หยิบมาดูทุกครั้งที่ท้อ!! "จา พนม"ยึดสิ่งเดียวที่ใกล้ตัวสื่อถึงในหลวงร.๙เป็นแรงบันดาลใจ ภูมิใจได้เล่าเรื่องพระองค์ให้เพื่อนนักแสดงฮอลลีวูดฟัง

     "จา พนม ยีรัมย์" หรือ "ทัชชกร ยีรัมย์" ซุป ตาร์แอ็กชั่นระดับโลก พร้อมภรรยา "บุ้งกี๋ ปิยรัตน์" มาร่วมแจกขนมและอาหารให้ประชาชนที่มาถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ พร้อมด้วยทีมงานและพระสหายของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้า อทิตยาทรกิติคุณ พระธิดาองค์เล็กในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี รวมทั้งคุณเล็ก-คุณดาวแห่ง Coffee Beans by DAO บริเวณสนามหลวง เต็นท์ที่ 11 โซนเหนือ โดยงานนี้จาเผยว่า ตนยึดเหรียญบาทเอาไว้ติดตัวและเป็นแรงบันดาลใจเวลาที่ท้อเสมอ

 

 

 

"วันนี้ผมก็นำข้าว นำเสบียงมาแจกจ่ายกับพี่น้องชาวไทยครับ ก่อนหน้านี้ก็มาแล้วเพียงแต่ไม่ได้ออกสื่อ ผมเชื่อว่าหัวใจของชาวไทยทุกคนที่อยู่ทั่วโลกต่างก็เศร้าอยู่กับความอาลัย แล้วก็ทำสิ่งที่ดีที่สุดทำออกมาจากใจ เพราะวันนี้ถือว่าเราได้มีโอกาสได้เจอสื่อ ปกติผมมาก็น้อยมากที่จะได้เจอ ผมก็เป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่รักพระองค์ท่าน และเป็นลูกคนหนึ่งที่สามารถทำหน้าที่ตอบแทนบุญคุณต่อประเทศชาติ ต่อพระเจ้าแผ่นดินของเรา ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นการทำความดี คิดดีทำดี ผมเชื่อว่าทุกคนสามารถแสดงออกได้"
      
      

"ตั้งแต่ที่ผมเกิดมาก็ได้เจอเหรียญบาทแล้วครับ เหรียญบาทเป็นแรงบันดาลใจผลักดันให้ผมได้มีแรงต่อสู้ เพราะว่าหยิบขึ้นมาดูเมื่อไหร่ มันมีความรู้สึกว่าท่านได้ทำให้กับแผ่นดิน เมื่อผมเจออุปสรรคไม่รู้กี่ครั้ง ผมนึกถึงพระองค์ท่าน ผมว่าการที่ผมได้เจออุปสรรคนั้นมันแต่สิ่งที่เล็กๆ แต่พระองค์ท่านทรงฝ่าฟันอุปสรรคตั้งมากมาย พระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านที่เสด็จไปเยี่ยมพสกนิกรทั่วประเทศไทย และยังมีต่างประเทศอีก ได้เห็นความเหนื่อยยากของพระองค์แล้ว ผมว่าอุปสรรคเล็กๆ น้อยๆ ที่เราเจอเนี่ยมันหายไปเลยครับ แล้วก็มองท่านเป็นฮีโร่ เป็นแรงบันดาลใจของเราที่ทำให้เราลุกขึ้นฝ่าฟันกับอุปสรรค"

 

     ไม่มีโอกาสถวายงาน แต่ปิดทองหลังพระตามรอยพระองค์

 

"ในส่วนตัวผมยังไม่เคยครับ แต่ว่าผมทำเบื้องหลัง ที่ท่านบอกว่าการปิดทองหลังพระ คนไม่ชอบปิดทองหลังพระ แต่ทุกวันนี้ผมว่าคนไทย ความดีงามทุกวันนี้ท่านทำไว้ให้หมดแล้ว ท่านเดินมาก่อนแล้ว เพียงแต่ว่าเราจะเดินตามท่านหรือไม่ ในฐานะที่ผมเป็นคนไทยคนหนึ่งผมเชื่อว่าความรู้สึกของคนไทยหลายคนอยากจะพูดเหมือนกับผมคือเดินตามรอยท่าน"

 

     หยิบเหรียญบาทมาดูทุกครั้งที่ท้อ นำศิลปะการต่อสู้เป็นตัวแทนรัชกาลที่ ๙ ไปเผยแพร่

 

"ผมก็จะบอกว่าผมมาจากเมืองไทย มีพระมหากษัตริย์ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ต่อสู้ ผมนำศิลปะการต่อสู้มวยไทย หมัด เท้า เข่า ศอก คือนวอาวุธ อาวุธทั้ง 9 อย่าง เป็นตัวแทนของรัชกาลที่ ๙ ไปเผยแพร่ เขาก็ถามว่าทำไมคุณถึงอดทนฝึกฝนได้มาถึงขนาดนี้มีคนถาม ผมก็บอกว่าเวลาผมท้อผมจะถึงนึกพระองค์ท่าน ท่านเหนื่อยมากกว่าผม แค่เรานึกถึงเมื่อไหร่ก็เป็นพลังให้เราอย่างดี ไปต่างประเทศไม่มีใครแค่หยิบเหรียญบาทท่านขึ้นมาดู"

 

      บอกแม้แต่ดาราฮอลลีวูดยังชมเมืองไทยเป็นประเทศที่สุดยอด ตื้นตันเป็นประเทศเล็กๆ แต่มีพระมหากษัตริย์ที่สุดยอด เป็นยิ่งกว่าซูเปอร์ฮีโร่

