แจมทุกเรื่อง !!!  "นพ.เหวง"  แนะรัฐ เปลี่ยนเวลาออกกำลังกาย แต่เมื่อฟังเหตุผลแล้ว...  เกี่ยวอะไรด้วย (รายละเอียด)

นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช. กล่าวว่า การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพแน่นอน แต่ต้องพอควรและสม่ำเสมอ ถ้าเป็นไปได้ก็น่าจะทุกวัน วันละสามสิบนาทีเป็นอย่างน้อย ที่สำคัญ ต้องไม่ทำให้การงานประจำเสียหาย ไ

นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช. กล่าวว่า การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพแน่นอน แต่ต้องพอควรและสม่ำเสมอ ถ้าเป็นไปได้ก็น่าจะทุกวัน วันละสามสิบนาทีเป็นอย่างน้อย ที่สำคัญ ต้องไม่ทำให้การงานประจำเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นราชการหรือเอกชน การที่ท่านผู้นำใส่ใจในการสร้างเสริมสุขภาพให้แก่ข้าราชการทั้งหมดเป็นสิ่งที่ดีควรสนับสนุนและชมเชย แต่ต้องไม่เสียหายงานประจำ

ดังนั้น การจัดเวลาที่เหมาะสมในการออกกำลังกายของข้าราชการจึงเป็นเรื่องสำคัญ การใช้เวลาราชการวันพุธบ่ายย่อมมีโอกาสให้เกิดความเสียหายแก่งานราชการไม่มากก็น้อย ทำไมไม่เชิญชวนให้ใช้เวลา 16.30 น. ของทุกวันศุกร์ จะไม่เกิดความเสียหายแก่งานราชการเลย หรือหากท่านผู้นำจริงใจจริงจังในการ สร้างเสริมสุขภาพแก่ข้าราชการทุกคน ก็ควรจะ เชิญชวนหรือใช้มาตรา 44 ให้ข้าราชการทุกคน มาออกกำลังเวลา 7.30 น. ทุกวันทำงานสักครึ่งชัวโมง ก่อนถึงเวลาทำงาน 08.00 น. ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกๆฝ่าย รวมทั้งช่วยแก้ปัญหาจราจรในกทม.ได้เป็นอย่างดีด้วยตนเสนอใหเท่าน และพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลองพิจารณาดู แทนที่จะสัมภาษณ์ในลักษณะที่ท่านให้สัมภาษณ์ไปแล้ว

ย้อนกลับไป 23 พฤศจิกายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำคณะรัฐมนตรี และข้าราชการประจำทำเนียบรัฐบาลแต่งกายด้วยชุดวอล์มร่วมออกกำลังกาย เพื่อส่งเสริมสุขภาพร่างกายของข้าราชการ ภายหลังจากที่ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ให้ข้าราชการทั่วประเทศ ออกกำลังกายทุกวันพุธ โดยเริ่มในวันที่ 30 พ.ย.นี้ สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้แบ่งออกเป็น 3 กิจกรรม ได้แก่ แอโรบิค เดิน หรือยืนแกว่งแขน เล่นโยนห่วงและจานร่อน ซึ่งจัดบริเวณรอบสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า โดยมีกลุ่มเจ้าหน้าที่จากกรมพลศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้นำในการทำกิจกรรม และมีการเตรียมรถพยาบาลสำหรับเกิดเหตุฉุกเฉินด้วย

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ไม่ได้เอาทหารมาฝึก ส่วนการเลือกออกกำลังกายวันพุธ นั้น เนื่องจากเป็นวันทำงานกลางสัปดาห์ จึงอยากให้เป็นการกระตุ้นให้อีก 2 วัน ที่เหลือให้ทุกคนได้ทำงานอย่างเต็มที่ และได้สนุกร่วมกัน โดยจะไม่มีการเช็กยอดคนมาร่วม แต่หากสะดวกก็ขออนุญาตผู้บังคับบัญชามาร่วมได้ อย่างไรก็ตาม กิจกรรมเหล่านี้เป็นการทำเพื่ออนาคตเพื่อให้ทุกคนมีความเข้มแข็งและแข็งแรง โดยเริ่มจากการปฏิรูปตัวเอง