยวัฒน์ พราหมณ์ชูเอม ปลัดอาวุโส รรท.นายอำเภอบ้านผือ จ.อุดรธานี กล่าวว่า น้ำป่าไหลมาจากเทือกเขาภูพาน อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ลงลำห้วยโมงและลำห้วยม่วง มวลน้ำจำนวนมากไหลทะลักเข้าท่วมไร่ นา ถนนและบ้านเรือนชาวบ้านอย่างรวดเร็ว จำนวน 15 หมู่บ้าน ทำให้ต้นข้าวที่สุกเต็มที่และรอการเก็บเกี่ยวต้องแช่น้ำ ไร่นาที่น้ำท่วมสูงก็รอให้น้ำลด ส่วนที่ท่วมไม่สูงมากต้องลุยน้ำเกี่ยวข้าว เพื่อให้เสียหายน้อยที่สุด จากการสำรวจพบว่า ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 1,008 หลังคาเรือน ไร่นาได้รับความเสียหาย 8,580 ไร่ บ่อปลา 45 บ่อ ถนนชำรุด 1 สาย มูลค่าความเสียหาย 20 ล้านบาท

 

 

สำหรับมวลน้ำทั้งหมดจะไหลผ่านไป ต.บ้านผือ ต.กลางใหญ่ และ ลงแม่น้ำโขงที่ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ส่วนการช่วยเหลือ ได้ระดมทั้งฝ่ายปกครอง ได้ประสานกับ อปท. และทุกส่วนของภาครัฐ ระดมกำลังแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าก่อน ส่วนระยะยาว ต้องออกสำรวจความเสียหาย และรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีทราบ สิ่งที่เสียหายมากที่สุดคือนาข้าวในตอนนี้

 

 

ภาพ/ข่าว : กฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าวผู้ภูมิภาค จ.อุดรธานี