 

"ผมว่าชาวต่างชาติก็รักในหลวงนะครับ เพราะผมได้เจอเพื่อน เขาบอกผมว่าคุณมี King number one ผมไม่มีโอกาสแบบนี้ รู้สึกภูมิใจแทนประเทศคุณ และดีใจแทนคนไทยทุกคนด้วย ผมบอกเพื่อนหลายๆ คนไม่ว่าจะเป็น วิน ดีเซล, เจสัน สเตแธม เขามาที่เมืองไทย เขาบอกว่าประเทศคุณสุดยอดมาก ผมพูดได้อย่างเต็มปาก ว่าเราเป็นประเทศเล็กๆ แต่ว่าเรามีพระมหากษัตริย์ที่สุดยอด เป็นยิ่งกว่าซูเปอร์ฮีโร่"

 

"กลับมาไทยครั้งนี้หลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างก็เปลี่ยนแปลงไป แต่อยากให้ทุกคนเข้มแข็ง เราสูญเสีย แต่อย่าเสียศูนย์ ตั้งหลักตั้งใจร่วมแรงร่วมใจทำและตอบแทน สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดไม่ได้ อะไรที่สามารถทำและสามารถตอบแทนพระองค์ท่านได้ ซึ่งนั่นก็คือการเป็นประชาชนที่ดี เป็นลูกที่ดี ให้ดีที่สุดครับ"
      
      

      นอกจากนี้ จา พนม ยังได้อัปเดตชีวิตการทำงานในต่างประเทศให้ฟังเพิ่มเติม

 

"ตอนนี้เพิ่งจะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ทริปเปิ้ล เอ็กซ์ ภาค 3 เสร็จครับ และก็กำลังจะมีผลงานภาพยนตร์ฮ่องกง ซึ่งเรื่องนี้ก็มีนักแสดงชื่อดังหลายท่าน น่าจะได้ชมกันภายในปีหน้า ผมภูมิใจมากครับ ในเรื่องผมรับบทเป็นตำรวจไทยที่ใช้ความสามารถด้านมวยไทยเป็นหลัก ซึ่งจะเก่งและถ่ายทอดออกมาดีขนาดไหนอันนี้ต้องรอดูกัน นอกจากสองเรื่องนี้ก็มีเรื่องอื่นติดต่อมานิดหนึ่ง จะเป็นเรื่องคล้ายๆ ทีมเอ็กซ์เพ็นดิเบิลส์แต่เป็นของเอเชีย ก็อยากให้รอติดตามเหมือนกันครับ ตอนนี้มีงานติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ ครับ ก่อนหน้านี้ก็จะไปๆ มาๆ ครับ แต่ว่าตอนนี้อยู่เมืองไทยยาวหน่อยเพราะว่ามีคิวถ่ายหนังที่เมืองไทยด้วย"

 

 

 

   ไม่เสียดายชวดเล่น Fast 8 ฟุ้งแค่ได้เล่นเรื่องทริปเปิ้ลเอ็กซ์ ถือว่ายิ่งใหญ่มากแล้ว

 

"อ๋อ คิวผมไม่ได้ครับ เพราะผมเปลี่ยนมาเป็นทริปเปิ้ลเอ็กซ์ มันก็เลยทำให้คิวคลาดเคลื่อนกัน อีกอย่างคาแรกเตอร์ผมก็จัดมาเต็มกับทริปเปิ้ลเอ็กซ์ด้วย ก็คงไม่ได้เห็นกันในเรื่องนั้น ถามว่าเสียดายมั้ยก็ไม่เป็นไร เพราะแค่การได้เล่นทริปเปิ้ลเอ็กซ์ก็ถือว่าเป็นที่สุดแล้ว ส่วนทางเขาจะเสียดายมั้ยอันนี้ก็เป็นเรื่องของการเจรจาในระดับสูงขึ้นไป เป็นเรื่องของสตูดิโอ แต่ว่าทาง วิน ดีเซล หรือว่าพรรคพวกผมนักแสดงคนอื่นๆ เขาก็ยังอยากที่จะร่วมงานกัน หากมีอะไรหรือมีบทให้เล่นก็ยินดี แต่สำหรับเรื่องทริปเปิ้ลเอ็กซ์ ผมก็ถือว่ายิ่งใหญ่มากแล้วครับ"

 

     ภูมิใจได้ร่วมงาน "วิน ดีเซล" ได้นำเสนอลีลาการต่อสู้ ส่วนหนังไทยยังไม่มีใครติดต่อ

 

"ภูมิใจครับ เพราะผมเองก็เป็นแค่นักแสดงไทยคนหนึ่งที่มีโอกาสได้ร่วมงานกับนักแสดงฮอลลีวูด ได้นำเสนอลีลาการต่อสู้ ศิลปะมวยไทย เรื่องคิวงานก็มีทีมงานในส่วนของต่างประเทศดูแลอยู่ครับ ส่วนเรื่องรายละเอียดอะไรยังไงนั้นผมขออนุญาตไม่ชี้แจงดีกว่า ส่วนภาพยนตร์ไทยอันนี้ต้องรอดูเลยครับ เพราะยังไม่มีใครติดต่อมาเลย อีกอย่างมันต้องดูบทดูคิวด้วย คือถ้าจะทำหนังไทยจริงๆ ก็ต้องทำให้มันออกมาดูเป็นอินเตอร์เนชั่นแนล"